“ยิ่งลักษณ์” เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด 6 แห่ง พร้อมตัวแทนจาก กทม.ทวงถามความคืบหน้าเยียวยาน้ำท่วม กำชับต้องโปร่งใส ตรงไปตรงมา ผู้ว่าฯ นนทบุรี ชี้ เหตุชาวบ้านตกสำรวจ เพราะมีการโอ้อวดของผู้ที่ได้รับเงิน จึงยื่นคำร้องเพิ่ม ผู้ว่าฯ ปทุม อ้างบ้านที่ได้เงินเยียวยา 200 บาท ยกพื้นสูง เสียหายแค่ปลั๊กไฟ ด้าน กทม.แจงไม่ขอเพิ่มงบ
วันนี้ (26 มิ.ย.) หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด 6 จังหวัด ประกอบด้วย ลพบุรี สมุทรสาคร นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อยุธยา และ กทม.รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาซ่อมบ้านเรือนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เมื่อปลายปีที่ผ่านมา หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ว่า ได้รับเงินชดเชยไม่เท่าเทียมและไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รายงานว่า จากการตั้งทีมงานลงพื้นที่สำรวจการจ่ายเงินเยียวยาที่ไม่เท่าเทียมนั้น มีความเข้าใจกันหรือไม่ โดยในวันที่ 7-9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อวางกติกา และหลักเกณฑ์ให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งตอนจังหวัดที่มีปัญหาประชาชนเข้าใจไม่ตรงกัน คือ ในจังหวัดนนทบุรี และปทุมธานี
จากนั้น นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวรายงานว่า สาเหตุการตกสำรวจการจ่ายเงินเยียวยา เนื่องจากประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านจัดสรรและอยู่บ้านเฉพาะวันหยุดทำให้มีผู้ตกสำรวจ รวมทั้งผู้ประสบที่จะได้รับเงินชดเชย 20,000 บาท ก็มีความเกรงใจรัฐบาล ว่า จะเอาเงินที่ไหนมาให้ จึงไม่ได้มายื่นคำร้องขอรับเงินชดเชย ทั้งนี้ การจ่ายเงินชดเชย 5 พันบาท ให้กับผู้ประสบภัยมีทั้งหมด 250,000 ราย มีผู้ยื่นคำร้องขอเงินชดเชย 150,000 ราย มีผู้ประสบภัยที่ตกสำรวจ 100,000 ราย โดยคนกลุ่มนี้ภายหลังมีความประสงค์จะขอรับเงินเยียวยาด้วย ทำให้มีจำนวนเพิ่มอีกจำนวน 80,000 ราย เนื่องจากผู้ที่ได้รับเงินเยียวยารอบแรก มีการโอ้อวดเพื่อนบ้านถึงตัวเลขเงินที่ได้รับ ส่งผลให้ยอดผู้มายื่นคำร้องมีจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ได้มีการชี้แจงกับประชาชนที่ได้รับเงินเยียวยาที่ไม่เท่าเทียมกันแล้ว รวมถึงได้ให้ตัวแทนนายอำเภอ ตัวแทนท้องถิ่น ตัวแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนประชาชน ออกไปสำรวจใหม่ตามข้อเท็จจริงและมีการตรวจสอบด้วย
นายขจรศักดิ์ สิงห์โตกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวรายงานว่า ผู้ประสบภัยที่ได้รับเงินชดเชยเยียวยา 5 พันบาท มีจำนวน 360,000 ราย ได้รับเงินแล้ว 235,000 ราย เหลืออีก 125,000 ราย ที่ยังไม่ได้รับเงิน และเงินดังกล่าวก็ไม่ค้างอยู่ที่จังหวัด เป็นเรื่องที่ธนาคารออมสินพร้อมจ่าย แต่ประชาชนยังไม่ได้มายื่นเรื่องรับเงิน ทั้งนี้ ทางจังหวัดก็ได้กำชับให้นายอำเภอทุกอำเภอทำหนังสือถึงประชาชนให้มาขอรับเงินชดเชยแล้ว รวมถึงผู้ที่ตกสำรวจด้วย ซึ่งทางจังหวัดก็พบปัญหาเดียวกับที่ จ.นนทบุรี ที่มีประชาชนแสดงเจตนาขอรับเงินเพิ่มเติม ซึ่งทางเราก็ได้มีการพิจารณาแล้ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ถามถึงปัญหาการจ่ายเงินในพื้นที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ที่ได้รับเงินเยียวยาเพียง 200 บาท โดยผู้ราชการจังหวัดปทุมธานี ชี้แจงว่า ได้แก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว พร้อมกับระบุว่า บ้านที่ได้รับเงินเยียวยา 200 บาท เป็นบ้านไม้ที่ยกพื้นสูงน้ำท่วมไม่ถึงตัวบ้าน มีแค่ปลั๊กไฟที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งตามหลักเกณฑ์แล้วการชดเชยเรื่องอุปกรณ์แสงสว่างจะได้ไม่เกิน 200 บาท แต่หลังจากร้องเรียนเพิ่มเติมว่าบันไดบ้านเสียหายจึงจ่ายเพิ่มเติมอีก 8,000 บาท ซึ่งผู้ร้องเรียนก็พึงพอใจ
จากนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้กำชับกับผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ว่า การที่ตนถามเรื่องการจ่ายเงินชดเชยเยียวยา ก็เพื่อให้กลไกทุกอย่างทำถูกต้อง และโปร่งใส เป็นสิ่งที่ผู้ราชการต้องไปตรวจสอบและชี้แจงกับประชาชน ซึ่งตนไม่อยากให้ประชาชนกังวลใจ เพราะมีหลายคำถามว่า 15 บาท 200 บาท 800 บาท จ่ายได้อย่างไร ตนอยากให้ดูแบบตรงไปตรงมา อย่างเต็มที่และอย่าดูในสิ่งที่แก้ปัญหาไม่ถูกทาง
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งมีวงเงิน 1,956 ล้านบาท มีผู้ประสบภัย 138,348 ราย ซึ่งมีประชาชนที่มาขอรับเงินชดเชยเพิ่มเติมจำนวน 50,643 ครัวเรือน เป็นวงเงิน 748 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ได้ให้องค์กรท้องถิ่นลงไปสำรวจแล้ว
ด้าน นายสิทธิชัย ท้วมสกนธ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร กล่าวรายงานในส่วนของพื้นที่ กทม.ว่า การดำเนินการได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบของสำนักเขต โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ฝ่ายพัฒนาชุมชน ฝ่ายการโยธา และตัวแทน ส.ก. ส.ข.เข้าไปตรวจสอบตามที่ประชาชนยื่นคำร้องเรียนไว้ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ งบประมาณในการจ่ายเงินเยียวยา 42 เขตที่ประสบอุทกภัยมีเพียงพอ และไม่ของบประมาณเพิ่ม ซึ่งสามารถดำเนินการได้
