นายกฯ สั่ง รมต.ลงพื้นที่ 31 จังหวัดที่ประสบปัญหาอุทหกภัยโดบเฉพาะจังหวัดปทุมฯ หลังชาวบ้านปิดถนนร้องเยียวยาไม่เป็นธรรม ขีดเส้น 1 เดือนต้องแล้วเสร็จก่อนฝนมา พร้อมระบุหลักเกณฑ์ต้องชัดทั้งประเทศ ไม่อยากเห็นชาวบ้านปิดถนนอีก ทำเสียเวลาทำมาหากิน ปัดจับผิด ขรก. แค่อยากเห็นความเป็นธรรม เตรียมเรียกประชุม ผวจ.ทั่วประเทศสแกนปัญหาเยียวยาไม่เป็นธรรม
วันนี้ (5 มิ.ย.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปยังวัดสุราษรังสรร หรือวัดดอน ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เพื่อพบปะชาวบ้าน และติดตามปัญหาเรื่องการจ่ายเงินเยียวยา โดยเฉพาะการซ่อมบ้านเรือนหลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 ที่ยังมีปัญหาจากการตรวจสอบ และจ่ายเงินที่มีความเหลื่อมล้ำกันมาก ซึ่งบางครัวเรือนได้รับเงินเยียวยาถึง 20,000 บาท ขณะที่บางครัวเรือนได้เพียง 200-1,000 บาทเท่านั้น ทั้งที่อยู่พื้นที่เดียวกัน ขณะที่ นายขจรศักดิ์ สิงโตกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ระบุว่า จ.ปทุมธานีได้รับงบประมาณในการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เมื่อปลายปี 2554 รวม 4,290 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินชดเชยครัวเรือนละ 5,000 บาท 360,000 ครัวเรือน เงินช่วยเหลือค่าซ่อมแซมบ้านเรือน 250,000 ครัวเรือน โดยเริ่มจ่ายไปเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา มีกำหนดจ่ายครบวันที่ 21 มิ.ย.นี้
นายขจรศักดิ์กล่าวว่า กรณีที่มีชาวบ้านร้องเรียน มีการตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบ และจะเริ่มลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.เป็นต้นไป
ด้าน นายเฉลิม รัตนเกื้อ นายอำเภอสามโคก กล่าวว่า จากผู้มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือค่าซ่อมแซมบ้านเรือนใน อ.สามโคก รวม 15,000 ครัวเรือน มีถึง 7,600 ครัวเรือนที่ทำเรื่องร้องเรียนเข้ามา
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลมารับฟังปัญหาด้วยตนเอง เพื่อให้แน่ใจว่าทุกหน่วยงานดูแลประชาชนเต็มที่ และเป็นไปด้วยความยุติธรรม ซึ่งตนเองได้ติดตามการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วม ตั้งแต่ 5,000 บาท จนถึงการเยียวยาบ้านเรือน ยืนยันไม่เคยทอดทิ้ง รัฐบาลมีความเห็นใจ และต้องขอขอบคุณชาวปทุมธานีที่ร่วมฟันฝ่าอุปสรรค ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณลงมาในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อดูแลบริหารจัดการน้ำในภาพรวมแล้ว
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การดูแลเยียวยา รัฐบาลจะดูแลทุกคนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ระหว่างตนเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ได้เห็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ชาวอำเภอสามโคกคับอกคับใจ เรื่องการดูแลเยียวยาบ้านเรือนที่ภาครัฐจ่ายให้ ซึ่งตนได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลให้ความเป็นธรรมกับประชาชน โดยหลักการ ถ้าประชาชนทำเรื่องมา และทางจังหวัดตกหล่น และประชาชนพอใจ ก็ให้ทำเรื่องเบิกเงินได้เลย แต่ถ้าหากยังเกิดข้อถกเถียงเรื่องค่าชดเชยน้อยเกินไปก็จะมีคณะกรรมการเข้าไปพิจารณาประเมินข้อเท็จจริง และขอยืนยันว่ารัฐบาลอยากช่วย แต่บางครั้งติดในเรื่องของกฎกติกา
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานของรัฐจะต้องยึดหลักการเดียวกันในทุกพื้นที่ที่จะเข้าไปตรวจสอบ พร้อมกันนี้ตนจะเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเพื่อย้ำให้ไปดูแลประชาชนไม่ให้เกิดปัญหาตกหล่น โดยทางจังหวัดมีหน้าที่ต้องติดตามเอาใจใส่ดูแลประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรม
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า วันนี้ตนได้สั่งการรัฐมนตรี 31 ท่าน ลงในพื้นที่ 31 จังหวัด ที่ประสบอุทกภัย เพื่อให้ดูแลว่าได้รับเงินเยียวยาอย่างยุติธรรม และทั่วถึงหรือไม่ พร้อมทั้งติดตามงบประมาณการแก้ไขปัญหาน้ำทั้งหมดที่ได้อนุมัติลงไป โดยการลงพื้นที่ให้ใช้เวลา 10 วัน แล้วนำเรื่องกลับมารายงานให้ตนเองทราบ ซึ่งในส่วนของจังหวัดปทุมธานี ได้มอบหมายให้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หรือไอซีที เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งโครงการน้ำทั้งหมดรัฐบาลได้อนุมัติดำเนินการไปแล้ว 94 โครงการ และโครงการใดเงินไม่พอให้เอาเงินไปช่วยเพิ่มเติม
ภายหลังจากที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ประชาชนได้สอบถามความคืบหน้าเรื่องการร้องเรียนปัญหาการเยียวยา ที่อำเภอคลองควาย จังหวัดปทุมธานี ที่ไม่มีหลักเกณฑ์และรายละเอียดเยียวยาที่ชัดเจนเหมือนอำเภออื่นๆ ในจังหวัดปทุมธานี เช่น อำเภอเมือง เป็นต้น อย่างไรก็ตามอำเภอคลองควายได้รับเงินน้อยกว่าอำเภออื่น เนื่องจากไม่มีหลักเกณฑ์ ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลทำงานในภาพรวมร่วมกับท้องถื่น
จากนั้นนายกฯ ได้เรียกนายอำเภอคลองควายมาชี้แจง โดยนายอำเภอชี้แจงว่า เราได้นำเรื่องร้องเรียนของประชาชนที่เขียนคำร้องมาทบทวนและจัดตั้งคณะกรรมการดูรายละเอียดของแต่ละคนแล้ว โดยจะทำการเอกซเรย์ทั้งหมดที่มีปัญหาซึ่งได้ดำเนินการแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า หลักเกณฑ์การจ่ายเงินต้องชัดเจนกับพี่น้องประชาชนเพื่อให้เกิดความสบายใจและขอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยตั้งคณะกรรมการจัดทำหลักเกณฑ์เพื่อให้ได้เงินเยียวยาเท่ากันหมด ซึ่งจะช้าบ้างก็ต้องขอความกรุณา เรายอมแก้กันตามหลักเกณฑ์ซึ่งขอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยดูทั้งหมดทุกพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานี เรื่องนี้ต้องเข้มข้น เราไม่อยากเห็นความไม่เสมอภาค แต่ก็ขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย เรามาทำเพื่อความสบายใจไม่ใช่มาจับผิด ในส่วนของ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนต้องมีหน้าที่ดูแลประชาชน ซึ่งก็ต้องฝาก ส.ส.ด้วย ต่อไปมีปัญหาอะไรให้มาแจ้งได้เลย
ขณะที่ชาวบ้านได้สอบถามนายกฯ ว่า ที่นายกฯ บอกว่าให้รอหน่อยต้องรออีกกี่วันกี่เดือน เพราะชาวบ้านรอมาหกเดือนแล้ว โดยทางนายกฯ ได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ชี้แจง โดยทางผู้ว่าฯ บอกว่า หากเรื่องใดที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนก็จ่ายได้เลย และหากมีการแจ้งชื่อไปแล้วก็ขอให้มารับเงินได้ทันที ส่วนที่นายกฯ ขอให้มีการดูแลเพิ่มเติมก็ต้องมีการรวบรวมและส่งไปที่ส่วนกลาง ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ได้สอบถามปลัดกระทรวงมหาดไทยว่าใช้เวลา 1 เดือนไหวหรือไม่ ก่อนฝนมาต้องได้ ถ้าไม่ได้ให้โทร.แจ้งที่หมายเลข 1111 ได้เลย
จากนั้นชาวบ้านได้ปรบมือแสดงอาการดีใจ โดยนายกฯ กล่าวว่า ได้ยินเสียงปรบมือแบบนี้ก็สบายใจ ตนไม่อยากเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์เพราะรู้สึกเศร้าใจ ซึ่งก็ต้องฝากทางผู้ว่าฯ ให้ดูแลประชาชน ขอให้ประชาชนอดทน มีอะไรก็ขอให้บอก รัฐบาลยืนยันที่จะให้ความร่วมมือและก็ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนราชการที่ติดตามแก้ไขปัญหาให้ประชาชน วันนี้เราพูดเรื่องการจ่ายเงินเยียวยา เราไม่อยากให้รอจนเกิดปัญหาประชาชนประท้วงอยู่บนท้องถนน เพราะจะเสียเวลาทำมาหากิน อย่างนี้เราไม่เอา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่นายกฯ ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนร้องเรียนและได้มีการเรียกให้ข้าราชการท้องถิ่นนั้นๆ ชี้แจงกับประชาชน ปรากฏว่าข้าราชการบางคนมีสีหน้าถอดสีเล็กน้อยและข้าราชการทุกคนรวมถึงชาวบ้านค่อนข้างพึงพอใจกับบทบาทของนายกฯ ที่มีความเด็ดขาด ประชาชนบางส่วนก็ยกนิ้วให้นายกฯ และเปล่งเสียงบอกว่า “เป็นนายกฯ ต้องแบบนี้” ขณะเดียวกันประชาชนบางส่วนก็จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของข้าราชการท้องถิ่นว่าอยากให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานช่วยเหลือเงินเยียวยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าวัดดอน มีการนำป้ายสีแดง ตัวอักษรขาว “กูไม่เอานิติราษฏร์!” มาติดไว้ จากนั้นเวลา 17.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ เดินทางไปติดตามการจ่ายเงินชดเชยและเงินช่วยเหลือกรณีน้ำท่วมปลายปี 2554 ที่วัดคลองชัน ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
