“ปู” หนีม็อบ! ชิ่งกลับบ้านเมินเข้าสภา โบ้ย กก.กลางตีราคาจ่ายเยียวยาน้ำท่วมไม่เท่ากัน

“ยิ่งลักษณ์” ประธานพิธีปิดขุดลอกคลอง กทม.ตามนโยบายกองทัพบก ผู้ว่าฯ เผยเสร็จแล้วร้อยละ 70 คาดจบทันต้น มิ.ย. ด้านนายกฯ เช็กแล้วพบติดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างต้องใช้เวลา เล็งลงตรวจต้นเดือนหน้า ระบุซ่อมประตูน้ำแล้วกว่าร้อยละ 50 ยันรัฐไม่มีเจตนาไม่จ่ายเยียวยาท่วม รับไม่สบายใจ สั่งผู้ว่าฯ ปทุมไปดูแล้ว อ้างมี กก.กลางตีราคาน้ำท่วมบางบ้านจึงได้ไม่เท่ากัน ก่อนชิ่งกลับบ้าน เมินเข้าสภาฯ เผชิญหน้าม็อบ

วันนี้ (30 พ.ค.) ที่คลองสนามชัย วัดบางกระดี่ เขตบางขุนเทียน กทม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีปิดและส่งมอบงานโครงการ “ขุดลอกคูคลองในพื้นที่ กทม.ตามนโยบายของรัฐบาลโดยกองทัพบก” โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการขุดลอกคูคลองในส่วนของ กทม.ว่า ขณะนี้การขุดลอกคูคลองในกทม.เสร็จไปแล้วกว่า 70% และใน 70% บางคลองยังทำไม่เสร็จ คิดว่าประมานต้นเดือน มิ.ย.น่าจะเสร็จทันตามระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนด เหตุที่ล่าช้าเพราะหาคนทำงานไม่ได้ ขณะเดียวกัน หน่วยงานภาครัฐต่างก็ทำในสิ่งเดียวกัน บริษัทเอกชนก็มีไม่กี่บริษัท

ด้านนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในภาพรวมการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการน้ำรัฐบาลแบ่งเป็น 3 ช่วง ต้น-กลาง-ปลาย ต้นและกลางอาจจะไม่เรียบร้อย จากการตรวจสอบพบว่าติดกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งต้องใช้เวลา ส่วนพื้นที่กลางน้ำเป็นพื้นที่ที่ทำเรื่องการก่อสร้างซ่อมแซมประตูระบายน้ำ แต่จากการสอบถามหน่วยงานเก็จะเร่งรัดการทำงานให้ทัน โดยเราจะลงตรวจพื้นที่ในเดือนหน้าทั้งหมด ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่ปลายน้ำ มีความคืบหน้าค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นการขุดลอกคูคลอง ไม่มีส่วนก่อสร้างอื่นๆ โดยภาพรวม สัดส่วนของกองทัพประมาน 80% เสร็จแล้ว เหลืออีก 20% ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของ กทม. เป็นไปตามที่ผู้ว่าฯ รายงาน โดยภาพรวมถือว่าเสร็จแล้วเกือบ 100% ดังนั้น เชื่อว่าในส่วนของพื้นที่ปลายน้ำน่าจะ เสร็จทันตามเวลาที่กำหนด ฉะนั้นจะไปเร่งรัดในส่วนกลางน้ำและปลายน้ำต่อไป อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ต่างจังหวัดอาจจะสั่งการให้คณะรัฐมนตรีลงไปตรวจรายจังหวัดร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และรายงานกลับมา โดยภาพรวมที่รายงานมา ประมาณ 40-50% มีความคืบหน้าแล้ว ขณะนี้กำลังบูรณาการข้อมูลทั้งหมดเพื่อดูระบบและตั้งสมมติฐานเพื่อพยากรณ์สถานการณ์น้ำ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ระบบการระบายน้ำ กทม.มีการปรับเปลี่ยนใหม่หรือยังเพื่อรองรับน้ำเหนือ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ระบบชลประทานต้องทำงานเชื่อมต่อกัน ณ วันนี้ ระบบชลประทานแต่ละเขื่อนต่างทำงาน วันนี้เราบูรณาการโดยข่าว ตั้งคณะกรรมการคณะเดียวและมีการประชุมทุกสัปดาห์ และส่วน กทม.ได้มีส่วนในคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งการระบายน้ำตั้งคำนึงถึงพื้นที่ในส่วนของเขื่อนต่อไปด้วย ไม่ใช่ดูแค่เขื่อนของตนเอง ตรงนี้ได้มีการปรับและกำลังทดลองอยู่เป็นระยะ โดยมีการปรับจูนทุกสัปดาห์

เมื่อถามว่า วันนี้พูดได้เต็มปากหรือยังว่ารัฐบาลและ กทม.สามารถประสานงานด้วยกันได้แล้ว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ ซึ่งในส่วนของ กทม.จะมีส่วนที่ต้องตัดสินในภายในแต่โดยภาพรวมก็ต้องทำงานร่วมกันเนื่องจากอันนี้ถือเป็นภารกิจของประเทศที่ต้องทำงานร่วมกัน เมื่อถามว่า ห่วงพื้นที่ กทม.ว่าจะเสร็จไม่ทันและมีปัญหาเหมือนปีที่ผ่านมาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงต้องดูในรายละเอียด ในส่วนของ กทม.ที่ต้องดูนอกเหนือจากคลองคือ เรื่องการกั้นแนวผนังกั้นน้ำ หรือแนวคันพระราชดำริต่างๆ เพื่อให้เกิดความแข็งแรง ซึ่งตรงนี้จะมีทีมในการตรวจสอบ คงจะเข้าไปดูต่อในรายละเอียดตรงนี้และคงต้องทำงานสัมพันธ์กับทางผู้ว่าฯ กทม.และทุกเขตใน กทม. ส่วนประตูระบายน้ำที่ใช้การไม่ได้ในปีที่ผ่านมา ขณะนี้มีการซ่อมแซมและปรับปรุงไปแล้วกว่า 40-50%

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมในปีที่แล้วออกมาชุมนุมประท้วงกรณีที่รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาซ่อมแซมบ้านแบบไม่มีมาตรฐาน จะแก้ไขปัญหาอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า จะเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้ลงไปดูปัญหาประชาชนอย่างใกล้ชิด ในบางส่วนถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐบาลจัดให้ก็คงจะจบแล้ว แต่บังเอิญอาจมีข้อที่เห็นไม่ตรงกันอย่างในส่วนของพื้นที่ปทุมธานีก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการเข้าไปดูและสำรวจความเสียหาย เพราะบางครั้งความคาดหวังกับเงื่อนไขของรัฐบาลอาจไม่ตรงกัน คงต้องมีผู้ที่เป็นตัวกลางเข้าไปดูและประเมินความเสียหายว่าความเสียหายจริงๆ นั้นเกิดขึ้นเท่าไร

“ขอเรียนว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาที่จะไม่จ่ายหรือไม่ดูแลประชาชน แต่บางครั้งปัญหาต่างๆ จะต้องเป็นปัญหาจากพื้นที่ที่จะต้องนำส่งขึ้นมา เพราะจากที่ตามดูรายงานทั้งหมดก็ไม่เห็นปัญหาตรงนี้ แต่จากที่เห็นปัญหาของประชาชนก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่ได้มีการกำชับผู้ว่าราชการทุกจังหวัดให้ลงไปดูความเดือดร้อนของประชาชนอย่างใกล้ชิดและต้องแน่ในว่าการเยียวยาประชาชนทั่วถึงและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”

เมื่อถามว่า นายกฯ ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ทำไมพื้นที่เดียวกันบางหลังจ่าย 200 บางหลังจ่าย 20,000 มีความผิดปกติการตรวจสอบหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆทุกอย่างสามารถลงไปตรวจสอบพื้นที่จริงว่าเสียหาย 200 หรือ 20,000 ดังนั้นเราถึงมีคณะกรรมการกลางเข้ามาตีราคา ว่ามูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเป็นจำนวนเท่าไร อันนี้เป็นคำตอบที่จะให้ความกระจ่างกับประชาชน เมื่อถามว่ามีการเรียกรับหัวคิวหรือ นายกฯ ไม่ทันได้ฟังคำถาม และเดินขึ้นรถไป

ทั้งนี้ มีรายงานว่าหลังเสร็จภารกิจดังกล่าว ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับ โดยมีขบวนผู้สื่อข่าวติดตามอยู่นั้น ปรากฏว่ารถขบวนของนายกรัฐมนตรีได้แยกออกจากขบวนสื่อ โดยที่ทีมรักษาความปลอดภัยไม่ได้แจ้งขอ ว.5 ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งต่างจากที่ผ่านๆมาหากนายกมีภารกิจส่วนตัวก็จะแจ้งขอ ว.5 ให้ทีมข่าวรับรู้ ขณะที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาลได้รับแจ้งว่านายกฯ จะไม่เข้าทำเนียบแล้วในวันนี้ อย่างไรก็ตาม จากการสอบทีมงานรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีแจ้งว่า นายกฯ กลับบ้านพักผ่อนแล้ว ทั้งนี้ตลอดทั้งวันนายกรัฐมนตรียังไม่เดินทางไปร่วมประชุมสภาแต่อย่างใด ขณะที่นายกรัฐมนตรีเสร็จภารกิจรับมอบของกองทัพบกในเวลา 15.30 น.