รมต.สำนักนายกฯ ยันหลังสัมมนาพรรคเพื่อไทย 28-29 ก.ค.จะมีความชัดเจนเรื่องแก้ รธน. ชี้เตรียมพร้อมทั้งแก้รายมาตรา และตั้ง ส.ส.ร. ปัดถกแก้อำนาจศาลรัฐฯ อ้างวาระ 3 ถอนไม่ได้รอดูข้อกฎหมาย พร้อมรอคำวินิฉัยกลาง ย้ำรัฐฯ ทำเพื่อหาทางออกลดเหตุขัดแย้ง ปัดตอบตุลาการทำกับดัก ส่วนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน ให้พรรคตัดสิน
วันนี้ (20 ก.ค.) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญว่า หลังจากการสัมมนาของพรรคในวันที่ 28-29 ก.ค.นี้จะมีความชัดเจนขึ้นว่าจะดำเนินการอย่างไร สิ่งที่รอดูอย่างเดียวคือ คำวินิจฉัยกลางชัดๆ ว่าออกมาเป็นอย่างไร แนวโน้มจะพยายามแก้รายมาตราก่อน หากสามารถแก้ไขได้และไม่ยืดเยื้อก็จะดำเนินการ แต่หากดำเนินการแล้วยังไม่ได้ก็อาจจะมีการทบทวนอีกครั้งหนึ่ง เพราะเราต้องดูแนวทางการแก้ไขว่าสามารถแก้ไขได้จริงหรือไม่ ที่ผ่านมาการแก้ไขรายมาตรานั้นเกิดขึ้นได้ยาก ใช้เวลายาวนาน และทำให้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่สอดคล้องกันได้ เพราะการแก้รายมาตราอาจเกิดความไม่สมบูรณ์ได้ หรืออาจจะแก้ในส่วนจำเป็นเร่งด่วนก่อน ทั้งนี้ ต้องรอผลประชุมพรรค สิ่งที่พูดนี้เป็นเพียงสิ่งที่จะนำไปหารือเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม พรรคก็มีการเตรียมการทั้งรายมาตรา และการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งมีการมอง ไว้ 2 รูปแบบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการระบุว่าพรรคเพื่อไทยอาจหารือแนวทางแก้ไขมาตรา 165 (2) เรื่องประชามติ นายวรวัจน์ตอบว่า มีการพูดคุยกันในหลายมาตรา และอาจแก้รายมาตราก่อน และหลังจากนั้นจึงจะแก้ไขใหญ่ เพราะมีหลายมาตราที่เห็นสมควรในขณะนี้ว่าต้องปรับปรุงแก้ไขก่อน ส่วนจะเป็นมาตราไหนก็ขอให้รอข้อสรุปออกมาก่อน อย่างไรก็ตาม ในพรรคยังไม่มีการพูดถึงการแก้มาตราเกี่ยวกับเรื่องอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยได้ข้อสรุปแล้วจะนำไปหารือกับพรรคร่วมในวันที่ 31 ก.ค.นี้เลยหรือไม่ นายวรวัจน์ตอบว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3เราอาจจะรอก่อนได้ ไม่รีบพิจารณา จนกว่าจะมีความชัดเจน หรือหากแก้ไขก็อาจจะดำเนินการแก้ไขส่วนใหม่ก่อน ส่วนนั้นอาจจะเป็นข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัย เพราะตามกฎหมายเขียนว่าเมื่อผ่านวาระ 2 แล้ว หลังจาก 15 วันต้องมติวาระ 3 ไม่มีช่องทางให้ถอนออกมาได้เลย ฉะนั้น เป็นข้อกฎหมายที่ต้องไปดูว่าจะทำอย่างไร แต่หลังจากเห็นคำวินิจฉัยกลางแล้วเราจะหารือพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เพื่อแนวทางร่วมกัน
เมื่อถามถึงกรณีที่นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกมาระบุอยากให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด จะดำเนินการอย่างไร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ตอบว่า รัฐบาลดูในส่วนที่ทำให้เกิดความรอบคอบและเกิดกระทบกระเทือนน้อยที่สุด รัฐบาลพยายามหาทางออกที่ไม่เกิดความขัดแย้งมาก ทุกฝ่ายยอมรับ เมื่อถามย้ำว่าคิดว่าแนวทางไหนที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลน้อยที่สุด รมต.ประจำสำนักนายกฯ ตอบว่า เราจะพยายามดำเนินการก่อนในการแก้ไขรายมาตรา ถ้าหากเป็นไปได้ แต่ในความเป็นจริงทำได้ยากมาก ที่ผ่านมา 10 มาตราก็ใช้เวลายาวนานมาก หากแก้ 300 กว่ามาตราก็ไม่ทำให้เราทำอย่างอื่นได้เลย เมื่อถามว่าเป็นหลุมพรางของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายวรวัจน์กล่าวว่า ไม่ทราบ
นายวรวัจน์ยังกล่าวถึงการส่งผู้สมัครแทนนายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.เขต 2 ลำพูน พรรคเพื่อไทย ที่เสียชีวิตว่า ได้มีการพูดคุยไว้บ้างแล้ว แต่อยากให้ในส่วนของพรรคดำเนินการ ส่วนที่ญาติอยากให้น้องชายสมัครแทนนั้นก็ขอให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ