ชาวบ้านเขาไม่สนแก้ รธน.รัฐบาลดันทุรังก็พังแน่!!

ผ่าประเด็นร้อน

ต้องยอมรับว่าถ้าระดับ “เขี้ยวลากดิน” ในการเมืองไทย ก็ต้องยกเอา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รวมอยู่ด้วยคนหนึ่งแน่นอน เพราะการออกมาแสดงท่าทีคัดค้านการเดินหน้าโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ในวาระที่ 3 ถือว่าเขาอ่านเกมขาด สมคำคุยโม้ที่เคยท่องอยู่ตลอดเวลาว่า “เขาอ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น”

รู้ว่าถ้ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยยังขืนดันทุรังโหวตตามแรงยุของพวกที่ไม่ต้องรับผิดชอบกับผลที่ตามมา หรือพูดเอามัน สร้าง “ปมเด่น” ให้กับตัวอย่างอย่าง เช่น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือพวก นิติราษฎร์ มีหวังได้พังกันสมใจแน่

คำวินิจฉัยของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีที่บอกว่า สาเหตุที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ชี้ว่าการแก้ไขมาตรา 291 ที่ผ่านมายังไม่ใช่เป็นการล้มล้างการปกครองฯ เนื่องจากยังไม่ได้ลงมติวาระ 3 เสมือนหนึ่งว่าความผิดยังไม่สมบูรณ์ เหตุการณ์ยังไม่เกิดจึงยกประโยชน์ให้จำเลย และต่อไปถ้ายังคิดเดินหน้าก็จะถูกร้องอีก และคราวนี้เจอแน่ นอกจากจะทำให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย พรรคเพื่อไทยถูกยุบ รัฐบาลพัง นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะอยู่ไม่ได้

ความหมายของเฉลิมก็คือ ถ้าฉลาดก็ไม่ควรทำอย่างนั้น

ขณะเดียวกัน เขาเห็นด้วยกับการแก้ไขรายมาตรา แม้ว่าตามหลักการจะต้องมีการเปิดเผยเหตุผลว่าทำไมต้องแก้ไข แต่ก็อาจย้อนเกล็ดศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการแก้ไขให้มีการควบคุม ถ่วงดุลศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งวิธีการอย่างหลังใช้เวลาไม่นานนัก ต่างกับการแก้ไขทั้งฉบับที่ต้องลงประชามติ คุมยาก ที่สำคัญต้องใช้เวลานาน

นั่นเป็นความเห็นของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งล่าสุดมีแนวโน้มที่รัฐบาลจะเดินในแนวทางดังกล่าว โดยใช้วิธีการรักษาหน้าด้วยการให้รอดูคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตัวของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเสียก่อน

ทำให้ต้องพักเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเอาไว้ก่อนชั่วคราว

อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาจากสังคมอีกด้านหนึ่งก็ต้องยอมรับความจริงว่า ชาวบ้านเริ่มรำคาญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเข้าใจว่าพวกเขาไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย มีแต่เรื่องผลประโยชน์และอำนาจของนักการเมืองล้วนๆ แต่สิ่งที่ต้องการก็คืออยากให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นแก้ปัญหาความเดือดร้อนมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ซึ่งผลสำรวจระยะหลังก็สะท้อนออกมาแบบนี้

หรือแม้แต่เรื่องปัญหาผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมปีที่แล้วก็ยังได้รับเงินเยียวไม่ทั่วถึงมีแต่เสียงโวยวาย

หากพูดไม่เกินความจริงก็พบว่าเวลานี้ปัญหาเศรษฐกิจเริ่มรุมเร้าหนักหนาสาหัสมากขึ้นเรื่อยๆ ใกล้ตัวที่สุดก็คือเรื่องข้าวของแพง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำทุกตัว ล่าสุดเมื่อสองสามวันก่อนก็มีชาวสวนยางพาราออกมาประท้วงปิดถนนเรียกร้องความสนใจให้ช่วยเหลือจากรัฐบาล การส่งออกก็ลดฮวบฮาบ เพราะประเทศคู่ค้าอย่างยุโรป และสหรัฐฯ กำลังถังแตก จีนก็เริ่มออกอาการถดถอย การท่องเที่ยวลองไปสำรวจตามแหล่งหลักทั้งในภาคใต้ เช่น ภูเก็ต เกาะสมุย ไม่คึกคักเหมือนก่อน สาเหตุก็มาจากวิกฤตยูโรโซนนั่นแหละ

นี่คือสิ่งที่เป็นความเดือดร้อนของชาวบ้านทั้งที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้า และในอนาคตที่รอการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เทียบไม่ได้กับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เห็นว่ายังกินไม่ได้ อย่างไรก็ดีถ้ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมองไปอีกทาง ทำตามแรงยุ และความต้องการส่วนตัวก็ให้เดินหน้าต่อไป อย่าชักช้า

เพราะนั่นเท่ากับความฝืนความรู้สึกของชาวบ้าน คิดแต่เรื่องส่วนตัว ก็เตรียมตัวนับถอยหลังได้เลย!!