เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 แม้ว่าคำวินิจฉัยของศาลรธน.เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ผลออกมาไม่ใช่ “ศุกร์สยอง” เหมือนกับ “กลางๆ” แบบพบกันครึ่งทาง แต่ถ้าพิจารณากันให้ลึกอีกนิดเดียวก็จะพบว่าฝ่ายที่เสียหาย คือ ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ เพราะทำให้การแก้ไขที่กำลังจะสำเร็จจนเกือบไม่มีใครขัดขวางได้อยู่แล้ว จู่ๆทุกอย่างพลิกผันกลายเป็นตรงกันข้ามเป็นใครก็ต้องสะอึก ความหมายของคำวินิจฉัยดังกล่าวคงเข้าใจตรงกันแล้วว่า ต่อไปจะแก้ไขทั้งฉบับทำไม่ได้ นอกจากต้องผ่านประชามติเห็นชอบเสียก่อน หากจะแก้ไขก็ทำได้เพียงแค่รายมาตราเท่านั้น และที่สำคัญถ้าในอนาคตหากใครคิดใช้เสียงข้างมากมาปู้ยี่ปู้ยำหรือเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ศาลรธน.ก็เปิดช่องไว้ให้ร้องได้โดยตรงเสียอีก เนื่องจากอยู่ใน “หมวดพิทักษ์รธน.”
00 เป็นคำวินิจฉัยที่ล้ำลึก แต่ชัดเจน ตอนแรกเมื่อศาล รธน.ยก 5 คำร้อง ทำให้การแก้ไข ม.291 ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองเพราะเหตุการณ์ยังไม่เกิด เป็นการคาดการณ์กันล่วงหน้า บรรดา “คนเสื้อแดง” ไชโยกันลั่น แต่พอตั้งสติได้รับคำอธิบายก็ต้องตบออกผางกัดฟันกรอด โดยเฉพาะ ทักษิณ ชินวัตร ถือว่าเสียหายย่อยยับ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงประชามติ หรือแก้ไขรายมาตรา ทำให้เขา “คุมเกมไม่ได้” ไม่มีหลักประกันความชัวร์ตามต้องการ เริ่มตั้งแต่การลงประชามติถ้าเข้าสู่โหมดนี้เมื่อไหร่ก็เสี่ยง โอกาสสำเร็จมันก็ยิ่งริบหรี่ หรือถ้าแก้รายมาตราก็ต้องมีการเปิดเผยเหตุผลว่าทำไมต้องแก้ แก้ทำไม จะมาอ้างว่าเพื่อประชาธิปไตยมั่วๆแบบเมื่อก่อนคงไม่ได้ สรุปก็คือถ้าเดินหน้าก็ทำได้แต่ต้องเดินตามร่องดังกล่าว ซึ่งนอกจากช้าไม่ทันใจแล้วยังไม่เป็นไปตามที่ต้องการ และคุมยาก
00 วันนี้ (16 ก.ค.) พรรคเพื่อไทยเรียกประชุมว่าจะเดินต่ออย่างไร แต่ที่ทำท่าขึงขังตามที่พวกปากดีอย่าง “หัวโจก” เสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ ยุให้โหวตวาระ 3 ต่อเอาเข้าจริงมันไม่ใช่เรื่องหมู เพราะคนพูดไม่ต้องรับผิดชอบ แต่หาก สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ที่เป็นประธานรัฐสภาจะเอาแบบนั้นก็ต้องรับผิดชอบตามที่ศาลได้เตือนเอาไว้แล้ว และที่ผ่านมาความผิดยังไม่สำเร็จ แต่ถ้าอยากจะให้สำเร็จก็เชิญ อยากเป็น “ค้อนเน่า” ก็ไม่ว่ากัน
00 นอกจากนี้จากความวุ่นวายที่ส่อเค้าเกิดขึ้นทำให้ผลสำรวจล่าสุดออกมาบอกว่าให้ยืดเวลาออกไปก่อน เพราะไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย ซึ่งที่จริงมันก็เป็นผลดีต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจะได้มีสมาธิในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะเรื่อง “ปากท้อง” ที่ไม่ว่าสำรวจกี่ทีชาวบ้านเขาอยากให้มาดูแลก่อนทุกที แต่ก็อย่างว่าในเมื่อบ้านเมืองนี้กำหนดโดยคนเห็นแก่ตัวอย่างทักษิณ เขาก็ต้องการได้ประโยชน์มันก็ต้องอยู่ในสภาพปั่นป่วนไปไม่เลิกนั่นแหละ
00 อย่างไรก็ดีเมื่อดูรูปการแล้วการรวบรัดแก้ไขรธน.เดินต่อคงลำบาก ประเภททูอินวันคือผลสำเร็จคือล้างผิด และได้เงิน 4.6 หมื่นล้านคืนมามันไม่หมูก็คงต้องหาทางใหม่ นั่นคือต้องย้อนกลับมาหาทางผลักดัน พ.ร.บ.ล้างผิด อีกรอบ เพราะใช้แค่เสียงข้างมากก็สำเร็จแล้ว แต่ปัญหาก็คือจะเกิดแรงต้านรุนแรงอีก ซึ่งก็ต้องรอฝีมือของ “ดร.เหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่าจะโชว์อ๊อฟได้ดีแค่ไหน แต่ที่ผ่านมา ร่างกม.ดังกล่าวยังค้างอยู่วาระอันดับแรกเปิดสภาเมื่อไหร่ให้จับตาดีๆแล้วกัน ว่าจะหันมาเน้นแบบนี้หรือเปล่า เพราะวิธีการฉีกรธน.ดูแล้วหนทางมันเริ่มตีบตันจริงๆ !!
