00 ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหน้ามืด ต้องการเอาใจนายหรือเปล่า เพราะเห็นพวกส.ส.ที่บางคนเป็นเป็นถึงรองประธานสภา มีดีกรีเรื่องกฎหมาย อย่างเช่น เจริญ จรรย์โกมล กลับไม่เข้าใจคำวินิจฉัยของศาลรธน. ยังมาตีความเข้าข้างตัวเองว่าศาล “แค่แนะนำ” ไม่ใช่คำสั่ง ขณะที่ อัชพร จารุจินดา เลขาฯกฤษฎีกา ไปไกลถึงขั้นที่ว่า คำวินิจฉัยของศาลไม่มีผลผูกพันกับองค์กร และศาลไม่อาจก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งมันก็อาจจะจริง ถ้ามองในมุมแคบแบบนั้น แต่ขณะเดียวกัน ต้องไม่ลืมว่าตอนนั้นยังไม่มีการลงมติวาระ 3 ยังถือว่าความผิดไม่สำเร็จ เป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่เหมือนกับว่าได้ “เตือนแล้ว” ประมาณว่า ถ้าไม่อยากให้มีปัญหาตามมา ก็ให้ทำตามที่แนะนำ เช่น ลงประชามติ ถามชาวบ้านที่เป็นเจ้าของก่อนหากจะแก้ไขทั้งฉบับ
00 ความหมายก็คือ ให้ไปลงประชามติว่า จะให้แก้ไขด้วยการยกร่างใหม่ หรือไม่ ซึ่งก็ต้องทำตามกฎหมายการลงประชามติ ที่มีระบุเป็นกฎเกณฑ์อยู่แล้วว่า ต้องใช้เสียงข้างมากกี่เปอร์เซนต์ ไม่ใช่มาคาเอาไว้ในสภา รอลงมติในวาระสามแบบนี้ คือ ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ หรือถ้าจะแก้ไขเป็นรายมาตรา ก็ทำได้เลย แต่ทีนี้ต้องเปิดเผย มีการชี้แจงเหตุผลว่า จะแก้มาตราไหน แก้ทำไม ให้ชาวบ้านได้รับรู้ถกเถียงกัน ซึ่งจะว่าไปแล้วคนที่ “นกรู้” รู้สัญญาณดีที่สุดในตอนนี้ก็มีแต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เท่านั้น เพราะถ้าขืนดึงดันเอามัน โหวตวาระสาม ถึงจะผ่านก็จะมีผู้ร้องคัดค้านทันที ทีนี้แหละที่ศาลได้แย้มเอาไว้ก่อนแล้วว่า ทำได้ แต่ประธานรัฐสภา ที่ชื่อ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา คราวนี้ “ค้อนเน่า” แน่
00 สังเกตหรือไม่ว่า เวลานี้เหมือนกับน้ำลดตอเริ่มโผล่ให้เห็นเรื่อยๆ เริ่มจากเป้าหมายการส่งออกที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า จะขยายตัว 15 เปอร์เซ็นต์ ภาคเอกชนฟันธงตรงกันแล้วว่า ได้แค่ฝัน เพราะความเป็นจริงเวลานี้การส่งออกหลุดเป้าไปตั้งนานแล้ว มีแต่ รมว.พาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ เท่านั้น ที่ยังกัดฟันเชื่ออยู่คนเดียว แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ข่าวที่ว่า ธกส. กำลังขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินมาแบกรับโครงการจำนำข้าวให้กับรัฐบาล ถ้าจริงก็ยุ่งแน่ ขณะเดียวกัน เรื่องการที่ครม.อนุมัติงบหมื่นล้านบาท เพื่อเข้าไปพยุงราคายางพาราให้ชาวสวนขายได้กิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 100 บาท ก็ไม่รู้จะทำได้จริงแค่ไหน เพราะต้องใช้เงินจริง ในเบื้องต้นอาจมีผลทางจิตวิทยา เป็นแรงส่งให้ราคาพุ่งขึ้นไปชั่วคราว พอสายป่านหมด หรือไม่ทำจริง ราคามันก็ตกฮวบลงมาอีก และถ้าฟังจากปากของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ก็ยอมรับกลายๆ ว่าในอนาคตหนักอึ้ง เพราะจีนเศรษฐกิจไม่ดี รับซื้อน้อย ส่วนยุโรปไม่ต้องพูดถึง พับฐานไปแล้ว
00 ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องราคาสินค้าเกษตรตัวอื่นที่ขาดทุน เจ๊งระนาวไปนานแล้ว แต่ข้าวของแพง ถ้าลองไม่บ้าแต่เรื่องแก้ไขรธน. กับเรื่องกฎหมายล้างผิด หันมาดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้านอย่างจริงจัง มันก็น่าจะพอชื่นใจกันได้บ้าง แต่ปัญหาก็คือมองดูหน้ารมต.แต่ละคน ไล่ลงมาตั้งแต่ นายกฯปู ยังมองไม่เห็นใครมีแววพึ่งพาได้สักคน มีแต่พวกดีแต่ปาก หรือโทษแต่คนอื่นร่ำไป ช้ำว่ะ !!
00 ความหมายก็คือ ให้ไปลงประชามติว่า จะให้แก้ไขด้วยการยกร่างใหม่ หรือไม่ ซึ่งก็ต้องทำตามกฎหมายการลงประชามติ ที่มีระบุเป็นกฎเกณฑ์อยู่แล้วว่า ต้องใช้เสียงข้างมากกี่เปอร์เซนต์ ไม่ใช่มาคาเอาไว้ในสภา รอลงมติในวาระสามแบบนี้ คือ ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ หรือถ้าจะแก้ไขเป็นรายมาตรา ก็ทำได้เลย แต่ทีนี้ต้องเปิดเผย มีการชี้แจงเหตุผลว่า จะแก้มาตราไหน แก้ทำไม ให้ชาวบ้านได้รับรู้ถกเถียงกัน ซึ่งจะว่าไปแล้วคนที่ “นกรู้” รู้สัญญาณดีที่สุดในตอนนี้ก็มีแต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เท่านั้น เพราะถ้าขืนดึงดันเอามัน โหวตวาระสาม ถึงจะผ่านก็จะมีผู้ร้องคัดค้านทันที ทีนี้แหละที่ศาลได้แย้มเอาไว้ก่อนแล้วว่า ทำได้ แต่ประธานรัฐสภา ที่ชื่อ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา คราวนี้ “ค้อนเน่า” แน่
00 สังเกตหรือไม่ว่า เวลานี้เหมือนกับน้ำลดตอเริ่มโผล่ให้เห็นเรื่อยๆ เริ่มจากเป้าหมายการส่งออกที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า จะขยายตัว 15 เปอร์เซ็นต์ ภาคเอกชนฟันธงตรงกันแล้วว่า ได้แค่ฝัน เพราะความเป็นจริงเวลานี้การส่งออกหลุดเป้าไปตั้งนานแล้ว มีแต่ รมว.พาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ เท่านั้น ที่ยังกัดฟันเชื่ออยู่คนเดียว แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ข่าวที่ว่า ธกส. กำลังขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินมาแบกรับโครงการจำนำข้าวให้กับรัฐบาล ถ้าจริงก็ยุ่งแน่ ขณะเดียวกัน เรื่องการที่ครม.อนุมัติงบหมื่นล้านบาท เพื่อเข้าไปพยุงราคายางพาราให้ชาวสวนขายได้กิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 100 บาท ก็ไม่รู้จะทำได้จริงแค่ไหน เพราะต้องใช้เงินจริง ในเบื้องต้นอาจมีผลทางจิตวิทยา เป็นแรงส่งให้ราคาพุ่งขึ้นไปชั่วคราว พอสายป่านหมด หรือไม่ทำจริง ราคามันก็ตกฮวบลงมาอีก และถ้าฟังจากปากของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ก็ยอมรับกลายๆ ว่าในอนาคตหนักอึ้ง เพราะจีนเศรษฐกิจไม่ดี รับซื้อน้อย ส่วนยุโรปไม่ต้องพูดถึง พับฐานไปแล้ว
00 ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องราคาสินค้าเกษตรตัวอื่นที่ขาดทุน เจ๊งระนาวไปนานแล้ว แต่ข้าวของแพง ถ้าลองไม่บ้าแต่เรื่องแก้ไขรธน. กับเรื่องกฎหมายล้างผิด หันมาดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้านอย่างจริงจัง มันก็น่าจะพอชื่นใจกันได้บ้าง แต่ปัญหาก็คือมองดูหน้ารมต.แต่ละคน ไล่ลงมาตั้งแต่ นายกฯปู ยังมองไม่เห็นใครมีแววพึ่งพาได้สักคน มีแต่พวกดีแต่ปาก หรือโทษแต่คนอื่นร่ำไป ช้ำว่ะ !!