รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ไม่ยอม สวนประชาธิปัตย์ อ้างเป็นเหตุให้รัฐต้องใช้งบ 200 ล้าน หลังนาซายกเลิกโครงการสำรวจเมฆฝน ชี้สร้างวาทกรรมมั่วให้สังคมเข้าใจ ศูนย์ HADR เป็นเรื่องเดียวกับการสำรวจเมฆ เพื่อโจมตีรัฐเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนและความมั่นคง บอกประชาชนใช้วิจารณญาณรับสื่อ โยงไปไกล อ้างกระแสข่าวตามสูตร “พันธมิตรฯ ชุมนุม ทหารปฏิวัติ” หากโครงการผ่านมติ ครม.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมากล่าวว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์บิดเบือนข้อเท็จจริง และโยนความผิดให้ฝ่ายค้าน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นต้นเหตุให้ประเทศเสียโอกาสจากโครงการสำรวจชั้นบรรยากาศของนาซาที่ถูกยกเลิกว่า ในกรณีเรื่องนาซาตนเองก็ได้ออกมาพูดเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง ในวันนี้พรรคประชาธิปัตย์น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่ตั้งใจตีขลุม สร้างวาทกรรมทางการเมืองผ่านสื่อทำให้สังคมเกิดความสับสนว่าเรื่องศูนย์ช่วยเหลือ HADR กับเรื่องการสำรวจเมฆของนาซาเป็นเรื่องเดียวกัน ตีกินพื้นที่ข่าวได้หลายด้าน ทั้งเรื่องความมั่นคง ผลประโยชน์ทับซ้อน ด้วยความมั่วข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์สามารถสร้างขึ้นได้ตลอดเวลาโดยไม่สนใจผลกระทบที่ตามมา ทำให้ก่อน ครม.ตัดสินใจมีข่าวว่ามีผู้เตรียมร้องศาลปกครองให้ยกเลิกคำสั่งถ้า ครม.อนุมัติโครงการสำรวจเมฆฝน และพร้อมจะยื่นถอดถอน ครม.ต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ครม.กระทำการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 2 และอาจเป็นเหตุให้เกิดข้ออ้างของการชุมนุมกู้ชาติอีกครั้งของพันธมิตรฯ และปฏิวัติโดยทหารในที่สุด
“อยากจะขอร้องสังคมโปรดใช้วิจารณญาณในการบริโภคข้อมูลข่าวสาร ว่าจริงเท็จอย่างไร และหลักฐานที่นำมาแสดงนั้นเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด รูปแบบการใส่ร้ายที่เคยใช้ รัฐบาลทักษิณซึ่งเคยโดนกล่าวหาว่า โกง ขายชาติ ล้มเจ้านั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคงนำมาใช้อย่างซ้ำซาก วันนี้นายชวนนท์เสียรังวัดและล้มละลายทางความน่าเชื่อถือไปแล้วจากกรณีที่คัดค้านนาซาไม่ให้มาสำรวจสภาพอากาศที่อู่ตะเภา โดยโจมตีว่าจะนำเครื่องบินทหารมาสอดแนม ซึ่งเป็นความเท็จ ทำให้รัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณ 200 ล้านบาทมาสำรวจอากาศ ซึ่งเงิน 200 ล้านบาทนี้ควรจะไปซื้อยาและอุปกรณ์การศึกษาให้เด็ก พรรคประชาธิปัตย์ได้สร้างความเสียหายและสมควรรับเป็นคนออกค่าใช้จ่ายนี้แทนประชาชนทั้งประเทศ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ มั่วเรื่องนาซาจบ ประชาชนประณามทั่วประเทศ ก็สร้างเรื่องสร้างราวเป็นประเด็นใหม่เพื่อป้ายสีว่ารัฐบาลมีผลประโยชน์ทับซ้อนในอ่าวไทย ซึ่งเป็นเท็จโดยสิ้นเชิง” รองโฆษกฯ กล่าว