xs
xsm
sm
md
lg

“วรวัจน์” ยุส่งตุลาการถอนตัว เชื่อร่างแก้ รธน.ไม่ขัด ม.68 เหน็บฝ่ายฟ้องศาลพวกจินตภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
รมต.สำนักนายกฯ แอบเชียร์ให้ตุลาการศาล รธน.ถอนตัวคดีแก้ รธน.ถ้าไม่สบายใจ ชี้ถ้าฝืนลงมติคงไม่ดี ยันร่างแก้ รธน.ไม่มีเจตนาแอบแฝง อ้างแค่ให้มี ส.ส.ร. เพราะเวลาร่างก็ใช้เวลานาน และไม่คิดล้มล้างการปกครองตัวเอง โต้ “สุรพล” ยืนกระต่ายขาเดียว อ้างอำนาจที่จะยื่นต้องผ่านอัยการอยู่แล้ว เย้ยพวกยี่นฟ้องศาลจินตภาพ จะเอาอนาคตมาตัดสินปัจจุบันคงไม่ได้

เมื่อเวลา 11.10 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ขึ้นบัลลังก์และแจ้งว่าตนเองพร้อมด้วย นายสุพจน์ ไข่มุกต์ และนายนุรักษ์ มาประณีต ได้ถอนตัวจากองค์คณะผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เพราะเคยให้ความเห็นเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่มีการนำมาเผยแพร่กัน แต่ที่ประชุมองค์คณะไม่อนุญาต ว่า ไม่ควรวิจารณ์ ควรที่จะรอฟังผลดีกว่า แล้วแต่ดุลยพินิจของท่าน เราจะไปก้าวล่วงไม่ได้ แต่ก็น่าจะให้สิทธิท่านถ้าเกิดความไม่สบายใจ เพราะถ้าไประงับสิทธิและท่านจะลงมติก็คงไม่ดี

นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่เป็นฝ่ายถูกร้องนั้น ก็จะชี้แจงตามข้อเท็จจริง และดูจากเจตนาจริงๆ ของผู้ร่างทั้งหมดไม่ได้มีเจตนาใดๆ แอบแฝง เพียงแต่ต้องการให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. เท่านั้นและกระบวนการร่างถ้าร่างเป็นรายมาตรา และแก้ไขในสภาโอกาสที่จะเสร็จสิ้นเกือบจะไม่มีเลย เท่าที่เห็นเฉพาะมาตราหนึ่งก็ได้ใช้เวลายาวนาน ดังนั้นหากแก้ไขในสภาก็จะใช้เวลาเป็นปีๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเสร็จหรือเปล่า เพราะฉะนั้นเราจึงคิดว่าในกระบวนการควรที่จะมี ส.ส.ร.เป็นคู่มาแก้ไขให้ ซึ่งก็เป็นวิถีทางที่ปกติทุกคนเห็นว่า ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ที่จะกล่าวหาว่าสมาชิกรัฐสภาจะมาแก้ไขเพื่อตัวเอง

“วันนี้เท่าที่ได้รับฟังจากผู้กล่าวหาส่วนใหญ่จะเห็นได้ว่าเป็นประเด็นในอนาคตทั้งสิ้นว่า อาจจะต้องเกิดแบบนี้ อาจจะต้องเป็นอน่างนั้น หรืออาจจะต้องล้มล้าง วันนี้ทางคณะรัฐมนตรีเป็นรัฐบาลอยู่แล้ว คงจะไม่ไปร่างกฎหมายแล้วบอกว่าเพื่อล้มล้างอำนาจการปกครองซึ่งพวกเรามีอำนาจการปกครองมาด้วยระบบนี้ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราคงไม่ไปส่งเสริมร่างกฎมหายไปที่จะไปล้มล้างตัวพวกเราเอง” นายวรวัจน์ กล่าว

รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วันนี้สังคมเห็นแล้วว่าเจตนาที่แท้จริงเป็นอย่างไร ตนอยากให้ความถูกต้องความชอบธรรมของสังคมเป็นตัวที่ทำให้ระบบทุกอย่างขับเคลื่อนได้ วันนี้มีการพยายามทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อประเทศไทย แต่ว่าสิ่งนั้นอยู่ที่พี่น้องประชาชนทุกคน ที่จะช่วยกันนำเสนอสิ่งที่ถูกต้องนำพาเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงของประเทศไทย ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยที่ยังมีอำนาจอื่นแอบแฝง หรืออำนาจอื่นคอยครอบงำอยู่ นี่คือภารกิจและหน้าที่ของคนไทยทุกคนต้องทำ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกรณีที่ นายสุรพล นิติไกรพจน์ พยานฝ่ายผู้ร้องที่ออกมาระบุว่าคำว่า “และ, ที่, ซึ่ง”ความหมายเหมือนกันจะยื่นอย่างไรก็ได้ ถือว่าเป็นเหตุผลที่รับฟังได้หรือไม่ นายวรวัจน์ กล่าวว่า ในสังคมทราบอยู่แล้วว่าอำนาจการยื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเจตนารมณ์ของผู้ร่าง คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเดิมเป็นอย่างไร หรือว่าข้อความเผยแพร่เว็บไซต์ทุกอย่างไปในทิศทางเช่นนั้นหมด ว่าอำนาจที่จะไปยื่นคือต้องไปที่อัยยการสูงสุดเท่านั้น และอัยยการสูงสุดสืบหาข้อมูลข้อเท็จจริงก่อนจึงจะนำส่งเข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าในสังคมมองเห็นเป็นข้อยุติแล้วเพียงแต่วันนี้ศาลรับคำร้องมา ไม่ว่าจะวินิจฉัยอย่างไรคิดว่าคงไม่ผิดไปจากความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ของประเทศมอง

เมื่อถามว่าเท่าที่ได้รับฟังคำซักค้านของฝ่ายผู้ร้องแล้วมีความสบายใจมากขึ้นหรือไม่ รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเด็นที่ถูกกล่าวข้นล้วนเป็นประเด็นของอนาคตทั้งสิ้น เป็นการจินตภาพ จะไปนำเหตุการณ์ที่ยังเกิดขึ้นในอนาคตมาตัดสินว่าคนที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันดำเนินการผิดแล้วคงเป็นไปไม่ได้ ส่วนตัวตนยังเชื่อมั่นว่าในระบอบประชาธิปไตยของไทยเราพัฒนามาถึงขนาดนี้แล้ว คงจะไม่ปล่อยให้ระบบสังคมพัฒนาถอยหลังย้อนกลับเข้าไปสู่ระบอบที่ให้อำนาจอื่นมาแอบแฝงครอบงำระบอบประชาธิปไตยของประชาชน

เมื่อถามว่า จากการไต่สวนมีการพยายามเอาผิดฝ่ายผู้เสนอให้ได้ นายวรวัจน์กล่าวว่า การกล่าวหาคือการกล่าวหา แต่จะตัดสินอย่างไรที่จะผิดเพี้ยนจากความรู้สึกของคนไทยส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ซักต่อว่าถ้าผ่านการวินิจฉัยต่อไปรัฐบาลจะผลักดันเดินหน้าวาระ3 ต่อเลยหรือไม่ นายวรวัจน์ กล่าวว่า โดยกระบวนการอยู่ในขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ เมื่ออยู่ในมติวาระ2 แล้วก็ต้องรอและลงมติในวาระที่ 3 ให้เป็นไปตามขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นรัฐสภาคงมีความจำเป็นที่ต้องเดินตามกระบวนการ แต่อย่างไรก็ตามอาจจะเกิดข้อที่ไม่สบายใจ ขอเรียนว่าสามารถทำได้หลายประการไม่ว่าประธานสภาเตรียมตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางจริงๆ เข้ามาพิจารณาอยู่แล้ว

นายวรวัจน์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนตัวขอเรียนว่าถ้ากฎหมายมีการออกมาเปลี่ยนแปลงในรูปของรัฐก็ตาม และเป็นในลักษณะของการล้มล้างระบอบใดก็ตาม ยืนยันว่าในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และดูแลสำนักงบประมาณจะไม่มีการจัดสรรงบประมาณลงไปเพื่อทำประชามติกระบวนการก็จะยุติลงได้ วันนี้ตนขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาใดที่จะไปล้มล้างระบอบใดๆ หรือจะไปเปลี่ยนแปลงการปกครอง ยืนยันอีกครั้งว่าหากมีสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา และสื่อมวลชนเห็นว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้องตนพร้อมที่จะดำเนินการตามที่กล่าวไว้เพื่อแสดงให้เห็นว่าจะไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรูปของรัฐหรือล้มล้างระบอบใดๆ ทุกกลไกที่รัฐบาลมีอยู่รัฐบาลจะยับยั้งเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นจริงโดยเด็ดขาด

ส่วนกรณีการแก้ไขเพื่อไม่ให้ผู้บริโภคไม่ต้องรับชมการแข่งขันโอลิมปิกและบอลโลกจอดำ นายวรวัจน์กล่าวว่า ขณะนี้กำลังประสานกับทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่าจะต้องมีการแก้ไขอย่างไรซึ่งจะประกาสผลออกมาเร็วๆนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น