“ผู้บริโภคประกาศหยุดซื้อ หยุดฟัง หยุดชม หยุดมีส่วนร่วมทุกสินค้าและธุรกิจของบริษัทแกรมมี่ พร้อมเชิญชวนผู้บริโภคร่วมเป็นผู้ฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง พรุ่งนี้เวลา 11.00 น. เพื่อขอคุ้มครองก่อนฟ้องแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิพื้นฐานผู้บริโภค (จอดำ)
องค์กรผู้บริโภค สมาชิกผู้บริโภค อาสาสมัครขององค์กรผู้บริโภคทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประกาศหยุดซื้อ หยุดฟัง หยุดชม หยุดมีส่วนร่วมทุกสินค้าและธุรกิจของบริษัทแกรมมี่ นอกจากนี้พร้อมเชิญชวนผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายไม่สามารถดูฟรีทีวีช่อง 3, 5 และ 9 ร่วมกันฟ้องต่อศาลแพ่งวันจันทร์ที่ 25 ที่ศาลแพ่งถนนรัชดาภิเษก เวลา 11.00 น. พร้อมชี้แจ้ง 5 เหตุผลที่ต้องหยุดใช้สินค้าของแกรมมี่ ดังนี้
1. แกรมมี่เป็นผู้ประกอบการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ที่ไปทำสัญญาการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรแล้วทำให้ประชาชนครึ่งประเทศเข้าไม่ถึงบริการสาธารณะในการแพร่ภาพและกระจายเสียง (ดูฟรีทีวี) ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภค
2. แกรมมี่ใช้เล่ห์เหลี่ยมทางธุรกิจกีดกันกันเข้าถึงสิทธิพื้นฐานของผู้บริโภคในการรับฟรีทีวีเพื่อให้ได้มาซึ่งการขยายฐานลูกค้าและช่องทางการจำหน่ายสินค้าของตนเอง (กล่อง) เป็นธุรกิจที่คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเอง
3. แกรมมี่สมคบกับช่อง 3, 5 และ 9 ทำธุรกิจเอาเปรียบผู้บริโภค
4. ทำให้ผู้บริโภคเสียหายต้องจ่ายเงินโดยไม่มีความจำเป็นมากถึง 2,000 ล้านบาท
5 เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างกับเอกชนที่ต้องการจะไปทำสัญญาการค้าในอนาคต
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการและนักกฎหมายอิสระกล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือว่าหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลอย่าง กสทช.ทำหน้าที่ล้มเหลวเพราะการที่ผู้ประกอบการแสดงพฤติกรรมเช่นนี้เป็นการจำกัดสิทธิการเข้าถึงสื่ออย่างทั่วถึงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 47 ทั้งในส่วนของแกรมมี่ ช่อง 3, 5, 9 เพราะหน้าที่ของทีวีช่องหลัก หรือฟรีทีวีต้องถ่ายทอดและปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองโดยไม่ยึดตามสัญญาของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ดังนั้นแนวทางการแก้ไขเรื่องนี้คือต้องใช้กระบวนการยุติธรรมเท่านั้น เพราะตอนนี้ความผิดได้สำเร็จแล้ว เพื่อสร้างมาตรฐานสำหรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ฟุตบอลโลกที่กำลังจะมีขึ้น
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคจำนวน 11 ล้านครัวเรือนถูกละเมิดสิทธิการดูฟรีทีวี ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานแล้วหน่วยงานที่กำกับดูแลก็ไม่สามารถจัดการปัญหาได้ ล้มเหลว ไม่มีน้ำยา ผู้บริโภคจึงต้องลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง องค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศจึงมีมติร่วมกัน 2 ประเด็นคือ หนึ่งหยุดสนับสนุนธุรกิจของบริษัทแกรมมี่ทุกประเภท และสองดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอคุ้มครองก่อนมีคำพิพากษา ให้สามารถคุ้มครองการละเมิดสิทธิผู้บริโภคครั้งสำคัญครั้งนี้ได้
ด้าน น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวเชิญชวนผู้บริโภคมาใช้สิทธิตอบโต้ธุรกิจที่ขาดธรรมาภิบาล จงใจสมคบกันละเมิดสิทธิผู้บริโภค โดยการหยุดซื้อหยุดฟังหยุดชมหยุดสนับสนุนสินค้าและบริการในเครือข่ายของแกรมมี่ทุกชนิดเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างกับธุรกิจรายอื่นๆ มิให้กระทำการละเมิดสิทธิผู้บริโภคในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานเฉกเช่นที่แกรมมี่กระทำอยู่