xs
xsm
sm
md
lg

กสม.ป่วนประท้วงตั้งรักษาการรองเลขาฯ ฉาวทุจริต เจอ SMS งดประชุม-แจกใบปลิวโต้กลับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางอมรา พงศาพิชญ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ภาพจากแฟ้ม)
ข้าราชการ กสม.บุกทวงถามความคืบหน้าล้มคำสั่งตั้ง “โสภณธีณ์” เป็นรักษาการรองเลขาธิการฯ เหตุฉาวทุจริต เผยสำนัก กสม.สุดป่วน ส่งข้อความมือถือ กสม.ทุกคนว่าไม่มีประชุม แต่ประธานปฏิเสธ แถมโต๊ะทำงานรองเลขาฯ กสม.ถูกรื้อค้นลิ้นชัก แถมฝ่ายหนุนโยกย้ายออกบัตรสนเท่ห์อย่าตกเป็นเครื่องมือสร้างกระแส ด้าน “อมรา” คาด 1 สัปดาห์ได้แนวทางแก้ปัญหา

วันนี้ (4 ก.ค.) จากกรณีที่กลุ่มข้าราชการ พนักงานราชการ ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้แต่งชุดสีดำเพื่อประท้วงการแต่งตั้ง นายโสภณธีณ์ ตะติโชติพันธุ์ ผอ.สำนักวินิจฉัยและคดี ให้ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิฯ เนื่องจากเห็นว่านายโสภณธีณ์ มีปัญหาในคดีการทุจริตที่มีคำร้องอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกทั้งมีปัญหาเข้ากับคนในสำนักงานไม่ได้ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด การประชุมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนประจำสัปดาห์ บรรดาข้าราชการและพนักงานราชการ ทั้งระดับ ผอ.สำนัก ผอ.กลุ่มงาน และพนักงานราชการในสำนักงานที่ต่างสวมชุดดำได้รวมตัวกันกว่า 50 คน ไปดักรอที่หน้าห้องประชุมเพื่อต้องการทราบความคืบหน้าในกรณีที่ขอให้ทบทวนคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวจากนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิฯ หลังจากที่เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางกลุ่มได้เข้าเสนอปัญหากับนางอมราไปแล้วครั้งหนึ่ง

ภายหลังการประชุม นางอมราได้เชิญตัวแทนข้าราชการ พนักงาน เข้าพูดคุยเสนอปัญหากับกรรมการสิทธิ พร้อมกับเปิดให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง โดยตัวแทนข้าราชการระบุว่า ก่อนหน้านี้ข้าราชการ และพนักงานในสำนักงานฯ จะแบ่งกันเป็นกลุ่มต่างๆ เพราะมีความคิดเห็นที่ต่างกัน แต่เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้นทุกกลุ่มกลับเห็นตรงกันว่านายโสภณธีณ์ ที่ยังมีปัญหาเรื่องการทุจริต ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนรองเลขาธิการ กสม. โดยผู้ที่คัดค้านไม่ได้เพราะรังเกียจในตัวบุคคล แต่ไม่อยากให้ข้าราชการรุ่นหลังรู้สึกว่าถ้าเขาจะเดินในเส้นทางราชการแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องทำตัวให้สะอาด ก็สามารถก้าวขึ้นสู่ระดับรองอธิบดีได้ เพราะมีตัวอย่างมีให้เห็นอยู่

ส่วนในแง่ข้อกฎหมายนั้นการจะแต่งตั้งรักษาราชการแทนในระดับ 10 ก็ต้องเลือกบุคคลที่อยู่ในระดับเดียวกัน แต่นายโสภณธีณ์ดำรงตำแหน่งเพียงระดับ 9 อีกทั้งอำนาจในการออกคำสั่งแต่งตั้งรักษาราชการแทนก็เป็นของประธาน กสม.ไม่ใช่ของรักษาราชการแทนเลขาธิการ กสม.ซึ่งการที่นายโสภณธีณ์ ได้มีหนังสือ สม. 001/ว1251 ลงวันที่ 28 มิ.ย. สถาปนาตัวเองว่าดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนเลขาธิการ ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น หากคำสั่งทั้ง 2 ฉบับยังมีผลอยู่ต่อไปก็จะเป็นปัญหาทางกฎหมาย จึงขอให้ประธานกรรมการสิทธิฯและกรรมการสิทธิฯ พิจารณา 4 ข้อ คือ 1. ยกเลิกคำสั่งตั้งนายโสภณธีณ์ เป็นรักษาราชการแทนรองเลขาธิการฯ 2. ยกเลิกหนังสือเวียนที่นายโสภณธีณ์ ลงนามสถาปนาตนเอง เป็นรักษาราชการแทนเลขาธิการฯ 3. ยกเลิกคำสั่งโยกย้ายข้าราชการ ผอ.3 กลุ่มงาน คือ กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล กลุ่มงานคดีปกครอง และกลุ่มงานตรวจสอบ 3 และ 4. ยกเลิกคำสั่งที่ให้กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคลขึ้นตรงกับเลขาธิการฯ

ด้าน นางอมรากล่าวว่า รับทราบและจะมีการพิจารณา แต่ขอให้ทุกคนทำงานในฐานะเป็นข้าราชการ รับเงินเดือนที่เป็นภาษีของประชาชนต่อไป

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าในช่วงคืนวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือของกรรมการสิทธิฯ ทุกคน ว่าการยกเลิกการประชุมกรรมการสิทธิในวันที่ 4 ก.ค. ทำให้กรรมการสิทธิฯ แต่ละคนต่างก็ตรวจเช็คกันเองว่ามีการสั่งยกเลิกการประชุมฯ จริงหรือไม่ซึ่งพบว่า ประธาน กสม.ไม่ได้สั่งยกเลิกการประชุม โดยแหล่งข่าวระบุว่า เชื่อว่าผู้ที่ส่งข้อความไม่ต้องการให้มีการประชุมคณะกรรมการสิทธิเพราะทราบว่ามีวาระพิจารณาเรื่องที่ข้าราชการมีการร้องเรียน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าช่วงเช้าก่อนที่นายวีรวิทย์ วีรวรวิทย์ รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการ จะเข้าห้องทำงานก็พบว่า โต๊ะทำงานภายในห้องมีการถูกรื้อค้น โดยลิ้นชักถูกเปิดทิ้งไว้ ซึ่งนายวีรวิทย์ได้สั่งให้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาผู้กระทำ

นอกจากนี้ยังพบว่า หลังบรรดาข้าราชการและพนักงานราชการได้ออกมาคัดค้านคำสั่งแต่งตั้งนายโสภณธีณ์แล้ว ปรากฏว่าก็ได้มีกลุ่มข้าราชการในสำนักงานคณะกรรมการสิทธิฯ ที่ใช้ชื่อว่า “ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เป็นพลังเงียบ” มีหนังสือถึงประธาน กสม. กรรมการสิทธิฯ และข้าราชการ พนักงานราชการ ทุกคน และระบุว่า สนับสนุนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับบริหาร ทั้งในส่วนการแต่งตั้งนายโสภณธีร์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความกระตือรือร้นในการทำงานและไม่เคยใช้อำนาจหรือวาจาที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งการย้าย ผอ.3 กลุ่มงาน โดยมีการโจมตีข้าราชการ พนักงานที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านนายโสภณธีณ์ และเรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิฯ อย่าตกเป็นเครื่องมือในการสร้างกระแส ต้องให้โอกาสคนในการพิสูจน์ตนเอง พร้อมกับเชิญชวนให้ผู้รักความยุติธรรมแสดงการต่อต้านการใส่ร้ายป้ายสี แต่งกายสีอื่นที่ไม่ใช่สีดำมาทำงาน

นางอมราให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกรรมการสิทธิฯ ในเรื่องดังกล่าวว่า ที่ประชุมวางแนวทางออกในเรื่องนี้ไว้ใน 2-3 แนวทาง ส่วนใหญ่จะเป็นการหาระเบียบ หลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการในสำนักงานมาพิจารณากันให้ชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์น่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนออกมา

เมื่อถามถึงกรณีการส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือของกรรมการสิทธิฯ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.แจ้งยกเลิกการประชุมคณะกรรมกรรสิทธิในวันที่ 4 ก.ค. นางอมรายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง โดยตนเองก็ได้รับข้อความดังกล่าวทางโทรศัพท์มือถือ แต่หลังจากตรวจสอบด้วยตัวเองก็ทราบว่าไม่จริง จึงสั่งให้ฝ่ายประชุมส่งข้อความอีกครั้งว่าให้มีการประชุมตามปกติ
กำลังโหลดความคิดเห็น