xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค-ประชา” เฮ! ศาล รธน.สั่งจำหน่ายคำร้อง 2 คดีถุงยังชีพ ชี้เป็นหน้าที่ ส.ส.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำพรรคฝ่ายค้าน
“ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยสั่งจำหน่ายคำร้อง 2 คดีถุงยังชีพ ชี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาเหตุ ส.ส.มีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤต ระบุกรณีถุงยังชีพพิษณุโลกก็ไม่ได้แจกเพื่อส่วนตัว ด้าน “ประชา” สุดปลื้ม รุดจับมือ “อภิสิทธิ์” ชูคำตัดสินเป็นบรรทัดฐานใช้ให้ ส.ส.ช่วยประชาชนเต็มที่ ขณะที่ หน.ปชป.ยังแคลงใจเพื่อไทยเอาถุงราชการพิมพ์ชื่อตัวเองทำได้หรือไม่ รอผล ป.ป.ช.อีกที

วันนี้ (20 เม.ย.) องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ เป็นประธานออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย กรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ประกอบมาตรา 106 (6) และ มาตรา 266 (1) หรือไม่เนื่องจากเข้าไปยุ่งเกี่ยวการแจกถุงยังชีพที่จ.พิษณุโลก และคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของนายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะรวม 153 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของ พล.ต.อ.ประชา, นายการุณ โหสกุล, นายสุรชาติ เทียนทอง, นายวรชัย เหมะ, นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ, นายวิชาญ มีนชัยนันท์ และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย สิ้นสุดลงตามมาตรารัฐธรรมนูญ 106 (6) ประกอบมาตรา 265 (1) หรือไม่ เนื่องจากเข้าไปแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในการแจกถุงยังชีพช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554

โดยศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยสั่งจำหน่ายคำร้อง เนื่องจากไม่เป็นประโยชน์ในการพิจารณา เพราะตามรัฐธรรมนูญ ส.ส.เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย มีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในยามที่เดือดร้อนในช่วงที่เกิดวิกฤตอุทกภัย ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว โดยในกรณีที่ จ.พิษณุโลก ถุงยังชีพของกระทรวงพลังงานเหลือค้างจำนวนมาก และการที่พรรคประชาธิปัตย์นำไปช่วยแจกจ่ายนั้นไม่ถือว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูลหรือนำไปแอบอ้าง เอาเป็นประโยชน์ส่วนตัว ศาลรัฐธรรมนูญจึงเห็นว่าไม่มีมูลตามคำร้องมาตรา 266 (1) ไม่เป็นประโยชน์ในการพิจารณา

ขณะที่ในส่วนของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยการได้รับแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารจัดการถุงยังชีพของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ก็เป็นการช่วยเหลือฝ่ายบริหารแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วในช่วงบ้านเมืองเกิดวิกฤตอุทกภัย และการดำรงตำแหน่งไม่ได้เข้าไปใช้อำนาจแอบอ้างเพื่อหาประโยชน์ส่วนตัว ซึ่ง ส.ส.มีหน้าที่ช่วยเหลือฝ่ายบริหาร การดำเนินการดังกล่าวจึงไม่มีความผิดตามมาตรา 265 (1) คำร้องจึงไม่เป็นประโยชน์ในการพิจารณา

ทั้งนี้ ในการอ่านคำวินิจฉัยครั้งนี้ ผู้ร้องและผู้ถูกร้องต่างเดินทางมารับฟังคำวินิจฉัยด้วยตนเอง และเมื่อทราบถึงคำสั่งดังกล่าว ทั้ง พล.ต.อ.ประชา และนายอภิสิทธิ์ ต่างก็มีสีหน้ายิ้มแย้ม โดย พล.ต.อ.ประชาเดินเข้าไปจับมือกับนายอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรคคนอื่นๆ เพื่อแสดงความยินดี

ด้าน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับภัยพิบัติเป็นส่วนมาก ส่วนกรณีของตนศาลได้วินิจฉัยอย่างชัดเจนว่าได้ทำหน้าที่ตามปกติ ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวหรือผู้อื่นมาเกี่ยวข้อง แต่ในส่วนคำร้องที่ตนได้ยื่นร้องพรรคเพื่อไทยนั้น ศาลได้วินิจฉัยว่าตัวผู้ถูกแต่งตั้งยังไม่ทราบคำสั่งและก็มีการยกเลิกคำสั่งนั้นไป ตรงนี้คงต้องไปดูในรายละเอียดว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวจะสามารถเป็นบรรทัดฐานในการทำหน้าที่ต่อไปหรือไม่ เพราะกรณีดังกล่าวยังมีเรื่องค้างอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และไม่รู้ว่าบรรทัดฐานจะออกมาเป็นเช่นไร เนื่องจากเป็นกรณีที่นำทรัพย์สินของทางราชการไปทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นของตนเอง หรือพรรคการเมือง ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าศาลจะรับรองว่าทำได้หรือไม่ ทั้งนี้ ในมุมมองของบุคคลที่ต้องทำงานในสถานการณ์ที่เกิดภัยพิบัตินั้น ตนก็ได้ยึดตามแนวทางว่าเข้าไปประสานงานได้แต่ไม่ควรไปก้าวก่ายการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และข้าราชการและต้องไม่มีอำนาจในทางบริหาร

ด้าน พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้คำนึงถึงการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังตกทุกข์ได้ยากจากสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งในปี 2554 ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติดังกล่าวรุนแรงมาก ตนเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลสามารถนำไปเป็นบรรทัดฐานได้ในอนาคต เมื่อเกิดเหตุอุทกภัยเช่นนี้ขึ้นอีก เพราะ ส.ส.สามารถทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่ ส่วนคดีที่ยังอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็เป็นอีกประเด็นที่ตนต้องเข้าไปให้ถ้อยคำต่อ ป.ป.ช. สุดท้ายผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ป.ป.ช. ทั้งนี้ มองว่าการที่ ส.ส.ใช้หน้าที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชน ถือเป็นหน้าที่หลักที่ต้องปฏิบัติ เพราะสุดท้ายผลประโยชน์ทุกอย่าง ส.ส. หรือพรรคการเมืองก็ไม่ได้เป็นคนได้ประโยชน์ เพราะคนที่ได้ประโยชน์จริงๆ คือประชาชน
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม







กำลังโหลดความคิดเห็น