xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ส่งออกเนื้อไก่ไทยปี 55 อาจไม่สดใส หลังต้นทุนผลิตพุ่งสูงทุกด้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - การส่งออกเนื้อไก่จากไทยไปยังตลาดต่างประเทศ อาจไม่สดใสนักในปี 2555 แม้กลุ่มประเทศแถบยุโรป-อาหรับ จะยกเลิกคำสั่งแบนผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ของไทย ซึ่งจะทำให้ตัวเลขการส่งออกเนื้อไก่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่มูลค่าที่ได้กลับมีแนวโน้มลดลง เหตุเพราะต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงในทุกด้าน และการแข่งกันเพิ่มกำลังผลิตของผู้ประกอบการ

นางฉวีวรรณ คำพา ประธานกรรมการ บริษัท ฉวีวรรณฟาร์ม จำกัด ในฐานะนายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า แม้แนวโน้มการส่งออกเนื้อไก่แช่แข็ง และเนื้อไก่ดิบจากไทยไปยังต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นในปี 2555 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น และการประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าเนื้อไก่จากไทยในประเทศกลุ่มยุโรปจำนวน 27 ประเทศ ซึ่งจะทำให้มูลค่าการส่งออกเนื้อไก่ดิบ และไก่แช่แข็งในปีนี้เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่ก็ถือเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นไม่มากนักเมื่อเทียบกับมูลค่ารวมที่มีการส่งออกในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 6 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นเพราะแม้ปริมาณการส่งออกจะเพิ่มขึ้น แต่การเร่งขยายกำลังผลิตของผู้ประกอบการในประเทศเพื่อรองรับการยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าของกลุ่มประเทศแถบยุโรป ก็มีผลกระทบต่อราคาขายที่ตกต่ำลงจากปริมาณผลผลิตที่มีมากขึ้น

“ช่วงนี้มีลูกค้าจากประเทศแถบยุโรปเดินทางเข้ามาขอชมการผลติไก่ดิบ และไก่แช่แข็งทั้งจากบริษัท และผู้ประกอบการรายอื่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ใช่ว่าแนวโน้มการส่งออกจะสดใสตาม เพราะกลุ่มประเทศเหล่านี้มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจสอบระบบการปลอดสารตกค้างในเนื้อไก่ที่เข้มงวด ซึ่งก็ทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าส่งออก เพราะหากเกิดการผิดพลาด ก็จะถูกแบนระยะยาว และสร้างความเสียหายทางธุรกิจมากกว่าสิ่งที่จะได้รับ”

เช่นเดียวกับประเทศในแถบตะวันออกกลาง รวมทั้ง บาห์เรน และกาตาร์ ที่ส่งสัญญาณว่าจะยกเลิกการห้ามนำเข้าเนื้อไก่จากไทย ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าน่าจะส่งผลดี แต่จากกฏระเบียบในการนำเข้าที่เข้มงวดโดยเฉพาะการผลิตอาหารฮาลาล ก็จะทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าส่งออกเนื้อไก่ไปยังประเทศกลุ่มนี้ เพราะกลัวจะได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบต่างๆ

นางฉวีวรรณ ยังเผยอีกว่า ต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันและพลังงานในประเทศ ทำให้ทั้งราคาอาหารสัตว์ ค่าไฟ และน้ำ ที่ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในภาคอุตสาหกรรมนี้ปรับตัวตามไม่น้อยกว่า 20% ขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 300 บาทต่อวัน ก็ทำให้ต้นทุนด้านนี้พุ่งอีกไม่น้อยกว่า 40% ดังนั้น แม้ปริมาณการส่งออกเนื้อไก่จะเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงสวนทางกับราคาขายที่ลดต่ำลง จากปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดจำนวนมาก ก็อาจทำให้มูลค่าการส่งออกในปีนี้ไม่ดีเท่าที่ควร

“ปีนี้มองว่าการส่งออกเนื้อไก่จากไทยไปยังต่างประเทศจะอยู่ที่ 6.5 แสนตัน โดยจะมีมูลค่ารวมประมาณ 7 หมื่นล้านบาท จากปีที่แล้วที่ทำได้กว่า 6 หมื่นล้านบาท”

นางฉวีวรรณ ยังเผยอีกว่า ปัญหาและอุปสรรคสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและส่งออกเนื้อไก่ไทยขณะนี้ ไม่เพียงอยู่ที่กฎระเบียบที่เคร่งครัดจนเกินไปของคู่ค้าต่างประเทศเท่านั้น แต่ความไม่เข้าใจในภาคธุรกิจอย่างแท้จริงของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในรัฐบาล ก็ทำให้อุตสาหกรรมดังกล่าวไม่เติบโตเท่าที่ควร ทั้งที่อุตสาหกรรมนี้สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศปีละมหาศาล เช่นเดียวกับสถาบันการเงิน ที่ยังมองว่าการเลี้ยงไก่เป็นธุรกิจที่เสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก ทำให้ไม่ปล่อยเงินกู้เต็มวงเงิน ทั้งที่ภาคอุตสาหกรรมนี้ต้องใช้เงินจำนวนมากในการลงทุน จึงฝากวอนไปยังรัฐบาลให้เร่งนโยบายในการช่วยเหลือทั้งผู้ประกอบการ ผู้เลี้ยง และผู้ส่งออกให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อรองรับการเป็นครัวโลกของไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น