“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.พิจารณาคลังเสนอให้แบงก์ชาติเพิ่มทุนสำรอง 9.1 พันล้านดอลลาร์ จากเดิมไม่เกิน 5 พันล้านดอลล์ สมทบกองทุน CMIM ขณะเดียวกันยังเสนอหลักเกณฑ์การค้ำประกันชำระหนี้ของหน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ พร้อมปรับอัตราค่าจ้างลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ด้านกระทรวงทรัพย์เสนอยุบกรมอุทยานฯ ควบรวมกรมป่าไม้ ส่วนกระทรวงยุติธรรมเสนอกฎหมายให้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานผู้ฝ่าฝืนตรวจแอลกอฮอล์เป็นผู้เมาสุราไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (10 ก.ค.) ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม มีวาระเพื่ออนุมัติ ได้แก่ กระทรวงการคลังจะเสนอ ครม.ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพิ่มทุนสำรองเป็น 9,104 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมไม่เกิน 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ สมทบกับกองทุนหลายฝ่ายจากความริเริ่มเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative Multilateralization Fund) หรือซีเอ็มไอเอ็ม ซึ่งดูแลเสถียรภาพทางการเงินของกลุ่มประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน ร่วมกับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี เพื่อรับกับความเสี่ยงต่อวิกฤตเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการค้ำประกันการชำระหนี้ของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินภาครัฐ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยกระทรวงการคลังสามารถค้ำประกันการชำระหนี้เงินกู้ให้แก่หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินภาครัฐได้ใน 8 กรณี คือ การกู้เงินเพื่อโครงการหรือแผนงานในด้านสาธารณูปโภคหรือสาธารณูปการ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยส่วนรวม โครงการหรือแผนงานที่มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมสูง (อีไออาร์อาร์) แต่มีผลตอบแทนทางการเงินต่ำ (เอฟไออาร์อาร์) หรือโครงการหรือแผนงานที่ราคาสินค้าหรือบริการอยู่ภายใต้การควบคุมตามนโยบายของรัฐบาล
การกู้เงินจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ รัฐบาลต่างประเทศ สถาบันการเงินของรัฐบาลต่างประเทศ หรือสถาบันการเงินต่างประเทศ โดยกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบในการค้ำประกันการชำระหนี้ตามเงื่อนไขการกู้เงิน, การกู้เงินในขณะที่สภาวะตลาดการเงินไม่เอื้ออำนวย หากกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ การกู้เงินซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติให้รัฐบาลรับภาระทั้งหมดหรือบางส่วน การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่กระทรวงการคลังเคยค้ำประกัน และ กระทรวงการคลังพิจารณาเห็นสมควรให้มีการค้ำประกันหนี้ต่อไป
กรณีที่เป็นหนี้อันเนื่องมาจากการกู้เงินที่มีความจำเป็นและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล การกู้เงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือสถาบันการเงินภาครัฐที่ราคาสินค้าและบริการอยู่ภายใต้การควบคุมตามนโยบายของรัฐบาล หรือเพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล และสุดท้ายคือการกู้เงินเพื่อดำเนินโครงการหรือแผนงาน หรือเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งหากกระทรวงการคลังค้ำประกันจะเป็นการประหยัด ลดต้นทุน และทำให้การบริหารหนี้สาธารณะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีวาระที่คณะกรรมการกลั่นกรองเสนอคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธาน เสนอการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2554 กรณีการปรับอัตราค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ เห็นควรยืนยันตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2554 กรณีการปรับอัตราค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวมีเจตนารมณ์เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก และเห็นควรให้มีการปรับโครงสร้างเงินเดือนของพนักงานและลูกจ้างรัฐวิสาหกิจให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ให้นำผลการศึกษาการปรับโครงสร้างเงินเดือนของพนักงานและลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ทั้งระบบมาประกอบการพิจารณาด้วย
ด้าน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอขอความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... ซึ่งเป็นการโอนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไปรวมกับกรมป่าไม้ โดย ทส.พิจารณาเห็นว่า กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีภารกิจเกี่ยวกับการอนุรักษ์ สงวน คุ้มครอง ฟื้นฟู ดูแล รักษา ส่งเสริม และทำนุบำรุงทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งมีลักษณะงานที่ซ้ำซ้อนและมีพื้นที่รับผิดชอบบางส่วนทับซ้อนกัน มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการตามกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้อย่างเดียวกัน
จากการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา พบว่าเกิดปัญหาในการบริหาร ทั้งในด้านนโยบาย วิชาการ บุคลากร และการบังคับใช้กฎหมาย เป็นเหตุให้ระบบการบริหารงาน และการบังคับใช้กฎหมายขาดประสิทธิภาพ ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ของประเทศมีเอกภาพและเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล สมควรรวมกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กับกรมป่าไม้ เป็น “กรมป่าไม้”
ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว กำหนดให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กับการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือมติของคณะรัฐมนตรี ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไปเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมป่าไม้ โดย ทส. กำหนดให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณ สิทธิ หนี้ ภาระผูกพัน ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง และอัตรากำลัง รวมทั้งอำนาจหน้าที่ของกรม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ไปเป็นของกรมป่าไม้ และอธิบดีกรมป่าไม้ ตามร่างมาตรา 6
ขณะเดียวกันยังกำหนดให้ในวาระเริ่มแรก กรมป่าไม้นอกจากจะมีส่วนราชการตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2551 แล้ว ให้มีส่วนราชการตาม (2) (4) (6) (7) (8) (9) (10) และ (11)-(26) แห่งกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2547 ด้วย และให้โอนอัตรากำลังในส่วนราชการของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไปเป็นของส่วนราชการกรมป่าไม้ และกำหนดให้ในวาระเริ่มแรก ให้ อ.ก.พ.กระทรวงพิจารณาจัดตำแหน่งและเกลี่ยอัตรากำลังของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ที่โอนมาจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในส่วนที่นอกเหนือจากมาตรา 7 (1)-(8) ไว้ในกรมป่าไม้
ส่วนกระทรวงยุติธรรม ขอความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการกำหนดอุปกรณ์เพื่อช่วยในการแสดงสัญญาณจราจร และกำหนดข้อสันนิษฐานกรณีผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันควร โดยกระทรวงยุติธรรมรายงานข้อเท็จจริงว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีสาระสำคัญเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมข้อสันนิษฐานทางกฎหมายในกรณีที่ผู้ขับขี่เมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น แต่ไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันควร และปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ อันควรเชื่อได้ว่าผู้ขับขี่ได้ขับขี่รถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น อันจะเป็นมาตรการในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุให้มีประสิทธิภาพ และเกิดความปลอดภัยในท้องถนนมากยิ่งขึ้น
สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้ไฟฉายเรืองแสงหรืออุปกรณ์เรืองแสงอื่น ในการแสดงสัญญาณจราจรได้ พร้อมทั้งกำหนดให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ว่า หย่อนความสามารถ ในอันที่จะขับหรือเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น และให้มีอำนาจกักตัวผู้ขับขี่ที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวและไม่ยอมให้ทดสอบในกรณีผู้ขับขี่ถูกกักตัวไว้ทดสอบแล้ว หากผู้นั้นไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างใดอย่างหนึ่ง
ด้าน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอทบทวนมติ ครม. เรื่องการให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดทำข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะราคากลางและการคำนวณราคากลางไว้ในระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูได้ และการกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยขอความเห็นชอบการเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อ จัดจ้างไว้ในระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.เสนอ ตามนัยมาตรา 103/7 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐนั้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ