โฆษกรัฐเหน็บฝ่ายค้านสร้างจินตนาการ “ปู” ไปเขมร แย้ม ครม.สัญจรสุรินทร์ มี “นารีขี่ช้าง” โชว์

ทีมโฆษกรัฐบาลแจงนายกฯ ไปเขมรตามคำเชิญสหรัฐฯ ชี้ เป็นโอกาสดีทำความเข้าใจนานาชาติ ได้ทีท้าฝ่ายค้านตามนายกฯ หรือจะเขียนจดหมายฟ้องโอบามา ก็ได้ เคาะวันเดินทาง ครม.สัญจรสุรินทร์ 29-30 ก.ค.นี้ แย้มได้เห็น “นารีขี่ช้าง” ส่วนกรมอุทยานฯ ถูกยุบรวมกรมป่าไม้ แก้งานซ้ำซ้อน อนุมัติแผนแม่บทสาธารณสุขชายแดน รับทราบความร่วมมือ “ไทย-พม่า” ปราบยาเสพติด ตั้ง “ยรรยง” นั่งเก้าอี้ใน คกก.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์

วันนี้ (10 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาในวันที่ 13 ก.ค.ว่า นายกฯ จะเดินทางออกจากประเทศไทยในช่วงบ่ายของวันที่ 13 ก.ค.เพื่อไปร่วมงานในช่วงเย็นวันเดียวกัน เมื่อไปถึงจะเข้าเยี่ยมคาราวะสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จากนั้นจะเข้าร่วมกิจกรรมที่หอการค้าของประเทศสหรัฐอเมริกา จัดขึ้น ในโอกาสอาเซียนจัดการประชุมที่กรุงพนมเปญ และมีผู้เข้าร่วมนอกเหนือจากประเทศในอาเซียนหลายประเทศ ทั้ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมไปถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่ง นางฮิลลารี คลินตัน ก็ได้มาร่วมกิจกรรมที่พนมเปญด้วย ดังนั้น หอการค้าสหรัฐฯ ถือโอกาสนี้จัดกิจกรรม โดยมีบุคคลระดับนำของประเทศ ซึ่งรวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในส่วนของงานเลี้ยง นายกฯ ของเราจะเป็นองค์ปาฐก เนื่องจากเราเป็นประเทศหนึ่งที่อยู่ในภูมิภาคนี้และมีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อกับประเทศภูมิภาคอื่น

ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเสริมว่า การเดินทางไปของนายกฯ ดังกล่าวมีความพยายามสร้างจินตนาการแบบไร้รูปแบบจากทางพรรคฝ่ายค้าน ในนามของทีมโฆษกรัฐบาล ตนขอเชิญเด็กช่างสงสัยอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเด็กเลี้ยงแกะอย่าง นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมโครงการนี้ได้ 2 รูปแบบด้วยกัน คือ ร่วมเดินทางไปกับคณะของนายกฯ ก็ได้ เพื่อไปดูว่ามันไม่มีอะไรอย่างที่ได้จินตนาการเอาไว้เลย หรือถ้าไม่สะดวกไป ก็ทำจดหมายสอบถามไปยังประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐอเมริกา เพราะเรื่องนี้ไม่มีมูลเหตุใดที่น่าสงสัยเลย สามารถสอบถามได้ทุกจินตนาการที่เป็นพิษ รัฐบาลยินดีให้เข้าร่วมทั้ง 2 รูปแบบ

นายอนุสรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการประชุม ครม.นอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.สุรินทร์ ภายหลังการลงพื้นที่ดูความพร้อมกับ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยการประชุมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 ก.ค.สำหรับในวันที่ 29 ก.ค.นั้น ครม.จะลงพื้นที่ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และในช่วงเย็นจะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) จากนั้นจะมีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยจะใช้โรงแรมทองธารินทร์ จ.สุรินทร์ เป็นสถานที่ในการประชุม

สำหรับวันที่ 30 ก.ค.จะเป็นการประชุม ครม.นอกสถานที่ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ จ.สุรินทร์ ซึ่งหวังผลักดันกลุ่มจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างให้ไปสู่เป้าหมาย และจะมีการสอดแทรกศิลปวัฒนธรรม โดยจะมีประเพณีตักบาตรบนหลังช้าง มีการแห่เทียนพรรษาด้วยช้าง และจะจัดรัฐมนตรีลงพื้นที่ในศูนย์คชศึกษาบ้านตากลาง นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าไหมท้องถิ่นให้กับนายกรัฐมนตรี และ ครม.ด้วย รูปแบบงานโดยรวมจะมีการเชื่อมโยงเอาภาคธุรกิจ และภาคการเมือง ข้าราชการ เข้ามาบูรณาการร่วมกัน เพื่อผลักดันกลุ่มจังหวัดอีสานตอนล่างไปสู่เป้าหมาย โดยมีการสอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมเข้าไป และเราอาจได้เห็นภาพนารีขี่ช้าง

อีกด้านหนึ่ง ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ 56 ในปี 2558 โดยเป็นระยะเวลา 23 ปีแล้วที่ประเทศไทยจัดส่งเยาวชน นักเรียน ไปแข่งขัน โดยรวม 503 คน ได้รับรางวัลเหรียญทอง 88 เหรียญ ได้เหรียญเงิน 147 เหรียญ ได้รับเหรียญทองแดง 128 เหรียญ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เม.ย.2558 และเพื่อเป็นการเผยแพร่เกียรติคุณของประเทศไทยให้นานาชาติรู้จัก โดยแผนดำเนินงานจะผูกพันงบประมาณปี 2556-2559 จำนวนเงิน 82 ล้านบาทเศษ ถือเป็นข่าวดีในงานวิชาการที่เราได้รับการตอบรับให้เป็นเจ้าภาพ

ต่อมา น.ส.ศันสนีย์ แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ฉบับที่..พ.ศ..เรื่องโอนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพืชพันธุ์ ไปรวมกับกรมป่าไม้ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ และผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว สาระสำคัญร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ กำหนดให้โอนบรรดาอำนาจเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ หรือมติ ครม.ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ไปเป็นอำนาจอำนาจหน้าที่ของกรมป่าไม้, โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน งบประมาณ สิทธิ หนี้ ภาระผูกพัน ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และอัตรากำลังของกรมอุทยานฯ ไปเป็นของกรมป่าไม้, โอนอำนาจหน้าที่ของกรมอุทยานฯ และอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมอุทยานฯ ตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ ปี 2504 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ปี 2535 ไปเป็นของกรมป่าไม้และอธิบดีกรมป่าไม้

ทั้งนี้ ในวาระเริ่มแรก กรมป่าไม้นอกจากจะมีส่วนราชการตามกฎกระมรวงแบ่งส่วนราชการกรมป่าไม้ ทส. ปี 2551 แล้ว ให้มีส่วนราชการตามวงเล็บ 2, 4, 6, 7, 8, 10 และ 11 ถึง 26 แห่งกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ และให้โอนอัตรากำลังในส่วนราชการของกรมอุทยานฯไปเป็นของกรมป่าไม้ และให้ ทส.พิจารณาจัดตำแหน่งและเกลี่ยอัตราของข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างที่โอนมาจากกรมอุทยานฯ อย่างไรก็ตาม สำนักเลขาธิการ ครม.พิจารณาแล้วเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นการโอนกรมอุทยานแห่งชาติฯ กับกรมป่าไม้เข้าด้วยกันโดยใช้ชื่อว่า “กรมป่าไม้” เป็นหน่วยงานระดับกรมภายใน ทส.ที่เป็นกระทรวงเดียวกัน เพื่อแก้ไขปัญหาลักษณะงานและพื้นที่ที่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีเอกภาพ

ส่วน นายอนุสรณ์ แถลงว่า ครม.อนุมัติแผนแม่บทการแก้ปัญหาและพัฒนาแรงงานสาธารณสุขชายแดนประจำปี 2555-2559 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยมีกรอบแนวคิดหลักในการจัดทำแผนแม่บท คือ ให้ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทั่วทั้งประเทศ โดยพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้มีคุณภาพ ส่งเสริมการเข้าถึงการบริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน สร้างความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของทุกภาคีและทุกภาคส่วน โดยเป้าหมายพื้นที่ที่จะดำเนินการมี 4 กลุ่ม คือ กลุ่มจังหวัดชายแดนไทยพม่า 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง

กลุ่มจังหวัดชายแดนไทยลาว 12 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก หนองคาย บึงกาฬ เลย นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี, กลุ่มชายแดนไทยกัมพูชา 7 จังหวัด ได้แก่ ศรีษะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด และกลุ่มชายแดนไทยมาเลเซีย 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา นราธิวาส ยะลา และสตูล สำหรับประเด็นยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาและพัฒนาสาธารณสุขชายแดนมี 4 ยุทธศาสตร์ คือ การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ การเข้าถึงบริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน ความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการ

อีกด้านหนึ่ง ครม.รับทราบผลการหารือร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และประเทศเมียนมาร์ (พม่า) ด้านการพัฒนาทางเลือกตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยกระทรวงยุติธรรมจะเสนอร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาทางเลือก พร้อมโครงการความร่วมมือไทยพม่าในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการปราบปรามยาเสพติดให้มีประสิทธิ์ภาพมากยิ่งขึ้น โดยพม่าประกาศที่จะเพิ่มช่องทางการข่าวและเข้าถึงพื้นที่ให้กับเจ้าหน้าที่ และ ป.ป.ส.ไทยจะพยายามผลักดันความร่วมมือกับพม่าด้านการพัฒนาทางเลือก โดยล่าสุดได้จัดการดูงานการพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืน มีการให้ความร่วมมือและตั้งคณะกรรมการกลางเพื่อควบคุมยาเสพติด ซึ่งจะประกาศเป็นวาระในภูมิภาคต่อไป

จากนั้น ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทนนายอำนวย ปะติเส ที่อายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.2555 เป็นต้นไป

น.ส.ศันสนีย์ แถลงต่อว่า ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับที่..พ.ศ...ซึ่งจะเป็นกำหนดอุปกรณ์เพื่อช่วยในการแสดงสัญญาณจราจร และกำหนดข้อสันนิษฐานกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันควร และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนฯพิจารณาก่อนเสนอสภาฯต่อไป โดยสาระสำคัญ คือ มีการแก้ไขเพิ่มเติมข้อสันนิษฐานทางกฎหมาย กรณีผู้เมาสุรา หรือเมาอย่างอื่นไม่ยอมให้ทดสอบ จึงปรับปรุงอำนาจหน้าที่เจ้าหน้าที่ สามารถสั่งให้ทดสอบผู้ขับขี่ที่เชื่อว่าขับขี่ระหว่างเมาสุรา พร้อมให้ใช้ไฟฉายเรืองแสงอื่นในการแสดงสัญญาณจราจรได้ กำหนดให้พนักงานจราจร พนักงานสอบสวน ทดสอบผู้ขับขี่ว่าหย่อนความสามารถในการขับหรือเมาสุราหรือไม่ และหากไม่ยอมให้ทดสอบก็ให้สันนิษฐานว่าขับระหว่างเมาสุรา หรือเมาอย่างอื่นได้ทันที ซึ่งจะเป็นมาตรการในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุให้มีประสิทธิภาพ

อีกด้านหนึ่ง ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิสูจน์และการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และเครือข่ายการแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทยดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ได้รับประโยชน์จากกฎหมายดังกล่าวประมาณ 18,000 คน

ขณะที่ นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลประชุมครม.ว่า ครม.อนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กู้เงินในประเทศปีงบประมาณ 2555 วงเงิน 900 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2556 วงเงิน 6,500 ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอทั้งนี้ กฟน.มีความต้องการกู้เงินในประเทศปีงบประมาณ 2555 วงเงิน 900 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2556 วงเงิน 6,500 ล้านบาท เพื่อนำมาสมทบการลงทุนตามแผนงาน ได้แก่ แผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้าฉบับที่ 10 ปี 2551-2554 ที่ในส่วนงบประมาณ 2555 แบ่งเป็นเงินกู้ในประเทศทดแทนเงินกู้จากต่างประเทศ 200 ล้านบาท เงินกู้ในประเทศที่เป็นเงินบาทสมทบโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ 700 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2556 แบ่งเป็นเงินกู้ในประเทศฯ 700 ล้านบาท กับเงินกู้ในประเทศที่เป็นเงินบาทสมทบฯ 400 ล้านบาท รวม 3,300 ล้านบาท

แผนงานที่ 2 แผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้าฉบับที่ 11 ปี 2555-2559 แบ่งเป็นเงินกู้ในประเทศที่เป็นเงินบาทสมทบโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ 2,200 ล้านบาทและเงินกู้ในประเทศทดแทนฯ 2,200 ล้านบาทรวม 4,400 ล้านบาท โดยเป็นเงินจากปีงบประมาณ 2556 ทั้งสิ้น ในส่วนแผนงานที่ 3 คือแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสื่อสาร (ไอซีที) ปี 2551-2554 ที่เป็นเงินกู้ในประเทศเพื่อการลงทุน 600 ล้านบาท จากงบประมาณปี 2556 และแผนงานสุดท้าย แผนแม่บทไอซีทีปี 2555-2559 ที่เป็นเงินกู้ในประเทศเพื่อการลงทุน 400 ล้านบาท จากงบประมาณปี 2556

มีรายงานว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครสมณทูตแห่งนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทย ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 มีพระประสงค์จะแต่งตั้ง อาร์ชบิชอป พอล ชัง อิน-นัม (Archbishop Paul Tschang In-Nam) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครสมณทูตแห่งนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน อาร์ชบิชอป โจวันนี ดานีเอลโล (Archbishop Giovanni d'Aniello) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ เสนอ