พบป้ายโฆษณาสกรีนตราสัญลักษณ์ กทม.แอบอ้างเป็นป้ายได้รับอนุญาตแล้ว นำไปติดตามเสาไฟ พร้อมเจอคนหัวหมอ ทำป้ายเลียนแบบก่อคอนกรีตถาวรบนทางเท้า เล็งแก้ MOU กับการไฟฟ้านครหลวง ขอหน่วยเบสท์เข้าซ่อมไฟแทนได้
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการประชุมหัวหน่วยงาน โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานการประชุมโดย นายกระมล โอฬาระวัต ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจได้รายงานผลการจัดเก็บป้ายผิดกฎหมายในพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2552 - พ.ค.2555 ซึ่งสามารถจัดเก็บป้ายผิดกฎหมายได้ทั้งหมด 1,459,511 ป้าย พบว่า สำนักงานเขตที่มีป้ายผิดกฎหมายมากที่สุด คือ บางกอกน้อย กว่า 2.6 แสนป้าย ตามด้วยเขตห้วยขวาง และ มีนบุรี โดยทางสำนักเทศกิจและสำนักงานเขตจะเร่งดำเนินการจัดเก็บป้ายที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการเปรียบเทียบปรับตามพระราชบัญญัติการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานคร พร้้อมเร่งเก็บภาษีป้ายให้ครบถ้วน
ด้านนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวในที่ประชุม ว่า ขณะนี้พบว่า มีป้ายโฆษณาบางป้ายแอบอ้างนำเอาตราสัญลักษณ์ช้างเอราวัณของ กทม.ไปสกรีนลงบนแผ่นป้ายโฆษณา เพื่อทำให้ดูเหมือนว่าได้รับอนุญาตจาก กทม.แล้วนำไวนำไปติดตามเสาไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการทำป้ายเลียนแบบจัดทำเป็นป้ายถาวรมีการเทคอนกรีตบนพื้นฟุตปาธอย่างเรียบร้อย ซึ่งในกรณีนี้ขอให้ผู้อำนวยการเขตทุกเขตตรวจสอบให้เข้มงวด โดยให้จัดส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจไปตรวจตราแบ่งเวลากำหนดการตรวจให้ชัดเจน
ขณะที่นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวในที่ประชุมว่า จะเร่งดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างในพื้นที่ต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยให้ทางสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) รวมถึงสำนักงานเขตเร่งสำรวจศาลาที่พักผู้โดยสาร ว่า มีไฟฟ้าสว่างเพียงพอหรือไม่ รวมทั้งสำรวจสะพานลอยคนข้ามทั้งบนสะพาน และใต้สะพาน หากพบว่า มีแสงสว่างไม่เพียงพอก็ให้เร่งดำเนินการติดตั้งเพิ่มเติม ซึ่งทางการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุน นอกจากนี้ ให้เร่งตรวจสอบถนน ตรอก ซอย ในพื้นที่เอกชนที่ใช้ร่วมกันเกิน 10 ปี ซึ่งจะให้ทีมกฎหมายและคดียกร่างประกาศในการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างเพิ่มเติมในจุดเสี่ยง โดย กทม.จะแก้ไขบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้านครหลวง เมื่อปี 2547 ให้ กทม.สามารถส่งหน่วยเบสท์เข้าไปเปลี่ยนหลอดไฟดวงที่ชำรุดได้ หากการไฟฟ้าฯยังไม่ดำเนินการ พร้อมเปิดสายด่วน กทม.และการไฟฟ้าฯในการรับข้อมูลข้อร้องเรียนต่างๆ จากประชาชน เพื่อให้สามารถดำเนินการแก้ไขได้อย่างเร่งด่วน
