xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทบ.ไม่คิดแทนศาล รธน. - งงเขมรอ้างไทยละเมิดคำสั่ง ย้ำไม่ถอนทหารแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (แฟ้มภาพ)
“ประยุทธ์” ยันทหารเคารพกระบวนการยุติธรรม ไม่คิดแทนศาลวินิจฉัยแก้รัฐธรรมนูญ ถามม็อบตีกันได้เงินเดือนเพิ่มมั้ย งงกัมพูชาฟ้องศาลโลกอ้างไทยละเมิดคำสั่ง ชี้ยังอยู่ในขั้นตอนเจดับเบิ้ลยูจีต้องกู้บึ้มก่อน แนะเพื่อนบ้านดูผลประโยชน์ร่วมด้วย ระบุถ้าทะเลาะกันแค่พระวิหารต่อไปก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ วอนเห็นใจกัน ย้ำไทยเดินแผนสร้างสันติ รอดูเขมรแถลงถอนทหารก่อน แต่เชื่อแค่ปรับกำลัง ลั่นไม่มีถอนแน่


วันนี้ (9 ก.ค.) ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ว่า ถือเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ และเป็นดุลพินิจ ประเทศทุกประเทศต้องมีกฎหมาย ต้องมีศาล มีความยุติธรรม ซึ่งในส่วนของตนคงไม่ไปละเมิดและไปคิดแทนศาล เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ทหารต้องยอมรับในกระบวนการยุติธรรม ส่วนคนอื่นก็ไปว่ากัน

“มวลชนทั้งสองฝ่ายที่มาเผชิญหน้าก็ต้องดูแลว่าอย่าให้มาทะเลาะกัน เพราะไม่เกิดประโยชน์ คนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม ทะเลาะกันไปก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น ผมถามว่าได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นหรือไม่ หรือมีอาชีพที่ดีขึ้น จากเกษตรกรได้เป็นนายทุนหรือไม่ ก็ไม่มีใครได้เป็นอะไร ดังนั้นก็อยากให้ไปหาทางกันเอาเองว่าทำอย่างไรไม่ให้เรื่องถึงศาล และไม่ให้ประชาชนมาทะเลาะกัน” ผบ.ทบ.กล่าว

ผู้บัญชาการทหารบกยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางกัมพูชาฟ้องศาลโลกว่าไทยละเมิดและไม่ดำเนินการตามคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลกว่า ไม่ทราบว่าทำไมทางกัมพูชาดำเนินการแบบนี้ ซึ่งอาจจะเกิดความขัดแย้งกันเอง เพราะตามแนวทางปฏิบัติหรือข้อตกลงเดิม เมื่อมีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวออกมา ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือกัน และลงนามร่วมกันว่าจะแก้ไขปัญหาโดยคณะกรรมการร่วม (เจดับเบิลยูจี) ซึ่งได้มีการหารือร่วมกันมาสองครั้งแล้วก็จะใช้กลไกนี้ในการนำไปสู่การปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลกนั้นคือการปรับกองกำลังทหารออก ซึ่งยังไม่ได้มีการพูดคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้จะต้องมีการเก็บกู้ทุ่นวัตถุระเบิดออกก่อนเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งต้องใช้เวลา ถ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะสู่ขั้นตอนการพูดคุยว่าจะปรับกำลังกันตรงไหนและปรับอย่างไร

“เรายังยืนยันตามนี้อยู่ แต่ปรากฏว่าทางกัมพูชามีแนวทางสองทาง คือ ทางหนึ่งพูดอย่างนี้ แต่อีกทางหนึ่งพูดแบบอื่น ซึ่งเราจะยึดทางที่ถูกต้อง สิ่งที่พูดมาเป็นข่าว แต่ถ้าทางกัมพูชาดำเนินการตามนั้นจริงก็จะต้องมีการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ไม่เช่นนั้นการประชุมร่วมที่ผ่านมาก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลได้พูดคุยกันแล้ว ซึ่งผมไม่อยากให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย ที่ผ่านมาเราพยายามที่จะให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ” ผบ.ทบ.กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือประชาชนที่เดินทางข้ามไปมาระหว่างประเทศ ทางไทยก็ดูตลอดไม่เคยไปกีดกั้น ซึ่งไม่เคยที่จะไม่ให้ความเป็นธรรมกับเขาและทางกัมพูชาควรจะดูแลตรงนี้ด้วย อย่าลืมว่าเรามีผลประโยชน์ร่วมกันมหาศาล หากเราทะเลาะเบาะแว้งกันด้วยเรื่องเขตเขาพระวิหารเพียงอย่างเดียว ต่อไปจะอยู่กันไม่ได้ และทั้งสองประเทศก็จะเสียประโยชน์ ทั้งนี้อยากจะขอร้องว่าทำอย่างไรให้สถานการณ์เบาลงและทั้งสองฝ่ายจะได้มาหาทางออกร่วมกันว่าจะอยู่อย่างไรไม่ให้กดดันและไม่มีปัญหา ซึ่งต่างฝ่ายก็ต่างมีข้อผูกมัดที่ไม่เหมือนกัน อย่างเช่นประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่จะต้องฝ่ายสภาฯ ส่วนทางกัมพูชาเองก็ไม่ได้ผ่านอะไร เพราะฉะนั้นต้องเห็นใจกัน แต่เราก็พร้อมที่จะทำอย่างอื่นเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราพร้อมที่จะอยู่อย่างสันติ อย่างไรทางศาลโลกก็คอยดูเราอยู่ ถึงแม้ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องกลไกข้อกฎหมายและสังคมโลก เขากำลังดูอยู่ว่าเราจะทำอย่างไร หากทั้งสองประเทศหาทางอยู่ร่วมกันได้โดยยอมกันบ้าง โดยไม่เสียอธิปไตย ไม่ผิดกฎหมาย ศาลก็น่าจะเห็นใจ เพราะสิ่งที่เราต้องการคือทำอย่างไรที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่มาแย่งกันเพียงยอดเขายอดเดียว ทำอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยกัน ไม่มาต่อสู้กัน

เมื่อถามว่า ทางกัมพูชาจะออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ นำโดยสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี พล.อ.เตีย บัญ รองนายกฯ และรมว.กลาโหมและนายทหารระดับสูงของกัมพูชาว่าจะถอนทหารออกจากพื้นตามมาตรการชั่วคราวของศาลโลกนั้นจะเป็นการกดดันไทยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ต้องไปดูว่าเขาถอนจริงๆหรือไม่ หรือว่าอะไร ซึ่งคิดว่าเป็นการปรับกำลังที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว และของเราเองก็มี ต้องรอฟังว่าเขาจะแถลงว่าอย่างไร

“ถ้าถอนทหารนั้นไม่ได้ ไม่มีถอน ผมไม่ถอน ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องการปรับกำลังตามแผนการป้องกันประเทศ ก็ดำเนินการไป ผมขอย้ำว่า จะไม่มีคำว่าถอนทหาร และถ้าจะถอนหรือจะดำเนินการใดๆ ก็ต้องเป็นไปตามมาตราคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลกเท่านั้น ยังไม่เกิดขึ้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการประชุมเจดับเบิลยูจี ซึ่งการถอนทหารและการปรับกำลังเป็นคนละเรื่องกัน การปรับกำลังทหารจะปรับเมื่อไหร่ก็ได้ ว่านำใครมาดูแล บางจุดที่ไม่เครียดเราก็นำกองกำลังกึ่งทหารเข้ามาดูแลบ้าง ถือเป็นเรื่องของเรา ส่วนเขาก็ทำเรื่องของเขา สำหรับ สิ่งก่อสร้างของกัมพูชา เช่น การสร้างถนน หากอยู่ฝั่งเขาก็เป็นสิ่งที่สร้างได้ แต่ถ้าสร้างขึ้นมาข้างบนเขาพระวิหารนั้นมันผิด จึงต้องไปฟ้องศาลโลก ทั้งนี้เราไม่อยากให้คำตัดสินเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะจะเสียหายกันทั้งคู่ ดังนั้นการพูดจากันให้รู้เรื่องก็น่าจะดี” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น