xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ยันไร้ปัญหา “บิ๊กโอ๋” คุม กห.เชื่อพี่น้อง ตท.ไม่ทำร้ายกันเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (แฟ้มภาพ)
“ประยุทธ์” เชื่อ “สุกำพล” นั่ง รมว.กห.ไร้ปัญหา คุยกันได้ ไม่ทำกองทัพสะดุด นโยบายก็คงไม่เปลี่ยน ไม่วิจารณ์จ่อแก้ พ.ร.บ.กลาโหม ยันทหารเข้าใจกันอยู่แล้ว คาดพี่น้องไม่ทำร้ายกัน ลั่นไม่มีปฏิวัติมั้ง

วันนี้ (20 ม.ค.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานงานวันสถาปนากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ครบรอบ 110 ปี ถึงการปรับ ครม.ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ว่า ทหารมีหน้าที่อย่างเดียวคือเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด ดังนั้น ไม่ว่าการจะปรับอะไรคงเป็นเรื่องของรัฐบาลในการดูความเหมาะสม ตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะท่านเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองทัพ และประการที่ 2 คือ ท่านเป็นรุ่นพี่จบจากโรงเรียนเตรียมทหารด้วยกัน คิดว่าเราพูดคุยกันได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว ไม่มีข้อขัดแย้ง และข้อสำคัญคงขัดแย้งกันไม่ได้ เพราะเราเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ท่าน พล.อ.อ.สุกำพลให้สัมภาษณ์อยู่แล้วว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้ชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าให้ได้

เมื่อถามว่าการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในครั้งนี้ จะทำให้การบริหารจัดการของกองทัพสะดุดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงไม่สะดุด ส่วนที่มีหลายคนเกรงว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ อาจเข้ามาปรับเปลี่ยนนโยบายนั้นคงไม่มี แต่คำว่านโยบาย คือ ทุกคนมุ่งหวังให้กองทัพแข็งแรง โดยหมายถึงการอยู่ในระเบียบวินัย และมีสมรรถนะในการทำหน้าที่ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามในรูปแบบเดิมในการป้องกันประเทศ และช่วยเหลือสนับสนุนกับหน่วยงานอื่นๆ ในภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ตนคิดว่านโยบายไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไม่ว่าใครจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็มุ่งหวังให้กองทัพเป็นกลไกของรัฐบาลในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ จะเข้ามาปรับเปลี่ยน พ.ร.บ.กลาโหมนั้น ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของท่าน อะไรที่อยู่ในกรอบอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนไม่บังอาจไปวิจารณ์ได้ เป็นเรื่องของท่าน

เมื่อถามว่า การเลือกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ต้องถามความเห็นกองทัพ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เห็นต้องถาม และไม่เคยถามอยู่แล้ว ไม่เคยมีใครถามมา ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมาถามกองทัพว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็มีการพิจารณากันเป็นตามลำดับ เหมือนกับกองทัพที่มีการพิจารณาจากผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เวลาตนจะแต่งตั้งผู้บังคับบังคับบัญชาตามลำดับชั้นจะมีการกลั่นกรองขึ้นมา กลั่นกรองแล้วตนก็ไม่ต้องไปถามใคร เป็นเรื่องของคณะกรรมการที่ได้มีการตั้งขึ้นมา และปรับย้ายตามที่หน่วยได้เสนอมาได้เลย

เมื่อถามว่า ผบ.เหล่าทัพกำลังทำงานไปด้วยดีกับอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น จะมีผลอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงไม่มีปัญหา เพราะ พล.อ.ยุทธศักดิ์ยังคงดูแลงานด้านความมั่นคงอยู่ และท่านก็บอกว่าไม่ได้หนักใจอะไร และบอกว่าดีเสียอีกที่ไปดูแลงานด้านความมั่นคงอื่นๆ อีกหลายด้านด้วยกัน ตนคิดว่าสิ่งที่ดีที่จะเกิดขึ้น ถ้ารองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงไปดูแลในภาพรวมแล้ว จะทำให้การสอดประสานการทำงานด้านความมั่นคงอาจจะดีขึ้น

เมื่อถามว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่เป็นทหารอากาศ จะเข้าใจทหารบกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทหารเข้าใจทหารอยู่แล้ว ทหารกับทหารจะต้องเข้าใจกัน ทหารพูดกันไม่นานก็เข้าใจ และท่านเป็นผู้บังคับบัญชา ส่วนตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งนี้ การเป็นผู้บังคับบัญชาคน หรือการโตเป็นผู้บังคับบัญชาจนถึงระดับนี้ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ หรอก และท่านก็มีความรู้ ความสามารถ และท่านพูดแล้วจะมาดูแลกองทัพก็รอดูท่าน เมื่อถามว่า เชื่อหรือไม่ เพราะโดยนิสัยของ พล.อ.อ.สุกำพล เป็นคนแรงพอสมควร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ จะมาถามตนเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ตอบง่ายท่านคือพี่ผมจบจากโรงเรียนเตรียมทหาร ฉะนั้นพี่กับน้องไม่ทำร้ายกันอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าจะมีการล้างบางกัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ล้างอะไร ล้างบ้าน หรือ ล้างบาง แต่ตนคิดว่าล้างบ้านดีกว่าเพราะน้ำท่วม เมื่อถามว่า แต่บทเรียนในอดีตฆ่าน้องฟ้องนายขายเพื่อน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ เพราะตนไม่เคยเจอ และตนคิดว่าตนเป็นน้องที่ดีกับพี่ทุกคน และตนเป็นพี่ที่ดีกับน้องทุกคน เป็นเพื่อนที่ดีกับเพื่อนทุกคน ฉะนั้นตนบอกแล้วว่าการทำงานมีอยู่ 3 อย่าง คือ 1. ผู้บังคับบัญชา 2. เพื่อนร่วมงาน และ 3. ผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าเราทำตัวเราเองให้ 3 อย่าง ไปด้วยกันได้ในการปฏิบัติหน้าที่ในกรอบที่ตัวเองจะต้องมีต่อแต่ละกลุ่มให้ เกิดความสมดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งสำคัญที่สุด ไม่น่าจะมีปัญหา ใครจะเป็นผู้บังคับบัญชาก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะท่านทำในหน้าที่ของท่าน แต่อย่าให้มีข้อบกพร่อง และท้ายที่สุดก็กลับมาเรื่องส่วนตัว ครอบครัว อะไรต่างๆ พวกนี้จะต้องไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนี้ก็ไม่น่าจะมีต้องกลัวอะไร

เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าทหารจะออกมาปฏิวัติ เพราะไม่พอใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า ทหารที่ไหน ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า หมายถึงว่าเหล่าทัพไม่พอใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ถามกลับว่า เหล่าทัพอะไร เหล่าทัพไหน ตนพูดอยู่นี้ไงตนอยู่เฉยๆ ตน จะไปเกี่ยวข้องอะไร ตนก็ทำหน้าที่ของตน ใครจะปฏิวัติ ไม่มีมั้ง สื่อจะปฏิวัติหรือเปล่า ส่วนที่มีการมองว่าในช่วงเดือน เม.ย.จะมีการปฏิวัตินั้น บอกด้วยแล้วกันว่าเมื่อไหร่เกิด เมื่อถามว่า จำเป็นจะต้องมีเส้นแบ่งหรือไม่ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่ควรมาล้ำ เส้นกองทัพ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มันมีหน้าที่ความรับผิดชอบกันอยู่แล้ว หน้าที่ความรับผิดชอบมีอยู่ไม่ต้องกลัว แล้วตนคิดว่าท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว เพราะฉะนั้นท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านจะต้องทำอะไร และตนก็รู้ว่าตนจะต้องทำอะไร ฉะนั้นหน้าที่ของเด็ก ตนถือว่าตนเป็นเด็กกว่าท่านหน้าที่ของท่านคือหน้าที่ของผู้ใหญ่ ดังนั้นผู้ใหญ่กับเด็กจะต้องทำงานด้วยกัน อยู่ในกรอบของกฎหมายอะไรต่างๆ ที่มีอยู่แล้วเดิม ไม่มีทะเลาะกัน ทะเลาะกันไม่ได้ ทหารถ้าทะเลาะกันถือว่าไม่ได้เพราะโตมาด้วยกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น