“ทูลกระหม่อมหญิงฯ” ประทานแจกันดอกไม้ รมว.กห.วันเกิดครบ 75 ปี “ยุทธศักดิ์” หนุนอย่างยิ่ง จ่าย 7.75 ล้านเหยื่อม็อบ อ้างจรรโลงครอบครัวต่อสู้ชีวิตได้ ชี้ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่พูดแกนนำต้องรับผิด แย้มเพิ่มเงินให้ทหารเสี่ยงชีวิตปกป้องอธิปไตย ไม่รู้ กมธ.ปรองดองอ้างทหารมีส่วนกระตุ้นความรุนแรง แต่ระบุกองทัพไม่ใช่คู่ขัดแย้งการเมือง ยัน ผบ.ทัพพร้อมแจง ชี้บางพวกไม่อยากปรองดองเรื่องปกติ
วันนี้ (11 ม.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 12.00 น.ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระกรุณาโปรดเกล้าประทานมอบของขวัญ และแจกันดอกไม้แก่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องในคล้ายวันเกิดครบรอบ 75 ปี และในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2555 ทั้งนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณสูงสุดที่พระองค์ท่านเมตตาและให้ความกรุณากับตนเป็นอย่างสูง ตนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากทุกพระองค์อย่างสูงสุดในชีวิต และปัจจุบันอายุ 75 ปี ไม่เคยมีความสุขและความภาคภูมิใจเท่ากับปีนี้ ถือเป็นมงคลที่พระองค์ท่านพระราชทานพร ทำให้มีกำลังใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น
พล.อ.ยุทธศักดิ์ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติจ่ายเงินชดเชยกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ 2548-2553 จำนวนรายละ 7.75 ล้านบาท ว่าตนก็เห็นด้วยอย่างยิ่งและถือเป็นเรื่องดี เพราะจะได้ช่วยเหลือครอบครัวที่สูญเสียบุคลากร และบุคคลภายในครอบครัว อย่างน้อยจะได้ช่วยจรรโลงให้ครอบครัวสามารถต่อสู้ชีวิตได้ ทั้งนี้มีบางครอบครัวได้เดินทางมาร้องเรียนกับกระทรวงกลาโหม และตนได้บอกไปว่าขณะนี้ได้รับการเยียวยาแล้ว ส่วนจะพอใจแค่ไหนก็ยังสามารถช่วยบรรเทาได้ดียิ่งขึ้นต่อไป
เมื่อถามว่า แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม เช่น นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยหรือไม่ เพราะเป็นผู้นำประชาชนมาเคลื่อนไหว ไม่ใช่นำเงินภาษีของประชาชนมาจ่ายเพียงอย่างเดียว พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เป็นนโยบายของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยที่ต้องการดูแลเรื่องนี้อยู่แล้วในการเยียวยาประชาชน ซึ่งหลังจากนั้นจะเกิดความรักใคร่ปรองดอง อะไรที่เป็นปัญหาอยู่ก็จะแก้ปัญหาในแต่ละขั้นตอนไป
เมื่อถามว่า การเยียวยาครั้งนี้จะทำให้เกิดความปรองดองได้หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า อย่างน้อยที่สุดก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนขั้นหนึ่งในการดูแลครอบครัวของผู้ที่มีความทุกข์โศกขาดที่พึ่ง เมื่อถามว่าการเยียวยาแกนนำจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย ในฐานะที่นำประชาชนมาเคลื่อนไหวจนเสียชีวิต พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องคุยกันต่อไป เมื่อถามว่าการเยียวยาครั้งนี้จะส่งผลให้การเคลื่อนไหวเรียกร้องคดี 91 ศพ ยุติลงหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ถ้าหากบางคนพอใจ ก็จะทำให้ปัญหาลดลงไปมากกว่าปล่อยทิ้งคาไว้แบบนี้
เมื่อถามว่า มีทหารเสียชีวิตเพื่อชาติ และศาสนา โดยเฉพาะ ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังได้เงินชดเชยน้อยกว่าคนที่เสียชีวิตเพื่อนักการเมือง พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปดู แต่ข้าราชการทหารที่เสียชีวิต มีระเบียบกฎเกณฑ์ของการเสียชีวิตอยู่แล้ว รวมถึงการดูแลบุตร ทั้งเรื่องด้านการศึกษา ที่กองทัพมีระเบียบในเรื่องนี้ดูแลอยู่ แต่ทุกอย่างต้องได้รับการเยียวยาทุกคน ส่วนจะได้มากน้อยมันมีขั้นตอนอยู่ ทุกครอบครัวหากมีปัญหา กองทัพก็ยังดูแลอยู่ รวมถึงองค์การทหารผ่านศึกก็ยังดูแลอยู่เช่นกัน ส่วนในอนาคตอาจจะมีการปรับเพิ่มให้ทหารที่เสียชีวิตจากการปฎิบัติหน้าที่ เป็นเรื่องที่ต้องทำ เพราะต้องมีการปรับตลอดเวลา
เมื่อถามว่า แนวทางการหารือเรื่องการปรองดองที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ วานนี้ (10 ม.ค.) ระบุ ทหารมีส่วนกระตุ้นในการสร้างความขัดแย้ง ในสังคม พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบในเรื่องนี้ ส่วนที่จะมีการเชิญ ผบ.เหล่าทัพ ไปร่วมด้วยนั้น คงไม่มีปัญหา เพราะ ผบ.เหล่าทัพ พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว กองทัพให้ความร่วมมือในการดำเนินการสร้างความปรองดอง ผบ.เหล่าทัพ พร้อมให้ความร่วมมือ และแนวความคิดในการดำเนินการต่อไปด้วย ไม่ได้มีปัญหาหรือความคิดเห็นขัดแย้งกัน แต่เห็นด้วยในการสร้างความรัก ความสามัคคี ในประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม อะไรที่มีปัญหาเราพยายามแก้ไข และหันหน้าเข้าหากันให้เกิดความร่วมมือความเข้าใจ มากกว่าที่จะแตกแยกกัน มีงานสำคัญของชาติที่จะต้องทำมากกว่า ที่จะมานั่งเสียเวลาตรงนี้ ส่วนที่ยังมีบางกลุ่มที่ไม่ต้องการสร้างความปรองดองนั้น เป็นเรื่องปกติของชีวิต
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า กองทัพไม่ใช่คู่ขัดแย้งทางการเมือง พล.อ.ยุทธ์ศักดิ์กล่าวว่า ถูกต้อง สิ่งที่ผู้บัญชาการทหารบกพูด คือ ตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และกำลังพลก็ไม่ใช่คู่ขัดแย้งทางการเมือง แต่ที่คณะกรรมการปรองดองฯ เชิญไปเพื่อต้องการรับฟังความคิดเห็น แนวทางและความร่วมมือ ซึ่งทางทหารก็มีความพร้อมให้การสนับสนุนทุกเรื่อง ถ้าสิ่งที่กองทัพสามารถดำเนินการได้ตามที่คณะกรรมการปรองดองฯ ต้องการ ทางกองทัพก็พร้อมที่จะทำ กองทัพอยากเห็นความสงบสุขของประชาชน และความเจริญก้าวหน้าของประเทศมากกว่าที่จะมาทะเลาะเบาะแว้งกัน ซึ่งที่ผ่านมาจากการที่ คณะกรรมการปรองดองฯ ได้เชิญหัวหน้าพรรคการเมืองไปพูดคุยกัน เป็นภาพที่น่าชื่นใจ เป็นนิมิตหมายที่ดีว่าในอนาคต ประเทศไทยคงจะร่วมมือกันได้มากกว่าที่จะเป็นอยู่ และอย่าไปคิดว่าเขาสร้างภาพ ทั้งนี้ กองทัพไม่ได้ยุ่งอยู่แล้ว พยายามเก็บเนื้อเก็บตัว จะไม่พยายามไปยุ่งกับการเมืองในช่วงนี้ก้มหน้าก้มตาทำงานกันในเวลานี้