รมว.กลาโหม ยัน “รัฐบาล-กองทัพ” ไม่ระแวงกัน แต่เตรียมหิ้วปลัดบัญชีแจงหลังนายกฯติงของบฯเยอะ โอดงบฯ น้อยยังถูกหั่น พร้อมต่อรอง “ปู” เติมงบฯ ที่ขาดพันกว่าล้าน เพื่อเดินยุทธศาสตร์ที่ได้เตรียมไว้ในอนาคต ปิดปาก ส.ส.เพื่อไทย ดันแก้ พ.ร.บ.กลาโหม รับรองกองทัพไม่มีมาเฟีย
วันนี้ 9 ธ.ค. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมกระทรวงกลาโหม ว่าได้สรุปภารกิจของทุกเหล่าทัพให้ท่านทราบ และงานในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ในช่วงที่ท่านไปตรวจเยี่ยม โดยเฉพาะงานใน กอ.รมน.ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.กอ.รมน.จะต้องทราบว่างานของ ผอ.กอ.รมน.6 มีอะไรบ้าง โดยท่านจะต้องรับผิดชอบและติดตาม และงานที่จะต้องประสานกับกระทรวงอื่น การบูรณาการ โดยที่ทหารไม่ต้องทำเป็นหน่วยงานเดียว จะต้องมีกระทรวงอื่นเข้ามาร่วมอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ได้เชิญ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ.ไปชี้แจงรายละเอียดการทำงานของ กอ.รมน.ให้ตนทราบ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายงานใน กอ.รมน.ที่กองทัพบก
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ติดใจถามในเรื่องใด แต่ได้สอบถามในส่วนของกองทัพอากาศว่าทำไมถึงของบประมาณมากและขอให้ไปพิจารณาความเร่งด่วนให้เป็นขั้นตอน เพื่อให้รู้ว่าอะไรเป็นเรื่องเร่งด่วนอันดับแรกและต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ความเร่งด่วนอันดับ2 และอันดับ3 ใช้งบประมาณเท่าไหร่ ทั้งนี้ในวันจันทร์ 12 ธ.ค. เวลา 09.00 น.จะมีการประชุม ครม. ซึ่งต้องเข้าประชุมกับนายกรัฐมนตรีด้วย จึงให้ทางปลัดบัญชีกองทัพอากาศติดตามไปด้วย เพื่อไปชี้แจงให้ท่านทราบ เพื่อจะได้รีบแก้ไขโดยเร็วต่อไป
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ได้ชี้แจงเรื่องงบประมาณให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า การที่งบประมาณถูกตัดไปจะส่งผลกระทบ และได้เปรียบเทียบให้เห็นว่างบประมาณใน รอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรและครั้งนี้ก็ไม่ได้รับการจัดสรรมาก แต่ก็ยังถูกตัดไปอีก เพราะฉะนั้นตามแผนงานตามยุทธศาสตร์ที่ได้เตรียมไว้ในอนาคตอาจจะต้องมีการ ปรับตามความเร่งด่วน แต่ถ้าหากรัฐบาลสามารถหางบประมาณที่ขาดไปประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท สามารถดำเนินนโยบายและยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ ซึ่งท่านก็รับทราบว่าจะนำไปพิจารณา แต่ยังไม่ได้ให้คำตอบ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยบอกว่าการประชุมของกระทรวงกลาโหมอาเซียนสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะสร้างความมั่นคงระหว่างประเทศให้เกิดขึ้น ท่านให้ใส่ใจในเรื่องนี้และทำให้ดีที่สุดในการประชุมร่วมกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะต่อไปเราจะเป็นประชาคมอาเซียน
“หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้รับทราบข้อมูลต่างๆ และเห็นการพบปะกันเช่นนี้ ท่านก็ได้พูดว่า ต่อไปนี้จะไม่ใช่การมาตรวจ แต่จะมาเยี่ยมและมาท่านข้าวกลางวันด้วยประมาณ 2 เดือนครั้ง เพื่อให้มีการพูดคุยกันหากใครมีปัญหาอะไร ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี สำหรับนโยบายความมั่นคง เช่น การดูแลสถาบัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็รับทราบและเห็นด้วยทุกเรื่อง โดยเราได้แจ้งให้ท่านทราบว่าการดูแลสถาบันถือเป็นภารกิจของทหารและได้ทำ อะไรไปบ้าง ซึ่งท่านรับทราบและเห็นด้วยพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ ที่ผ่านมารัฐบาลกับกองทัพไม่ได้หวาดระแวงกัน หรือ มีปัญหาความขัดแย้งในการทำงาน การได้มาพบกันมีอะไรจะได้เล่าสู่กันฟังหรือมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในสองทางจะทำได้เลย เพราะ ผบ.เหล่าทัพบางคนก็ไม่มีโอกาสได้พบกับผู้บริหารหมายเลขหนึ่งของประเทศ แต่ถ้าได้รับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทั้งสองทาง จะเป็นหนทางที่ ผบ.เหล่าทัพจะได้ทราบนโยบายและรีบนำไปดำเนินการ” พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายการทำงานระหว่างกองทัพกับรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้ให้นโยบาย เพียงแต่ขอบคุณกองทัพที่ทำงานให้รัฐบาลเพราะถือว่ากองทัพเป็นกลไกของรัฐบาลและการทำงานที่ผ่านมาในรอบ 3 เดือน ท่านเห็นว่ากองทัพได้ทำงานตามที่รัฐบาลได้มอบหมายให้ทุกเรื่องด้วยความเต็มใจ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งท่านพอใจในการทำงานร่วมกันของกองทัพและรัฐบาล นอกจากนี้เพื่อให้เกิดความสนิทสนม ความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น คงจะต้องมีโอกาสพบกันมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ยังได้กล่าวถึงกรณีนายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ ต้องขอดูก่อนว่าที่จะแก้ จะแก้ตรงไหน จะแก้อย่างไร และมีอะไรที่ควรจะแก้เพิ่มเติมหรือควรจะปรับ หรือไม่ต้องแก้ไขแต่ต้องปรับ ซึ่งบางมาตราก็ไม่ควรจะแก้ไขแต่ควรจะปรับปรุงเป็นต้น เมื่อถามว่า การทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพและรัฐบาล เพื่อความสบายใจไม่ควรจะก้าวก่ายซึ่งกันและกันใช่หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ส่วนมากก็ไม่มีอะไรที่มาก้าวก่าย ซึ่งตนก็ดูว่าขณะนี้ไม่มีอะไรที่ก้าวก่ายกัน
เมื่อถามว่า นายสุรสิทธิ์ระบุว่าหากไม่มีการแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม จะทำให้เกิดมาเฟียในกองทัพ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ตนมองไม่เห็นภาพนั้น ขณะนี้ภาพมาเฟียในกองทัพมันไม่มี ทุกคนทำงานตามหน้าที่ และทุกคนคิดว่าเมื่อมีงานที่อยู่ในหน้าที่ในความรับผิดชอบก็จะทำให้ดีที่สุด ในขณะนี้ถ้าจะแก้อะไร ก็ต้องไปดูในรายละเอียด ทุกอย่างจะต้องมีการแก้ไขปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความจริงใจ หากมีการแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรีจะแก้ไขปัญหาภายในพรรคอย่างไร พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดกันในเรื่องนี้ ยังไม่ได้ฟังความคิดเห็นท่าน ทั้งนี้ตนก็ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ ถ้ามีมาเมื่อไหร่ ค่อยนำมาคิดพิจารณา