“ประยุทธ์” แนะ นปอ.พร้อมสู้ภัยคุกคาม สั่ง ผบ.โยกย้ายเป็นธรรม

ผบ.ทบ.เปิดงานวันสถาปนา นปอ. ชูสร้างชื่อแก่กองทัพช่วยผู้ประสบภัย แนะเตรียมพร้อมอาวุธ-เตือนภัยและกำลังพล เพื่อรองรับเทคโนโลยีสู้ภัยคุกคาม สอน ผบ.เป็นแบบอย่างที่ดีจงรักภักดีปกป้องสถาบัน โยกย้ายให้เป็นธรรม ลั่นทุกคนมีโอกาสโต หนุนนำเศรษฐกิจพอเพียงสู้ค่าครองชีพสูง

วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานวันสถาปนาหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) ครบรอบ 20 ปี โดยมี พล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ให้โอวาทแก่กำลังพลของ นปอ.ในตอนหนึ่งว่า นปอ.ถือเป็นหน่วยที่มีความสำคัญ สร้างชื่อเสียง เกียรติประวัติให้แก่กองทัพบก โดยเฉพาะความช่วยเหลือบรรเทาประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราเป็นทหารของประชาชน เสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง ขอขอบคุณกำลังพลที่ทุ่มเทกำลังโดยไม่ย่อท้อ แม้ต้องเผชิญกับความยากลำบาก เพื่อให้ทุกภารกิจประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจ ส่งเสริมให้กองทัพบกได้รับการยอมรับและไว้วางใจเป็นที่พึ่งของประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์มีภัยคุกคามหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งภาวะโลกไร้พรหมแดน การเตรียมความพร้อมในเรื่องยุทโธปกรณ์ และกำลังพลถือเป็นสิ่งสำคัญ และ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้ภารกิจของกองทัพบกขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการบริหารประเทศ ดังนั้น นปอ.เป็นหน่วยที่มีระบบอาวุธป้องกันภัยทางอากาศควรให้ความสำคัญ และคำนึงถึงความพร้อมและให้ความสำคัญ ทั้งระบบอาวุธ และการแจ้งเตือนภัยทางอากาศ ควบคู่ไปกับการเตรียมพร้อมของกำลังพล เพื่อรองรับความเจริญก้าวหน้าต่ออาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ ที่มีเทคโนโลยีสูง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนผู้บังคับบัญชาต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี มีคุณธรรม ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องมีระเบียบวินัย ยึดมั่นในคำสั่งอย่างเคร่งครัด ต้องเป็นทหารของชาติประชาชน ตระหนักในหน้าที่ ให้ความสำคัญในการทำงานตามรอยพระยุคลบาท พร้อมแสดงความจงรักภักดี ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้มั่นคงยั่งยืน การทำงานที่ผ่านมาทุกคนแสดงให้เห็นถึงความมีระเบียบวินัย มีอุดมการณ์เสียสละ ความจงรักภักดีได้อย่างครบถ้วน สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะทำให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน การทำงานและเสียสละเพื่อประโยชน์โดยส่วนรวมของกำลังพลทุกคนคงไม่มีอะไรยากไปกว่านี้แล้ว

“ทุกคนอาจประสบปัญหาครอบครัว ค่าครองชีพสูง เราจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิต โดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำอะไรต้องรู้จักความพอประมาณก็จะมีภูมิคุ้มกันที่ดี ประเทศของเราไม่ใช่ประเทศที่ร่ำรวย สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเราอาจจะรู้สึกว่าต้องทำงานมากกว่าที่เราควรจะปฏิบัติ ทั้งการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงภายใน การพัฒนา รวมถึงภัยคุกคามที่มีมากขึ้น เราจึงต้องไปช่วย งานถึงมีมากแต่ขอให้ทุกคนภูมิใจว่าเราได้ทำตัวให้มีค่าต่อประเทศชาติ ซึ่งความภาคภุมิใจอยู่ในหัวใจของเรา ดังนั้นไม่ต้องเรียกร้อง ผู้บังคับบัญชาดูแลอยู่” ผบ.ทบ.กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในปัจจุบันเราพยายามทำให้ดีที่สุดกับทุกหน่วย ทุกเหล่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและยุติธรรมให้มากที่สุด เพราะฉะนั้นขอให้ผู้บังคับบัญชา ดูแลในเรื่องการปรับเลื่อนยศ ปรับย้ายให้เกิดความเป็นธรรมให้มากที่สุด ตนขอยืนยันว่ากองทัพบกจะทำตามที่คณะกรรมการได้จัดสรรขึ้นมา จะไม่เข้าไปวุ่นวายหรือยุ่งเกี่ยว ยกเว้นในเรื่องของความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ขอให้มีกำลังใจในการทำหน้าที่ ตำแหน่งในกองทัพบกไม่ได้มีมาก ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมในการเติบโตในกองทัพ แต่จะต้องพยายามถ้าไม่ได้ อย่าหมดหวัง แต่ต้องทำให้มากขึ้น สิ่งสำคัญคือการได้ทำประโยชน์หรือตอบแทนแผ่นดินอย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งที่คาดหวัง คือ อยากให้เป็นทหารมีระเบียบวินัย มีขีดความสามารถสูง มีความเชื่อมั่นในระบบการบังคับบัญชาอย่างคร่งครัด เสียสละ เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ทุกโอกาส มีความจงรักภักดีอย่างยิ่งยวด เป็นสิ่งที่ทหารทุกคนในกองทัพบกต้องยึดถือ เพื่อความเป็นสิริมงคล ทั้งนี้ ทหารทุกคนต้องเข้มแข็ง แข็งแรงทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งทางทหารและการช่วยเหลือพลเรือน เราต้องมีมิตรมากกว่าศัตรู มีศัตรูคนเดียวก็ไม่ดี ขอให้ดำเนินการทุกอย่างภายใต้กรอบ นโยบาย ที่กองทัพบกได้วางไว้ พร้อมกับร่วมมือกับทุกส่วนราชการ

หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า มาให้กำลังใจและขอบคุณกำลังพล นปอ. ที่มีภาระกิจ 2 ประการ คือด้านทหาร การป้องกันชายแดน ป้องกันอากาศยาน หรือข้าศึกต่างๆ และ การพัฒนาและบรรเทาภัยพิบัติ อย่างไรก็ตาม เราต้องมีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ความชำนาญเครื่องมือ ความทันสมัยเทคโนโลยี หากได้รับคำสั่งหรือมอบหมายหน้าที่จากผู้บังคับบัญชา ต้องพร้อม คือสั่งเมื่อไหร่พร้อมปฎิบัติเพื่อออกไปดูแลประชาชน ทั้งนี้ เรื่องความมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญ อยากขอร้องสื่อในการนำเสนอข่าว ตนไม่ได้แก้ตัว ความรับผิดชอบยังเป็นของเราเสมอ การที่ให้ลูกน้องทำงานอยู่ได้ในทุกวันนี้ เพราะมีความมั่นใจในสายการบังคับบัญชา มีความเชื่อฟัง เพราะเราเอาใจใส่ ให้กำลังใจเขา แต่เวลาทำความผิดก็ต้องลงโทษ ไม่เช่นนั้นกองทัพอยู่ไม่ได้

“เพราะฉะนั้น อย่าทำให้กองทัพแตกแยก หากกองทัพแตกแยก เมื่อมีปัญหากันเมื่อไหร่ ประเทศชาติจะอันตราย อย่าไปคิดว่าปัญหาภัยคุกคามวันนี้ไม่มีอะไร ไม่ต้องรบกับใคร ภัยคุกคามรูปแบบใหม่มากมาย ทหารต้องไปช่วยดูแลทั้งนั้น ถ้ากองทัพไม่แข็งแรงแล้วใครจะช่วย ไม่ต้องกลัวว่าทหารไปทำนอกวินัย เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ต้องเป็นทหารที่เป็นที่พึ่งกับประชาชนได้ทุกโอกาส เป็นทหารที่ทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน โดยรวมอย่างแท้จริง ขอให้เป็นทหารสมัยใหม่ได้แล้ว และ ขอให้เป็นสื่อสมัยใหม่ด้วย” ผบ.ทบ.กล่าว