“เทพเทือก” เห็นใจศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยคดีท่ามกลางการข่มขู่ของแก๊งเสื้อแดงและเครือข่าย ปลุกคนไทยร่วมให้กำลังใจ พร้อมค้านข้อเรียกร้องตุลาการฯ ที่มีเอี่ยวกับการร่าง รธน.50 ถอนตัว ตอก “เจ๊สด” ให้ความเห็นไม่เหมาะสม เข้าทางแก๊งแดงตลอด จี้ลาออกจาก กกต.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคน เพราะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของใคร แต่เป็นกรรมการกลางที่ต้องทำหน้าที่ชี้ถูกชี้ผิดตามหลักของกฎหมายและข้อเท็จจริงตามกระบวนการของประชาธิปไตยที่ทุกประเทศยึดถือปฏิบัติมา แต่โชคร้ายที่หากทำอะไรไม่ถูกใจฝ่ายเสื้อแดงก็จะอาฆาตมาดร้าย แต่ถ้าถูกใจก็จะทำเฉย ตอนนี้ก็ข่มขู่ทั้งคนขับรถ ตัวตุลาการไปจนถึงครอบครัวบุตร ภรรยา ชนิดที่คนไทย ไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ตนและคนไทยยังเชื่อมั่นว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก และตระหนักในภาระหน้าที่นี้คงไม่หวั่นไหวต่อแรงกดดันหรือแรงข่มขู่ใดๆ ทั้งสิ้นจะทำหน้าที่ของตนเองตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
นายสุเทพกล่าวว่า ขบวนการที่พยายามทำให้ตุลาการถอนตัวจากคดีเป็นปกติของคนเหล่านี้ ที่พยายามริดรอนความน่าเชื่อถือของตุลาการเป็นรายบุคคล แต่ตนคิดว่า ศาลคงมีดุลพินิจ เช่นกรณีของนายจรัญ เมื่อเคยพูดจาไว้และเป็นช่องทางที่ฝ่ายเสื้อแดงเอามาเป็นประเด็นกล่าวหา ท่านก็ถอนตัว แต่ตุลาการที่เหลือ ตนไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องถอนตัว และตนเชื่อมั่นว่าตุลาการจะทำหน้าที่ต่อไป การที่ฝ่ายเสื้อแดงพยายามอ้างว่าการแสดงความเห็นทางกฎหมายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือว่ามีส่วนได้ส่วนเสียนั้น ไม่ถือว่าเป็นองค์คณะ ไม่ถูกต้อง เพราะหากใช้หลักการนี้ บรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่สามารถลงมติกฎหมายรัฐธรรมนูญได้ตั้งแต่แรก เพราะจะมีผลต่อพรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริง รวมถึงยังมีผลต่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนมาก ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาต่างๆ
ฉะนั้น ถ้ายกเรื่องเหล่านี้มาเป็นประเด็นจะไม่มีที่สิ้นสุด กรณีของตุลาการไม่ได้ทำอะไรแบบที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทำ ในอดีตจะมีประสบการณ์อย่างไรก็แล้วแต่ แต่วันนี้อยู่ในฐานะตุลาการศาล ก็ทำหน้าที่ไป แต่เชื่อว่าแกนนำเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยจะใช้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขสร้างความสับสนต่อสังคมต่อไป
“ขณะนี้แรงกดดันตุลการศาลรัฐธรรมนูญเพียบอยู่แล้ว เหมือนกลับเดินไปกลางฝน ตัวเปียกแล้วยังมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้น มันก็แค่เปียก ซึ่งตุลาการศาลต้องผ่านเหตุการณ์ไปให้ได้ เป็นบททดสอบองค์กรอิสระหรือระบบศาลและหัวใจของประชาชน ผมขอเรียกร้องให้ประชาชนลุกขึ้นมาเป็นกำลังใจให้ศาลรัฐธรรมนูญ ยืนหยัดกับฝ่ายที่รักษาความถูกต้องให้บ้านเมือง ฝ่ายธรรมะ”
ส่วนที่ นางสดศรี สัตยธรรม กกต.แสดงความเห็นว่า หากตนเองเป็นตุลาการศาลและเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ ปี 50 หรือเคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้จะถอนตัวจากการเป็นองค์คณะ นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าตนเป็นนางสดศรี ตนลาออกจากการเป็น กกต.ไปนานแล้ว และเชื่อว่าการให้ความเห็นของนางสดศรีจะมีผู้หยิบไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองแน่นอน เพราะมีหลายประเด็นที่แสดงให้เห็นความไม่เหมาะสมในการอยู่ในตำแน่งหลายประเด็นจนไม่อยากจำว่ามีอะไรบ้าง
