xs
xsm
sm
md
lg

ดอกเตอร์ก็เป็นโจรได้ รักชาติอย่าไร้เดียงสา!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร
“เสียใจที่ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือทางการเมือง ตั้งความหวังนาซากลับมาอาจไม่ทันปีหน้า เพราะต้องใช้งบมาก ต้องวางแผนล่วงหน้า ถอนโครงการเสียงบหลายล้าน ในกลุ่มของคนที่ทำงาน พวกเราถูกทำจากนักวิทยาศาสตร์กลายเป็นโจร

ทุกคนจบ PHD เราไม่ได้จบปริญญาเอกเพื่อมาเป็นโจร ถ้าจะเป็นโจรไม่ต้องเรียกน็เป็นโจรได้แล้ว เราไม่ทราบเรื่องการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าทางคนที่ไม่เห็นด้วยโครงการจะบอกว่าพวกเรามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเห็นแก่การเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พวกเราบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เราเป็นนักวิทยาศาสตร์และเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ และเราเป็นข้าราชการ เรารักประเทศไทยเท่าๆ กับท่าน เราไม่ใช่คนขายชาติ”

คำสัมภาษณ์ของ “นริศรา ทองบุญชู” พร้อมด้วยเสียงสะอื้นและน้ำตาคลอเบ้า ดรามาเหมาะกับรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ตามสไตล์ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” พิธีกรขายดีของครอบครัวข่าว 3 เป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทยที่มี “นักวิทยาศาสตร์ไร้เดียงสา” เช่นนี้

นริศรา กลายเป็นหัวหอกคนสำคัญในมวลหมู่นักวิทยาศาสตร์ที่หนุนสุดลิ่มทิ่มประตูให้มีเครื่องบิน ER-2 ซึ่งพัฒนาจากเครื่องบินสอดแนม U2 มากางปีกบินอย่างอิสระบนน่านฟ้าประเทศไทย โดยไม่มีการพูดถึงมิติด้านความมั่นคงที่มีความอ่อนไหวเลยแม้แต่เรื่องเดียว นอกจากยัดเยียดข้อมูลเข้าทางรัฐบาลว่า “เป็นประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ในการพัฒนาเทคโนโลยี ไปจนถึงการพยากรณ์สภาพภูมิอากาศที่จะมีความแม่นยำมากขึ้น”

แต่กลับไม่มีนักวิทยาศาสตร์รายใดใช้สมองไตร่ตรองว่าควรจะมีการชั่งน้ำหนักระหว่างผลประโยชน์ด้านวิทยาศาสตร์กับผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติที่ไม่ควรมีผลข้างเคียงในเรื่องของความมั่นคงมากระทบ

ที่น่าสังเวชใจคือ ไม่รู้ว่านริศราไปเอาข้อมูลจากอวกาศชั้นไหน หรือแอบไปเก็บตัวอย่างมาแล้วกับนาซาที่นอกโลก ในการดรามาเรียกน้ำตาแห่งความเห็นใจจากชาวบ้านในฐานะนักวิทยาศาสตร์ผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องว่า “ไม่ได้เรียนปริญญาเอกมาเพื่อเป็นโจร...เป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ขายชาติ”

เธอต้องไปเก็บข้อมูลจากนอกโลกแน่ๆ เพราะตั้งแต่ติดตามข่าวคราวเรื่องนาซาใช้อู่ตะเภามา ยังไม่เคยเห็นมีใครด่าทอนักวิทยาศาสตร์ว่าขายชาติแม้แต่รายเดียว มีแต่เขาตั้งคำถามให้รัฐบาลตอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ขอให้ชี้แจงเรื่องผลกระทบด้านความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

มีตรงไหนที่ไปว่านักวิทยาศาสตร์ขายชาติหรือเป็นโจร แถมตรรกกะเธอก็สุดแสนจะประหลาดที่บอกว่า “เราไม่ได้เรียนจบปริญญาเอกเพื่อมาเป็นโจร”

เอาสมองส่วนไหนคิดถึงหลุดคำพูดนี้ออกมา เพราะมันแสดงถึงการเหยียดหยามคนที่เขาไร้การศึกษาว่าพร้อมเป็นโจร แต่คนเรียนสูงไม่มีทางเป็นโจร เลยอยากแนะนำให้ นริศรา ไปดูตัวอย่างคนที่ชื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นตัวอย่างหน่อย จะได้รู้ว่าคนเรียนจบสูงๆ เป็นโจรปล้น-ขายชาติได้ไหม

สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ไทยโดยเฉพาะ นริศรา ที่ออกมาดรามาผ่านสื่อทีวีเกือบทุกช่อง ควรจะได้กลับไปทบทวน คือ ในขณะที่พวกคุณเอาโครงการเก่าที่นาซาร่วมมือกับฮ่องกงตั้งแต่ 11 ปีที่แล้ว มายืนยันว่าจะไม่เกิดปัญหาในการทำโครงการนี้กับจีน เพราะจีนเองเคยอนุญาตให้ทำโครงการมาแล้วนั้น เป็นการให้ข้อมูลที่ล้าหลังจนอาจกลายเป็นความมั่นใจที่ผิดของรัฐบาลและสังคมไทยในการตัดสินใจเรื่องสำคัญของบ้านเมือง

นักวิทยาศาสตร์ไทย ลืมไปได้อย่างไรว่า เมษายน 2011 สภาคองเกรสสหรัฐฯ มีมติห้ามนาซาดำเนินกิจการใดๆ กับจีน เพราะเกรงว่าจะถูกจารกรรมข้อมูล ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการไม่ทำสังฆกรรมกับนาซาเช่นกัน

ข้อมูลล่าสุดที่นักวิทยาศาสตร์ไทยไม่บอกประชาชน แต่เอาข้อมูล 11 ปีที่แล้วมาอ้างอิง!

ไม่เพียงเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ไทยยังยืนยันแทนนาซาว่า ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทางการทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งๆ ที่ในบันทึกการบรรยายสรุปโดย Dr.Hal Maring ,NASA เพื่อให้ข้อมูลและตอบคำถามเพิ่มเติมแก่หน่วยงานไทยและการประชุมร่วมหน่วยงานไทยด้านความมั่นคงและด้านวิชาการ เพื่อพิจารณาข้อเสนอของ NASA โครงการ Southeast Asia Composition,Cloud,Climate Coupling Regional Study (SEAR4RS) วันที่ 27 มกราคม 2555 เวลา 10.00-12.30 น. ณ วิเทศสโมสร ส่วน 3 กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการสอบถาม Dr.Hal Maring ว่า “จะมีการนำข้อมูลที่ได้จากโครงการนี้ไปใช้ทางทหารหรือไม่”

คำตอบที่ได้จาก Dr.Hal Maring คือ “NASA เป็นองค์กรพลเรือน ดังนั้นข้อมูลที่ได้จึงไม่มีความตั้งใจให้มีการนำไปใช้ในทางทหาร อย่างไรก็ตาม NASA ไม่สามารถรับประกันในเรื่องนี้ได้ เพราะ NASA เปิดเผยข้อมูลที่ได้ต่อสาธารณะ ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ แต่ยังยืนยันว่าข้อมูลของ NASA เน้นไปใช้ในทางวิทยาศาสตร์”

น่าประหลาดใจไหมว่า Dr.Hal Maring ตัวแทนจาก NASA ยังไม่กล้ารับประกัน แต่นักวิทยาศาสตร์ไทยรับประกันแทน NASA ว่าไม่มีการใช้ประโยชน์ทางการทหาร

นักวิทยาศาสตร์ไทย เคยออกจากห้องทดลองเปิดตาดูโลกบ้างไหมว่าจีนเขาคิดอย่างไร ล่าสุดซีซีทีวีกระบอกเสียงรัฐบาลจีน เสนอข่าวในวันที่ 27 มิ.ย. 55 เปิดคำสัมภาษณ์ของ อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.จิสดา ที่พูดถึงแต่ผลประโยชน์ด้านวิทยาศาสตร์​โดยวิจารณ์คำสัมภาษณ์ดังกล่าวว่า

ผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายถึงความจำเป็นที่จะให้นาซาสำรวจชั้นบรรยากาศต่างๆ นานาแต่ไม่เป็นที่ชัดเจนเรื่องข้อสงสัยของบุคคลภายนอกที่สหรัฐฯ อาจจะใช้เรื่องนี้บังหน้าสำหรับปฏิบัติการทางทหาร ไม่ใช่ทางด้านวิทยาศาสตร์ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

“ของบางอย่างที่เราจะเอาไปใช้ทำอะไรมันได้ทั้งทางบวก ทางลบ ทางทหาร ทางพลเรือน เครื่องบินไม่มีชีวิตจิตใจ มันอยู่ที่คนว่าจะนำไปใช้ทำอะไร”

จากคำให้สัมภาษณ์ของผอ.สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศนั้น ดูเหมือนว่า ประเทศไทยจะไม่ให้ความสำคัญกับกรณีที่อาจมีเครื่องบินสอดแนมบินอยู่เหนือน่านฟ้าไทย

รายงานข่าวของซีซีทีวียังระบุด้วยว่า การสำรวจนี้จะครอบคลุมถึงพื้นที่ของกัมพูชาและสิงค์โปร์ โดยสหรัฐฯ จะส่งเครื่องบิน ER-2 เพื่อสำรวจลักษณะชั้นบรรยากาศ ซึ่งเครื่องบินรุ่นนี้ต้นแบบมาจากเครื่องบินสอดแนม U2 สำหรับทางทหาร และเครื่องบินรุ่นนี้สามารถหลบเลี่ยงเรดาร์

แน่นอนว่า การใช้เครื่องบินรุ่นนี้นั้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์แค่ด้านวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน ในขณะที่โครงการนี้มีระยะทำการครอบคลุมถึงพื้นที่ของจีน พม่า กัมพูชา และพื้นที่แทบทั้งหมดของเอเซีย หรือแม้กระทั่งพื้นที่บางส่วนของรัสเซีย ซึ่งข้อมูลที่ได้จากเครื่องบินนี้นั้นยังสามารถส่งต่อให้กับฐานทัพของสหรัฐในเอเซียแปซิฟิคด้วย

เชิญนักวิทยาศาสตร์ไทยออกจากห้องแลป แล้วเปิดตาดูโลกว่าการมองแค่มิติด้านวิทยาศาสตร์เพียงด้านเดียว มันเพียงพอต่อสิ่งที่พวกคุณพยายามบอกว่า “รักชาติ” ไหม
กำลังโหลดความคิดเห็น