xs
xsm
sm
md
lg

ตุลาการเสนอศาลปกครองยกคำร้องคดีถ่านหินสมุทรสาคร หลังโจทก์ถอนฟ้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ชุมนุมกลุ่มต่อต้านถ่านหินอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตสมุทรสาคร เดินขบวนต่อต้านผู้ประกอบการถ่านหิน เมื่อ 31 ก.ค.54 หลังการเสียชีวิตของนายทองนาค เสวกจินดา หนึ่งในแกนนำ (ภาพจากแฟ้ม)
ผู้ฟ้องคดีผู้ว่าฯ สมุทรสาครละเลยปล่อยให้ขนถ่านหินในพื้นที่สมุทรสาคร ตัดสินใจถอนฟ้อง อ้างกวดขันจนเป็นที่พอใจ ด้านตุลาการผู้แถลงคดีเสนอศาลฯยกคำร้องเหตุโยกย้ายผู้ว่าฯ ไม่ได้อยู่ในอำนาจ และไม่พบผู้ว่าฯ สมุทรสาครละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า

วันนี้ (29 มิ.ย.) ศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม ได้ออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในคดีที่นายสนธิญา สวัสดี ชาวตำบลท่าฉลอม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร อดีตยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดสมุทรสาคร ฟ้องผู้ว่าราชการสมุทรสาคร (นายจุลภัทร แสงจันทร์) กรณีละเลยการดำเนินการทางกฎหมายในการปล่อยให้มีการขนถ่ายถ่านหินที่บรรทุกทางเรือผ่านแม่น้ำท่าจีนเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยนายสนธิญา ได้แถลงด้วยวาจาต่อศาลว่า หลังจากศาลปกครองได้มีคำสั่งกำหนดมาตราการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนพิพากษาคดีเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 54 ที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานราชการอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีการขนถ่ายถ่านหินที่บรรทุกทางเรือผ่านแม่น้ำท่าจีนเข้ามาในเขตจังหวัดสมุทรสาครแล้ว ก็พบว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครก็ได้บังคับกวดขันจนไม่มีเรือขนถ่ายถ่านหินเข้ามาในพื้นที่อีก และคุณภาพน้ำในแม่น้ำท่าจีนก็มีคุณภาพเช่นเดียวกับก่อนที่จะมีการขนถ่ายถ่านหินแล้ว จึงขอถอนฟ้องในคดีนี้

จากนั้นนายมานิตย์ วงศ์เสรี ตุลาการผู้แถลงคดีได้แถลงความเห็นต่อคดีที่ไม่มีผลผูกพันธ์ต่อการพิจารณาขององค์คณะ โดยเห็นว่า คำขอของนายสนธิญา ที่ให้ศาลมีคำสั่งย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครภายใน 30 วันไม่อยู่ในอำนาจที่ศาลจะมีคำบังคับได้ เนื่องจากการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชาที่เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร

ส่วนที่ขอให้ศาลสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครตรวจสอบและคุณภาพน้ำในแม่น้ำท่าจีน และให้จังหวัดสมุทรสาครแต่งตั้งตัวแทนประชาชน เข้าร่วมของทุกกระบวนการของการตรวจสอบเพื่อให้ทราบว่าน้ำที่เน่าเสียในแม่น้ำท่าจีน มีสารปนเปื้อนของถ่านหินหรือไม่ แม้จะอยู่ในบังคับที่ศาลจะพิจารณาวินิจฉัยให้ได้ แต่มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยก่อนว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครละเลยการปฏิบัติ หรือไม่ปฏิบัติในการตรวจสอบหรือควบคุมคุณภาพน้ำในแม่น้ำท่าจีนหรือไม่ เห็นว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครมีหน้าที่ตรวจสอบควบคุมคุณภาพน้ำใมแม่น้ำท่าจีนตามกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.โรงงาน ปี 2535, พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย และยังมีหน้าที่ควบคุมการกฏิบัติหน้าที่ราชการของหน่วยราชการในจังหวัด เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร มีหนังสือแจ้งหน่วยราชการทราบถึงข้อเท็จจริงของปัญหาคุณภาพน้ำเพื่อให้มีการแก้ไขได้มีการสั่งให้หน่วยราชการ รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครทราบถึงผลการแก้ไข ต่อมาสำนักงานสิ่งแวดล้อมที่ 5 ได้มีหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ว่า ได้เฝ้าติดตามคุณภาพน้ำในแม่น้ำท่าจีนโดยตลอด และได้มีการนำผลตรวจคุณภาพน้ำมาเปรียบเทียบเป็นระยะ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครมีหนังสือลงวันที่ 28 ก.พ.54 แจ้งไปยังนายสนธิญาทราบ

นอกจากนี้ยังพบว่า ก่อนที่นายสนธิญาจะได้รับหมายศาลที่มีคำสั่งกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีหนังสือถึงส่วนราชการต่างๆ ในจังหวัด และผู้ประกอบการขนถ่ายถ่านหินทุกรายให้ดำเนินการหลายอย่าง เช่น การระงับการขนถ่ายถ่ายหิน ให้กรมเจ้าท่าตรวจตราไม่ให้มีการลักลอบขนถ่ายถ่ายหิน และระงับการต่อใบอนุญาตการขนถ่ายถ่านหิน อีกทั้งยังปรากฎว่าเมื่อมีการฟ้องคดีผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพน้ำ ลงวันที่ 14 ก.ย.54 ในพื้นที่ 4 จุดตามที่นายสนธิญาร้องขอ จากข้อเท็จจริงจึงเห็นได้ว่าตุลาการผู้แถลงคดี เห็นว่าผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ไม่ได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร จึงเห็นควรให้ยกคำร้องและมีคำสั่งให้มาตราการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวสิ้นผลไป ซึ่งหลังการพิจารณาองค์คณะได้แจ้งให้คู่กรณีทราบว่า ศาลจะเร่งพิจารณาเพื่อมีคำพิพากษาโดยเร็ว
กำลังโหลดความคิดเห็น