xs
xsm
sm
md
lg

“น้องนายกตุ่น” ยื่นสภาถามวิธีขอตัว “ครรชิต” ปูดลือใช้อิทธิพลสอยพยาน-พลิกสำนวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


น้องชายอดีตนายก อบจ.สมุทรสาคร ยื่นประธานสภา ถาม 4 ข้อ วิธีเอาตัว “ครรชิต” ไปดำเนินคดี จวกเอกสิทธิ์ ส.ส.ทำช้า ปูดมีข่าวผู้ต้องหาใช้อิทธิพลเคลียร์พยานแถมมีเส้นใหญ่พลิกสำนวนได้ จวกบริสุทธิ์ใจจริงไฉนไม่ส่งปืน-รถให้สอบ

วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายอุดม ไกรวัฒนุสสรณ์ น้องชายนายอุดร ไกรวัฒนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร เข้ายื่นหนังสือต่อนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีการขอตัวนายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ว่าจากการที่นายครรชิต ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายของศาลจังหวัดสมุทรสาคร กรณีฆ่านายอุดรโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนจนเสียชีวิต ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนและส่งสำนวนให้พนักงานอัยการจังหวัดพิจาณา และพนักงานอัยการนัดให้ผู้ต้องหาไปพบ ในวันที่ 28 มิ.ย. 55 นั้น และเนื่องจากผู้ต้องหาได้รับเอกสิทธิคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 131 เนื่องจากเป็น ส.ส. จึงทำให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปอย่างล่าช้า ที่สำคัญเวลาผ่านไปครึ่งปียังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

นายอุดมกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามตนได้ข่าวออกมาในทำนองว่าเป็นผู้ต้องหากำลังใช้อิทธิพลเคลียร์พยานให้หายตัวไปและมีเส้นใหญ่สามารถพลิกสำนวนในคดีจากดำให้กลายเป็นขาวได้ ทั้งนี้ สังคมอาจดูเหมือนว่าผู้ต้องหารายนี้จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการไปรับทราบข้อกล่าวหา แต่การให้ความร่วมมือที่แท้จริง ต้องเป็นเรื่องการส่งมอบอาวุธปืนและรถที่ใช้ในการก่อเหตุให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบมากกว่า เพราะหากบริสุทธิ์จริง ทำไมถึงไม่ยอมส่งมอบอาวุธปืนและรถให้ตรวจสอบ

นายอุดมกล่าวเพิ่มเติมว่า คดีที่มี ส.ส.ตกเป็นผู้ต้องหาเจตนาฆ่าคนตายยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเพื่อจะได้เป็นการสร้างบรรทัดฐานให้หน่วยงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องตามระเบียบกฏเกณฑ์ และจะได้ไม่เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในกระบวบการยุติธรรมอีกต่อไป จึงทำหนังสือมาเพื่อสอบถาม 4 ประเด็น คือ 1. กรณีนายครรชิตประกาศเจตนาต่อสาธารณชนว่าขอสละเอกสิทธิ์ของ ส.ส. ดังนั้นจึงขอทราบว่า ทางสภาฯ ได้พิจารณาอนุญาตแล้วหรือไม่ 2. กรณีที่มีการดำเนินคดีในช่วงปิดสมัยประชุมไม่เสร็จแล้วจะต้องดำเนินการต่อในสมัยเปิดประชุม (1 ส.ค.) หน่วยงานใดที่จะต้องเป็นผู้ร้องขอเพื่อนำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีต่อ 3. เมื่อเปิดสมัยประชุมจนถึงปิดสมัยประชุม ซึ่งช่วงระยะเวลาดังกล่าว หากคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ หรืออยู่ระหว่างการดำเนินการกระบวนการพิจารณาในชั้นศาล ขอทราบว่าหน่วยงานใดที่จะต้องเป็นเป็นผู้ร้องขอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อที่จะนำตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวมาดำเนินคดี และ 4. การนำตัวมาดำเนินคดีเพิ่มเติมหรือมาดำเนินคดีในชั้นศาลนั้นจะต้องทำเรื่องขออนุญาตต่อสภาฯ ให้นำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในแต่ละครั้งที่ดำเนินการ หรือทำเรื่องขออนุญาตนำตัวผู้ต้องหาครั้งเดียวและสามารถนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีจนกว่าจะปิดสมัยประชุมสภา หรือจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จได้

กำลังโหลดความคิดเห็น