มท.1 อ้างคำ “ปลอดประสพ” บินไทยขึ้นไปเมฆอำมาตย์ไม่ได้ ทำพยากรณ์ไม่แม่น ยันให้มะกันใช้อู่ตะเภาเพื่อประโยชน์ชาติ ซัดพวกดึงการเมือง แย้มรอกฤษฎีกาดูเข้า ม.190 หรือไม่ ชี้ยังมีเวลาอีก 1 สัปดาห์เข้า ครม.-เชื่อน้ำไม่ท่วมกรุงเก่า
วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีปัญหาการขอใช้สนามบินอู่ตะเภาของสหรัฐอเมริกาเพื่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือมนุษยธรรมและศึกษาชั้นบรรยากาศ ที่ล่าสุดมีการระบุว่าได้มีหนังสือจากทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาพูดคุยนาซาแจ้งมายังทางการไทย หากรัฐบาลไทยไม่สามารถตัดสินใจได้ก็จะถอนทั้งหมดเพราะขนอุปกรณ์มาไม่ทัน ตามแผนต้องขนอุปกรณ์ในเดือน มิ.ย. และก.ค. และปฏิบัติในเดือน ส.ค.-ก.ย.และแจ้งถ้าไม่ทันก็เข้าใจ เพราะช่วงนี้ไทยมีปัญหาการเมืองว่าต้องถามคนที่มีความเข้าใจ ซึ่งตนก็ติดตามอยู่พอสมควร เพราะเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ นายปลอดประสพก็บอกว่า มีเมฆ 3 ระดับ มีเมฆชั้นต่ำ เรียกว่า เมฆไพร่ เมฆชั้นกลาง ก็คนชั้นกลาง เมฆสูง ก็เป็นเมฆอำมาตย์ ซึ่งเครื่องบินของเราไม่สามารถขึ้นไปที่เมฆชั้นกลางและเมฆชั้นสูงได้ เพราะฉะนั้นการพยากรณ์อากาศจึงไม่มีความแม่นยำ และเมื่อรัฐบาลคำนวณผิดพลาดก็ถูกด่าอีก เราต้องเห็นใจอย่ามองอะไรที่เป็นแง่ลบ แง่ร้ายมากเกินไป ซึ่งรัฐบาลก็อธิบายว่าเป็นผลประโยชน์ของประเทศโดยรวม แต่คนอื่นเอาเป็นเรื่องการเมือง ของเราเป็นเรื่องบ้านเมืองล้านเปอร์เซ็นต์
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลอธิบายมีความหนักแน่นหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า หนักแน่น นายปลอดประสพก็พูดจนไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว นายกรัฐมนตรีก็พูด ต่างประเทศก็พูด ถามต่อว่า ฝ่ายค้านอ้างว่าการที่นาซามาขอใช้สถานที่อู่ตะเภา น่าจะเข้ามาตรา 190 นายยงยุทธกล่าวว่า มันเริ่มมาก่อนหน้านี้แล้ว อะไรจะเข้าหรือไม่เข้าก็จะมีกฤษฎีกาอยู่ ทางรัฐบาลก็มีนักกฎหมายอยู่ ถ้านักกฎหมายบอกว่า ไม่เข้าก็ไม่เข้า ถ้านักกฎหมายบอกว่าเข้าก็เข้า ข้อเท็จจริงที่จะไปดูได้ เมื่อถามว่าจะสามารถนำเข้า ครม.พิจารณาได้เมื่อไร นายยงยุทธกล่าวว่า ยังมีเวลาอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งก็ต้องติดตามดูอีกครั้ง
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยังกล่าวถึงกรณีที่มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำออกมาระบุน้ำจะท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า ต้องดูในภาพรวม อย่าดูเป็นส่วน ไม่น่าจะเกิดอย่างที่เป็นห่วงกัน ซึ่งรัฐบาลก็จะทำเต็มที่
