xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” แนะรัฐทบทวนนโยบายจำนำข้าว-หวั่นกู้เงินก้อนใหญ่ 3.5 แสน ล.ทำภาวะหนี้พุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (ภาพจากแฟ้ม)
หน.ปชป.แนะรัฐบาลทบทวนนโยบายประชานิยม โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว หวั่นกระทบเศรษฐกิจไทย หลังเศรษฐกิจยุโรปเริ่มผันผวน อีกทั้งต้องรองรับภัยพิบัติ ชี้ภาวะหนี้มีแนวโน้มสูงขึ้นเพราะรัฐบาลกู้เงิน 3.5 แสนล้านและภาวะเศรษฐกิจในอนาคต

วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีหนี้สาธารณะที่มีความกังวลว่าอาจกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ หากรัฐบาลยังดำเนินนโยบายในลักษณะนี้ วา ตนคิดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ และความไม่แน่นอนในยุโรปมีค่อนข้างมาก ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นและการส่งออก รัฐบาลจึงต้องทบทวนว่า การใช้จ่ายเงินของรัฐบาล มีประสิทธิภาพคุ้มค่า และจะช่วยเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยมากน้อยเพียงใด เพราะภาระหนี้สิ้นเพิ่มขึ้นจากตัวเลขที่ออกมา เราเห็นชัดเจนว่ามีหลายนโยบายที่ถูกท้วงติง เช่น นโยบายจำนำพืชผลทางการเกษตร หรือนโยบายที่ใช้เงินค่อนข้างสูง รัฐบาลก็ควรที่จะต้องทบทวน

“รัฐบาลต้องทบทวนนโยบายประชานิยม เพราะสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีทั้งความผันผวนด้านเศรษฐกิจ และการรองรับภัยพิบัติในหลายเรื่อง การใช้เงินก้อนใดที่ไม่คุ้มค่าก็ควรที่จะทบทวน ผมเห็นว่านโยบายของรัฐบาลหลายนโยบายแม้จะมีเจตนาที่ดี แต่มีวิธีการอื่นที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ในการใช้จ่ายเงินก็ควรจะทบทวนด้วย โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวซึ่งมีภาระมากมายมหาศาล เฉพาะเริ่มต้นยังต้องหาเงินมาหมุนเวียนมากกว่า 2 แสนล้าน ซึ่งเป็นยการทำงานเพียงแค่ครึ่งปีเท่านั้น และถ้าต้องทำทุกปีภาระจะต้องเพิ่มขึ้น เพราะเกษตรกรปลูกข้าวกันปีละ 2-3 รอบ ” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะทบทวนเพราะล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันว่ายกเลิกนโยบายรับจำนำข้าวไม่ได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลทำทุกอย่างเป็นเรื่องการเมือง และผลักภาระหนี้สิ้น การเงินการคลัง ไปสู่อนาคตก็ไม่เป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมในหลายด้าน เพราะเงินทุกบาทที่ใช้ไปอย่างไม่คุ้มค่าสามารถนำมาพัฒนาด้านอื่นๆ ได้ เพราะถ้าปัญหาการเงิน การคลังรุนแรงขึ้นก็จะส่งผลกระทบเรื่องดอกเบี้ยและความสามารถในการหาเงินมาลงทุน รวมทั้งความเชื่อมั่นด้วย เห็นว่ารัฐบาลไม่มีการพิจารณาภาพรวมและผลกระทบจากการบริหารเกี่ยวกับวินัยการเงิน การคลัง

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กรณีหนี้กองทุนฟื้นฟูจะเห็นว่ารัฐบาลจะออกมาตรการที่จะมารองรับวิกฤตยุโรป คือการเลื่อนเวลาการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากออกไป ตนเห็นว่าการคุ้มครองเงินฝาก และการเร่งให้มีกองทุนที่มีเงินเพียงพอเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งสำนักหนี้ต้องแจกแจงให้เห็นว่าหนี้มีอยู่ที่ไหนบ้าง และตนเชื่อว่าทุกฝ่ายต้องติดตามตรวจสอบ และรัฐบาลต้องดูภาพรวมหนี้ของประเทศ จะมาอ้างว่าดูแลเฉพาะในส่วนหนี้ที่เป็นของกระทรวงการคลังไม่ได้ อย่างไรก็ตามภาวะหนี้ในขณะนี้ยังไม่ทะลุ 50 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี แต่ต้องยอมรับว่าตัวเลขสูงขึ้น เพราะประเทศกำลังที่จะมีการกู้เงินก้อนใหญ่ 3.5 แสนล้านบาท และต้องดูภาวะเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น