หน.ประชาธิปัตย์ รับเจอชูป้ายไล่ระหว่างลงช่วยเด็กหาเสียงนายก อบจ.เชียงใหม่ ซัดไร้จิตวิญญาณประชาธิปไตยขัดขวางคู่แข่ง แฉวิทยุแดงปลุกสาวกลุย ถาม “ยิ่งลักษณ์” นี่ ปชต.แบบไหน จวกใช้มวลชนขู่ยิ่งทำชาติวิกฤต จี้ กกต.วางกติกาให้ชัดอย่ากลัวม็อบ แนะจบได้แล้วเรื่อง “สุเทพ” ปูดร่วมรัฐ ไล่เพื่อไทยไปซักกันเอง
วันนี้ (20 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดง จ.เชียงใหม่ ขัดขวางระหว่างการลงพื้นที่ช่วยนางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่หาเสียงว่า มีคนเสื้อแดงมาไม่กี่คน แต่ทางทีมงานไม่อยากให้มีเรื่อง เช่นที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประมาณ 3-4 คน ชูป้ายโจมตีและมีนักศึกษาโห่ไล่ ทีมงานกลัวว่าจะเกิดการปะทะกันจึงพยายามหลีกเลี่ยง สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นอีกครั้งถึงความไม่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตย มีการขัดขวางการลงพื้นที่ของคู่แข่ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ เพราะการเลือกตั้งไม่มีทางเที่ยงธรรมหรือเป็นธรรมได้ ถ้าฝ่ายหนึ่งหาเสียงได้โดยอิสระ แต่อีกฝ่ายถูกขัดขวางตลอดเวลา ซึ่งเรื่องนี้ก็ชัดเจนเพราะมีสถานีวิทยุและกลุ่มเชียงใหม่ 51 ประกาศเชิญชวนให้คนออกมา จึงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ส่วนจะมีการร้องเรียนเอาผิดผู้สมัครได้หรือไม่ตนไม่ทราบ ไม่ได้ติดใจตรงนี้แต่ต้องการให้ กกต.มีกติกาที่ชัด และต้องฟ้องต่อสังคมว่าพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่นักประชาธิปไตย
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเรียกร้องไปยัง กกต.ให้กำหนดกติกาให้ชัดตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเกิดพฤติการณ์เดียวกัน แต่ก็ไม่เข้าใจว่า กกต.เพิกเฉยเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ทั้งที่เป็นเรื่องพื้นฐาน และผิดกฎหมายเลือกตั้งด้วยซ้ำ จึงควรพูดให้ชัดและต่อไปไม่ควรมีการขัดขวางการลงพื้นที่เกิดขึ้น ตนไม่อยากให้มีเรื่อง และอยากสอบถามไปยังพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ กกต. ว่านี่คือประชาธิปไตยแบบไหน ที่ฝ่ายหนึ่งมีอิสระทำทุกอย่าง แต่ไปจำกัดเสรีภาพคนอื่น
“ผมคิดว่า กกต.จะกลัวคนเสื้อแดงไม่ได้ เพราะถ้า กกต.กลัวจนไม่กล้าวางกติกาก็ไม่ต้องมี กกต. ผมคิดว่าการใช้มวลชนกดดันคนอื่นไม่เป็นผลดี เราจำเป็นต้องทบทวนอย่างจริงจังว่าต้องการอนาคตประชาธิปไตยไทยสังคมไทยแบบไหน ถ้าใช้การข่มขู่คุกคามโดยมวลชนจะทำให้ประเทศชาติถล่ำลึกลงไปในแนววิกฤตและกระทบภาพลักษณ์ด้วย และรัฐบาลเองก็มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ผมจึงยืนยันว่าเมื่อมีการทำผิดเจ้าหน้าที่ต้องทำหน้าที่ เช่น การปราศรัยผิดเงื่อนไขประกันตัว ดีเอสไอต้องไปยื่นถอนการประกันตัว รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ นายกฯ สามารถพูดกับผู้สนับสนุนตัวเองให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ แต่ถ้าไม่พูดเท่ากับเป็นการสนับสนุนกลายๆ ให้ทำ” นายอภิสิทธิ์กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเปิดเผยรายชื่อบุคคลไปเจรจาทาบทามให้มาร่วมรัฐบาลว่า เรื่องนี้ควรจบได้แล้ว เพราะนายสุเทพพูดชัดแล้ว และพรรคก็แสดงจุดยืนว่าไม่มีการไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคเพื่อไทยอยากทราบว่าเป็นใครก็ไปค้นหาเอาเอง ส่วนที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าบุรุษที่มาเจรจากับนายสุเทพ คือนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ นั้นก็ต้องถามกลับไปว่าไหนบอกว่าไม่มีการทาบทามไม่ใช่หรือ