xs
xsm
sm
md
lg

พรรคร่วมบีบปรับ ครม.เร็ว จับตา รมต.ติดยศเก้าอี้หาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ
รายงานการเมือง

ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาต่อเนื่องมาถึงเดือนนี้ ข่าวคราวของสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่พ้นโทษแบนทางการเมือง กลับไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่หลายคนหวังใจ

โดยเฉพาะสมาชิกในบ้านเลขที่ 111 เพราะข่าวคราวการเมืองล้วนเทน้ำหนักไปที่เรื่องร้อนแรงอย่างการเสนอพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดอง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งติดเบรกหัวคะมำ

ยังชุลมุนชุลเกกับเรื่องในรัฐสภา การเสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อช่วยเหลือให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดี ถูกหยิบจับมาเป็นประเด็นโขกสับ จนฝ่ายรัฐบาลตั้งรับไม่เป็นกระบวน ข่าวอื่นๆ เงียบหายไปหมดจด ผลงานรัฐบาลก็พลอยหายเข้าไปในกลีบเมฆ เมื่อรัฐบาลทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอเรื่องร้อนๆ เสี่ยงๆ แบบนี้ ทุกอย่างก็หายไปในกลีบเมฆ

ข่าวคราวการปรับ ครม.ที่แพลมมาก่อนหน้านี้ ช่วงที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะกลับมาใหม่ๆ ก็ตีปี๊บเป็นประเด็นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เงียบไป สมาชิกบ้านเลขที่ 111 บางคนพยายามปล่อยข่าวตีประเด็นเร่งเร้าไปที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมตรี ให้เร่งทำการปรับ ครม. แต่ยิ่งเร่งยิ่งไร้ผล ยิ่งบีบยิ่งกดดัน “ปูนิ่ม” ก็เริ่มปรี๊ดเสียอีก กังวลพวกชื่อเสียงเด่นดัง ในบ้านเลขที่ 111 จะมาแย่งซีน แย่งบทบนหน้าข่าว

คิดแล้วก็ให้อดสูใจ แทนที่จะเอาคนดี คนเก่ง มาช่วยกันบริหาร กลับมาคิดเรื่องภาพลักษณ์หน้าตา ฮ่วย!! แล้วที่ทำๆ อยู่ตอนนี้หน้าตาดีนักเหรอ ใช้ความสวยบริหารเสน่ห์ไปวันๆ เป็นพริตตี้ประเทศไทย ทำงานโหลยโท่ย พูดจาผิดๆ ถูกๆ อยู่ทุกวัน สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนด้อยทางความรู้ แบบไม่ต้องมีใครมาเจียระไนให้ฟัง

งานการบ้านเมืองไม่ค่อยจะเดินหน้า มีแต่งานช่วยเหลือพี่ชาย ที่โดดเด่นเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาล แต่ใครหลายคนส่ายหน้าพร้อมสบถว่า “ทุเรศ”

อย่างไรก็ตาม การประชุม ครม.ครั้งที่ผ่านมามีการนำสมาชิกบ้านเลขที่ 111 บางส่วนนำร่องเข้ามาเป็นข้าราชการการเมือง เช่น สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หลังทำงานเข้าขารู้ใจ แต่อยู่บนความหมั่นไส้ของทีมงานหลายคน อีกคนหนึ่ง ศันสนีย์ นาคพงศ์ มาเป็นโฆษกรัฐบาลหญิง ด้วยสเป็กที่วางไว้ตั้งแต่ต้นว่าอยากได้โฆษกหญิงหนีบคู่กายไปกับนายกฯ

แต่โฟกัสใหญ่ที่ทุกคนจับตามองคือการปรับ ครม.ที่คาดหมายกันว่าจะเกิดขึ้นเดือน 2 เดือนนี้ ล่าสุดก็มีข่าวแพลมออกมาแล้วว่าจะมีการปรับเปลี่ยนในหลายกระทรวงทีเดียว แม้ยิ่งลักษณ์จะตั้งใจปรับเล็กๆ ทำไปทำมามันอาจจะไม่เล็ก หมุนไปหมุนมามันก็หลายเก้าอี้

สำหรับปัจจัยเร่งเร้าที่ดูจะมีผลมากกว่าก็คือพรรคร่วมรัฐบาล ที่หลายพรรคแสดงความจำนงที่จะเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีในโควตาของพรรคตัวเอง เช่นพรรคพลังชลของ สนธยา คุณปลื้ม ที่จะขอมานั่งเก้าอี้แทนเมีย ส่ง สุกุมล กลับบ้านไปเลี้ยงลูก พรรคชาติพัฒนาของสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ทำท่าว่าจะขอมาเป็นรัฐมนตรีควบตำแหน่งรองนายกฯด้วยเลย แต่ต้องไปคุยกับพรรคเพื่อไทยให้สะเด็ดน้ำก่อน

เมื่อพรรคร่วมบีบขอปรับ ยิ่งลักษณ์ก็คงถือโอกาสนี้ปรับเปลี่ยน ครม.ในพรรคเพื่อไทยไปด้วยในตัว ล่าสุดแกนนำหลายสายที่จมูกไวได้กลิ่นก็เริ่มวิ่งเต้นแย่งเก้าอี้ และปกป้องเก้าอี้กันแล้ว ปรับ ครม.ทีก็เหนื่อยกันที โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ปล่อยข่าวแทงหลัง เล่นเกมกันวุ่นวาย แต่พอเรื่องบริหารบ้านเมืองไม่เห็นเชี่ยวชาญเท่าเรื่องนี้

โฟกัสไปที่กระทรวงมหาดไทยจับตาว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงแบบ “ล้างบาง” ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย อาจเหลือเพียงเก้าอี้รองนายกฯ หลังโดนจ้องฟันมานานแล้ว ส.ส.เพื่อไทยหลายคนไม่ชอบต่อการทำหน้าที่ในกระทรวงคลองหลอด ยังติดลูกเกรงใจข้าราชการประจำ ไม่สนใจคำขอร้องของพรรคพวก ส.ส.ฝ่ายการเมือง จึงน่าจะจับโยกออกไป แล้วเอากระทรวงที่เป็นมือเป็นไม้ทางการเมือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองว่าอยู่ในภาวะ “เสียของ” มานาน มาเป็นเครื่องมือประหัตประหารฝ่ายตรงข้ามให้สาแก่ใจ เอามือใต้ดิน กล้าได้กล้าเสียหน่อยมาบริหารน่าจะเวิร์คกว่า

สำหรับรัฐมนตรีช่วยอีก 2 คน ดูโหงวเฮ้งแล้วคงอยู่ไม่ได้ ชูชาติ หาญสวัสดิ์ คงต้องลุกจากเก้าอี้ให้คนอื่นมานั่งแทน ที่คาดหมายว่า จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.พันธุ์เถื่อน มานั่งแทน ยังต้องจับตาอีกหน่อยว่า นายใหญ่จะกล้าประเคนอี้นี้ให้หรือไม่ แต่เมื่อชั่วโมงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณขัดลำกับฝ่ายอำมาตย์แล้วก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกัน ตั้ง “จตุพร” ให้มันรู้แล้วรู้รอด ตอบแทนบุญคุณกันไป ประเทศชาติประชาชนจะเป็นอย่างไรช่างแม่มัน let it be!!

ส่วน ฐานิสร์ เทียนทอง หลานป๋าเหนาะ อาจสลับเปลี่ยน ให้ บอย สรวงศ์ เทียนทอง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมานั่งบ้าง สมบัติผลัดกันชม..

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า มีกระแสข่าวค่อนข้างชัดว่า รมต.ติดยศในรัฐบาลนี้หลายคน อาจมีอันต้องกระเด็นหลุดจากเก้าอี้ พร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย อย่างรายของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ หลังจากกระเด้งกระดอนมาจาก รมว.กลาโหม ครานี้อาจหมดโปรโมชั่น ต้องกลับบ้านไปเลี้ยงหลานตาม พล.อ.โกวิท วัฒนะ ที่จุดประสงค์ตั้งเข้ามาขัดตาทัพด้วยเหตุผลเรื่องความมั่นคงบางอย่าง วันนี้เมื่อไม่จำเป็นแล้วก็เฉดหัวทิ้งไป เก้าอี้รองนายกฯเหมาะกับสมาชิกบ้านเลขที่ 111 หลายคน อย่าง พงศ์เทพ เทพกาญจนา นั่นปะไร มาเป็นรองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ที่รัฐบาลขาดอยู่ ก็เหมาะสมดีแท้

พวกติดยศอีกคนอย่างพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม อาจต้องย้ายก้นออกจากกระทรวงหูกวาง หลังนั่งอยู่นานในกระทรวงคมนาคม เช่นเดียวกับ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงที่จำต้องหลีกทางให้กับขาใหญ่ในบ้านเลขที่ 111 ที่กำลังจะกลับมา “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล จ้องเก้าอี้ใหญ่ตัวนี้เป็นฐานสร้างปัจจัย นายใหญ่เองคงไม่กล้าขัด เพราะที่ผ่านมาเป็นกระเป๋าเงินชั้นดีให้ ส.ส.กลุ่มใหญ่

อย่างไรก็ตาม เก้าอี้ของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต น่าจะยังอยู่ เข้าไปทำงานในกระทรวงกลาโหมร่วมกับกองทัพได้ไม่เคอะเขิน ไปวัดไปวาได้ ครั้นเหลือบมองไปก็หาคนมานั่งตำแหน่งนี้ยากเต็มทน อีกรายที่น่าจะยังอยู่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผลงานก็ถือว่าก็ไม่มีอะไรโดดเด่น น่าจะให้อยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไป

“สารวัตรเหลิม” เมื่อมีตำแหน่งก็จะออกลีลา แอ็กอาร์ตตีฝีปากล่อกับฝ่ายค้านอย่างได้น้ำได้เนื้อ แต่ครั้นพอไม่มีตำแหน่ง ก็จะมาเปิดศึกภายใน คล้ายกับสมัยขัดขากับ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทำตัวปั่วป่วนภายในพรรคเสียเอง ฉะนั้นอยู่อย่างนี้ไปก็เอวังด้วยดี

กระนั้นการปรับ ครม.ครั้งต่อไปจะหวังผลเลิศ ต่อประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นคงยากเต็มทน ไม่พ้นรูปแบบสมบัติผลัดกันชม และเงื่อนไขการเมืองที่ทำให้ประเทศเดินหน้าลำบาก คนไทยก็ยังต้องติดหล่มจมปลักกับความด้อยพัฒนากันต่อไปกับนักการเมืองพรรค์นี้...เฮ้อ
 สนธยา คุณปลื้ม
กำลังโหลดความคิดเห็น