“สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ซัด ปชป.ค้าน พ.ร.บ.ปรองดอง รุนแรงเกินเหตุ อ้างการเสนอกฎหมายเป็นไปตามระบบแม้จะเร่งรีบ รับ “นช.แม้ว” ได้ประโยชน์ แต่คนอื่นก็ได้ด้วย ชี้พันธมิตรฯ ยกระดับขับไล่รัฐบาลไม่ใช่หนทางในระบอบประชาธิปไตย “นายกฯปู” ไม่ได้เป็นผู้เสนอกฎหมาย
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนประชุมสภา พิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ว่า คิดว่าการเสนอกฎหมายต่างๆ มีระบบระเบียบและกฎเกณฑ์บังคับอยู่ การที่ ส.ส. 20 คนขึ้นไปเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติเป็นเรื่องที่ทำได้ และเป็นเรื่องธรรมดาที่คนไม่เห็นด้วยจะคัดค้าน แต่การคัดค้านที่เกิดขึ้นรู้สึกว่าไม่เป็นไปตามระบบ ในสภาก็ค่อนข้างไม่เคารพกฎเกณฑ์ของรัฐสภา อย่างนี้ทำให้สายตาของประชาชนมองด้วยความไม่สบายใจ เป็นการทำลายเกียรติศักดิ์และความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันนิติบัญญัติ จึงอยากจะเรียกร้องให้ส.ส.ทุกคนได้เคารพกฎหมาย เพราะท่านเป็นผู้ออกกฎหมายเพื่อให้คนอื่นเคารพนับถือกฎหมาย แต่ถ้าท่านเองไม่เคารพกฎหมายแล้วมันจะเป็นการทำลายศรัทธาประชาชนต่อตัวท่าน
นายสมชาย กล่าวว่าเหตุการณ์วุ่นวายในสภา ฝ่ายค้านทำเกินไป เพราะปกติมีอะไรก็พูดกับประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ คัดค้านกันได้ มีข้อบังคับของสภาทำได้อยู่แล้ว แต่การที่ขึ้นไปกระชากและเอาหนังสือขว้างใส่ตนไม่คิดว่าใครจะมองว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้อง
ส่วนที่ฝ่ายค้านไประดมคนออกมามชุมนุมนั้น นายสมชาย กล่าวว่า การไประดมคนนั้น หากมาแล้วทำอะไรที่อยู่ในกรอบกฎเกณฑ์กติกาของกฎหมายก็ไม่เป็นไร แต่ที่เราเห็นก็คือ มาแล้วก็ทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกติกา ไปปิดไม่ให้คนเข้าสภา ถือว่าไม่เป็นการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากประชาธิปไตยมีระบบนิติบัญญัติเป็นหลักอันหนึ่ง มีตัวแทนของประชาชนเข้ามาอยู่ในนั้น ซึ่งตนเองก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถือเป็นการสกัดกั้นการทำงานของผู้แทนชาวไทย ไม่มีใครที่จะมาชอบใจในการทำให้ตัวแทนของเขาไม่มีโอกาสทำงานสนองความต้องการของประชาชน เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลถูกมองว่าเร่งรัดในการออก พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติมากเกินไป นายสมชาย กล่าวว่า เร่งรีบหรือไม่เร่งรีบต้องไปว่ากันตามระบบ ตนอยากให้ทุกคนเคารพกฎหมาย เพราะรีบหรือไม่รีบอยู่ที่ว่า ความคิดของคนที่เขาเสนอ แต่หากประชาชนไม่เห็นด้วย ส.ส.ไม่เห็นด้วย หรือหากพูดว่ารัฐบาลมีเสียงข้างมาก กฎหมายดังกล่าวก็ขึ้นไปถึงวุฒิสภาอยู่ดี ซึ่งวุฒิสภาไม่มีพรรค ไม่ได้อยู่ในคอนโทรลของพรรคไหน วุฒิสภาเองก็ใช้วิจารณญาณระงับยับยั้งกฎหมายได้ มีขั้นมีตอนอยู่ ฉะนั้นทำอะไรอยากให้มีขั้นตอน ไม่อยากให้ทำตามอำเภอใจหรือใช้กฎหมู่ คิดว่าเราเดินทางมาไกลถึงขนาดนี้แล้ว จะย้อนกลับไปสมัยยุคหินได้อย่างไร
ต่อข้อถามว่า ฝ่ายค้านให้เหตุผลว่าพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติออกเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย ตอบว่า การให้เหตุผลมันให้กันได้ทั้งนั้น แต่หากอ่านในรายละเอียดแล้วพ.ต.ท.ทักษิณได้คนเดียวหรือไม่ ในเนื้อหาของกฎหมายไม่ได้กล่าวไว้ว่าทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ถามว่าท่านมีโอกาสจะได้หรือไม่ก็จะได้ แต่ถามว่าได้คนเดียวหรือไม่ก็ไม่น่าจะใช่
ส่วนที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะยกระดับการชุมนุม มาขับไล่รัฐบาล คิดว่าจะเกิดความรุนแรงเหมือนสมัยท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายสมชาย เงียบครู่หนึ่งก่อนตอบว่า ไม่อยากจะไปพูดถึงตรงนั้น ซึ่งการขับไล่รัฐบาลถ้าทำไม่ดีประชาชนจะขับไล่เอง ประชาชนไม่เลือกทุกอย่างก็จบ แต่ถ้าจะขับไล่กันโดยวิธีการที่นอกลู่นอกลอยมันก็ไม่ถูก ไม่สร้างสรรค์สำหรับสังคมและการพัฒนาประเทศไทย ตนไม่ได้ว่าใครทั้งนั้น แต่อยากให้ทุกคนทำอะไรที่ถูกต้องตามระบบระเบียบ อย่าทำอะไรนอกกฎหมาย อย่าให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย เพราะเราผ่านยุคนั้นมาแล้ว ไม่อยากจะให้กลับไปอีก และหากท่านคิดว่าการกระทำอย่างนั้นมันถูกต้องก็คงต้องไปทบทวน
ต่อข้อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีลักษณะคล้ายๆสมัยท่านดำรงตำแหน่งนายกฯ จะให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อย่างไร น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า นายกฯไม่ได้ทำอะไร วันนี้ กฎหมายก็ไม่ได้เสนอ ความเห็นเรื่องคัดค้านหรือสนับสนุนใครก็ไม่ได้ทำ ฉะนั้นไม่น่าจะมาเกี่ยวกับนายกฯ นายกฯเองไม่ได้เป็นคนเสนอกฎหมาย ตัวท่านพูดชัดแล้วว่า เป็นสิทธิ์ของ ส.ส. ไม่ได้เสนอในนามพรรคเพื่อไทย เรื่องนี้จะให้สภาเป็นผู้ตัดสิน
อย่างไรก็ตาม ตนได้ให้กำลังใจนายกฯอยู่ เพราะทำงานหนัก เป็นคนที่เสียสละต่อประชาชนอย่างแท้จริง ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จึงอยากให้ทำงานต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากนายกฯ ดังนั้น ไม่ควรจะมีผลไปกระทบกับนายกฯ เพราะท่านไม่ได้ทำอะไรผิด ยังทำงานด้วยความปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ในวันนี้ ควรจะเดินหน้าออกร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ หรือ ทำการสานเสวนาให้เสร็จสิ้นก่อน อดีตนายกฯ กล่าวว่า เท่าที่ทราบ ครม.เองได้สั่งให้มีการจัดสานเสวนาอยู่แล้ว กำลังอยู่ในขั้นดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเลื่อนพิจารณากฎหมายดังกล่าวออกไปแล้ว ต่อไปจะมากล่าวหาว่ารีบไม่ได้แล้ว ส่วนจะเลื่อนไปเท่าใดก็อยู่ที่ประธานสภา
ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มีการปลุกระดมคนเสื้อแดงออกมา กังวลว่าจะมีการปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า จะเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงแสดงความคิดเห็นกันได้ ชุมนุมได้ แต่อย่าไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เช่น กีดขวางการจราจร ทำลายข้าวของคนอื่น อย่าทำ อย่ามาปะทะกันมันไม่เป็นผลดีกับใครทั้งนั้น ขอให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมาย อย่าให้ชาวบ้านเดือดร้อน อย่าละเมิดสิทธิ เขาจะเข้าสภาก็อย่าไปยุ่งกับเขา
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงนายกฯหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ ส่วนเรื่องตำแหน่งนายกฯก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะท่านมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถ้าท่านออกไปก็ต้องโดยประชาชน จะเข้ามาก็ต้องโดยประชาชน ไม่ควรจะเป็นเพราะเหตุที่อยู่นอกเหนือกฎหมาย เรื่องนี้จะไม่สามารถบีบคั้นนายกฯได้ นอกจากนี้ เสถียรภาพของส.ส.ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลมี 300 คนตนคิดว่าโอเค
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรที่จะทำให้เสถียรภาพรัฐบาลอ่อนลงหรือไม่ อดีตนายกฯมองว่า ไม่มี อยู่ที่รัฐบาลต้องทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.ระบุว่ากลุ่มพันธมิตรฯต้องการปลุกระดมให้เกิดการปฏิวัติ เชื่อว่าจะเกินในยุคนี้หรือไม่ อดีตนายกฯ กล่าวว่า ตนมองแต่เรื่องประชาธิปไตย เรื่องนี้ไม่มีความรู้
ส่วนกรณีที่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย หรือ บ้านเลขที่ 111 ปลดล็อกออกมาจะทำให้รัฐบาลเข้มแข็งหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า รัฐบาลเข้มแข็งอยู่แล้ว ส่วนการปรับ ครม.ก็เป็นไปตามวาระแล้วแต่นายกฯ จริงๆ ตอนนี้รัฐบาลก็ไม่ได้อ่อนแออะไร ถ้าทำงานไม่ดีหรือมีปัญหานายกฯจะพิจารณาเป็นไปตามตามวาระ ตนไม่คิดว่าจะมีอะไรเป็นพิเศษ