xs
xsm
sm
md
lg

ความฝันของ “เหลิม บางบอน” ควง “คางคกตู่” กลับมานั่ง มท.1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฉลิม อยู่บำรุง
รายงานการเมือง

กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรียามนี้ถูกพูดถึงกันมาก คงเพราะเป็นช่วงที่ข่าวการเมืองค่อนข้างนิ่ง ไม่มีอะไรหวือหวา ทั้งการเมืองในรัฐสภาและนอกรัฐสภา

เรื่องการประชุมรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็วนเวียนซ้ำซาก ประชุมกันมา10กว่าวัน ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์-วิทยุ ก็ทำเอาประชาชนที่ขนาดว่าสนใจติดตามการเมืองเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยังเบื่อหน่าย ยิ่งมาเห็นการทำงานของ ส.ส.ไร้คุณภาพ ทำให้สภาฯ เสียหายอย่าง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ เพื่อไทย คนเลยยิ่งเบื่อหน่าย การเมืองเลยไม่มีอะไรเคลื่อนไหว

ขณะเดียวกัน เป็นช่วงที่ กลุ่ม 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย (ทรท.)จะพ้นโทษถูกตัดสิทธิการเมืองห้าปีในคดียุบพรรคไทยรักไทยในวันที่ 30 พ.ค.นี้แล้ว และหลายคนเป็นแกนนำพรรคเพื่อไทยอยู่ก่อนแล้ว อีกทั้งมีดีกรีเป็นอดีตรมต.หลายสมัย-ทำงานใกล้ชิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและเพื่อไทยมาตลอด

บางคนก็เป็นนายทุน-หัวหน้ากลุ่มในพรรค พอกำลังจะพ้นโทษแบนคดียุบพรรคมาจังหวะนี้ ก็เลยเข้าล็อกพอดีกับเรื่องปรับ ครม.

และเหตุอีกประการก็เป็นเพราะครม.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร “ปู 2” จะทำงานครบ 5 เดือน ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน หรือ 6 เดือนในช่วงกรกฎาคม เมื่อดูจากตอนปรับ ครม.ยิ่งลักษณ์ 1 มาเป็นยิ่งลักษณ์ 2 ก็อยู่ในช่วงจังหวะประมาณนี้คือ 5 เดือน ผนวกกับสไตล์การทำงานของทักษิณสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี มักจะปรับ ครม.อย่างน้อยปีละเฉลี่ย 2-3 ครั้ง

ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จึงทำให้มีการกระพือเรื่องปรับ ครม.ในช่วงนี้

จะว่าไปแล้วก็เข้าทางรัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่แล้ว หากสื่อและสังคมมัวแต่ไปจดจ้องกับเรื่องการเมืองเป็นสำคัญ จนปัญหาสำคัญของประเทศหลายอย่างโดยเฉพาะเรื่องปัญหาสินค้าราคาแพง ค่าครองชีพประชาชนสูงขึ้นจนเดือดร้อนกันไปทั่ว ไม่ได้รับการนำเสนอข่าวหรือถูกตรวจสอบจากสื่อ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็เบาหน่อย ชิ่งหนีได้ว่า เรื่องของแพง

“ประชาชนคิดไปเอง”!

อย่างไรก็ตาม จับทิศทางแล้ว เชื่อว่าเรื่องปรับ ครม.เกิดขึ้นแน่นอน แต่น่าจะประมาณ กรกฎาคม เว้นแต่มีเหตุแทรกซ้อนจริงๆ

เป็นต้นว่า แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่จะพ้นโทษแบนคดียุบพรรคไทยรักไทย อย่าง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ จากชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน หรือสนธยา คุณปลื้ม จากพลังชล ทนรอไม่ไหว อยากกลับมาเล่นการเมืองเป็นรัฐมนตรีเต็มที่ แล้วขอให้เร่งปรับครม.ก่อนโดยเร็วหลัง 30 พ.ค. เพราะถือเป็นโควต้าของพรรคตัวเองคือ กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงวัฒนธรรมตามลำดับ ไม่เกี่ยวกับเพื่อไทย ก็อาจมีผลทำให้การปรับ ครม.อาจเกิดเร็วขึ้น

ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยถูกจับจ้องอย่างมากในรอบนี้ เพราะเป็นกระทรวงใหญ่ที่การปรับ ครม.รอบที่แล้ว ไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ เลย ขณะที่กระทรวงใหญ่ๆ โดนหมด ท่ามกลางเสียงไม่พอใจของคนในเพื่อไทยหลายคน

เว้นแต่มีการเด้งอารี ไกรนราอดีตหัวหน้าการ์ด นปช.จากเก้าอี้ เลขานุการ รมว.มหาดไทย โดนลดชั้นไปเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) เพื่อเปิดทางให้คนผมขาวสารพัดพิษอย่าง ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์อดีตเลขานุการส่วนตัวทักษิณ ได้มาเป็นเลขานุการ มท.1 แทน

แต่รอบนี้ มหาดไทยไม่น่าจะรอด มีปรับเปลี่ยนแน่นอน จนลือกันไปทั่วรัฐมนตรีบางคนในมหาดไทยบอกทำใจไว้ล่วงหน้าแล้ว

สำหรับรายของ ฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย หลาน เสนาะ เทียนทอง ข่าวว่ารอบนี้ไม่น่าจะรอด แต่ปัญหาสำคัญที่จะตามมาคือ ถ้าปรับฐานิสร์ออกแล้วจะคงโควตารัฐมนตรีหนึ่งตำแหน่งไว้ให้กับกลุ่มเทียนทองเหมือนเดิมหรือไม่

ปรับฐานิสร์ออกจาก รมช.มหาดไทย เฒ่าเหนาะคงไม่เคือง หากปรับแล้วยังให้โควตาเสนาะอยู่ แต่หากปรับแล้วปรับเลย โควตาไม่เหลือให้ โดนยึดคืนหมด ถ้าทักษิณทำแบบนี้ป๋าเหนาะ ที่ยกคณะเทียนทองทั้งครอบครัว คือตัวเอง-อุไรวรรณ-สรวงศ์ ส.ส.สระแก้ว บุตรชาย และฐานิสร์ นั่งรถจากสระแก้ว ข้ามชายแดนไปรดน้ำขอพรจากทักษิณ ชินวัตร ที่เสียมเรียบเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาคงไม่พอใจแน่นอน

กระนั่นปัญหาการเมืองในมหาดไทยพบว่า ขนาดยังไม่ปรับ ครม.ก็เริ่มคุกรุ่นขึ้นแล้ว เมื่อมีข่าวเล็ดลอดมาจากริมคลองหลอดว่า เกิดอาการเกาเหลากันขึ้น

ระหว่าง “กลุ่มฉายแสง” ของจาตุรนต์ ฉายแสง กับ “ก๊วนบ้านริมคลอง” ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี

เหตุแห่งการงัดข้อกันดังกล่าวก็คือ หลังที่ตระกูลฉายแสงสอบตกหมดที่ จ.ฉะเชิงเทรา ฝ่ายพี่ใหญ่คือ จาตุรนต์ ก็ดันน้องสาว ฐิติมา ฉายแสง ให้ไปเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ก็ดันทำผลงานไม่เข้าตา เลยโดนปลดเหลือแค่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ส่วนน้องชาย วุฒิพงษ์ ฉายแสง อดีต รมว.วิทยาศาสตร์ฯ สมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ก็ใช้กำลังภายในดันจนไปมีตำแหน่งเป็น ประธานคณะทำงานที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย (ยงยุทธ วิชัยดิษฐ)ทั้งที่เคยเป็นถึงรัฐมนตรีมาแล้ว แต่ก็ยอมลดชั้นเอาดีกว่าไม่มีตำแหน่งห้อยท้าย เพราะเห็นว่าเป็นตำแหน่งที่น่าจะมีบทบาทในมหาดไทยได้เหมือนกับที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายนายเนวินเคยเป็นสมัย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็น รมว.มหาดไทย

ทว่า ดันมาเจอของแข็ง เพราะคนในเพื่อไทยจำนวนมากไม่ค่อยชอบ “จาตุรนต์” เมื่อตระกูล ฉายแสงสอบตกหมดที่แปดริ้ว อำนาจต่อรองในพรรคเพื่อไทยก็ไม่มี ก็ยิ่งหนักขึ้นไป

พอพวกตรงข้ามในเพื่อไทย ได้ข่าวก็เลยเปิดปฏิบัติการเลื่อยขาเก้าอี้ พยายามเขี่ย วุฒิพงศ์ ให้พ้นไปจากกระทรวงมหาดไทย ผ่านคนในมหาดไทยหลายคน ตามข่าวบอกว่ามีชื่อ ไพวงษ์ เตชะณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทยรวมอยู่ด้วย โดยอ้างเหตุผลต่างๆ เช่น จะทำให้การบริหารงานซ้ำซ้อน และเป็นตำแหน่งลอยๆ ส่งผลให้ วุฒิพงศ์ ที่ไม่มีใครคอยแบ็คอัพให้ทั้งในมหาดไทยและในพรรคเพื่อไทย จึงต้องลาออกจากตำแหน่งไปแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ก็เป็นการฝากรอยแค้นไว้อีกเรื่องสำหรับ คู่เกาเหลาในพรรคเพื่อไทย คือ จาตุรนต์กับเฉลิม อยู่บำรุง ลูกพี่ใหญ่ของไพวงษ์ จากเดิมที่จาตุรนต์กับเฉลิม ก็ไม่กินเส้นกันมาตลอด

เชื่อว่ากลุ่มฉายแสงคงมองว่าเรื่องนี้ก๊วนบ้านริมคลอง จับมือกันเขย่าเก้าอี้วุฒิพงษ์แน่นอน

ส่วนที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือ เป้าหมายต่อไปของเฉลิม อยู่บำรุง หวังไว้ที่การกลับมาเป็น มท.1 อีกครั้ง โดยมี น้องตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ เป็น มท.2 คู่บารมี จริงหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้?
จตุพร พรหมพันธุ์
กำลังโหลดความคิดเห็น