ASTVผู้จัดการรายวัน-ลือสะพัด! ซากบ้าน 111 แบ่งก๊ก-แบ่งวัง ก่อนเข้าเพื่อไทยกันแล้ว เผยบางกลุ่มไม่ทำงาน แต่กระสันอยากเป็นรัฐมนตรี "พลังชล”ยันไม่เคยขอสลับเก้าอี้ “วัฒนธรรม-ท่องเที่ยว” ส่วน“ปู”ปัดตอบปรับครม. สิงหานี้ "ยงยุทธ"เผยกาวใจคู่มวย "ฉลอง-ตู่" แล้ว "เทพไท"เย้ยตั้งเป็นรัฐมนตรี ก็ไม่ทำให้เสียงในภาคใต้สะเทือน
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของพรรคเพื่อไทยหลังจากที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะพ้นโทษการถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ในวันที่ 30 พ.ค.2555นี้ และจะสร้างความร้าวลึกให้กับพรรคอย่างมาก
โดยเฉพาะความไม่เป็นเอกภาพขึ้นภายในกลุ่มสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ด้วยกันเอง ทำให้ภายในกลุ่มสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มไปโดยปริยาย คือ 1.กลุ่มที่เข้าร่วมประชุมคณะทำงานชุดต่างๆ และการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายภูมิธรรม เวชยชัย และว่าที่ร.ท.นพ.วัลลภ ยังตรง เป็นต้น 2.กลุ่มที่กลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้ไม่นาน อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นต้น และ 3.กลุ่มที่ไม่เคยมาร่วมประชุมกับพรรคเพื่อไทยเลยจนกระทั่งใกล้พ้นโทษแบนจึงออกมาเคลื่อนไหว อาทิ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี นายโภคิน พลกุล และนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล เป็นต้น
**พลังชลยันไม่เคยขอสลับเก้าอี้
นายสนธยา คุณปลื้ม สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และแกนนำพรรคพลังชล กล่าวยืนยันว่า พรรคพลังชลจะไม่ยุบรวมกับพรรคเพื่อไทย แต่ยินดีร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ส่วนการนัดรวมตัวสมาชิกบ้านเลขที่111 ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ยังไม่ได้รับการประสาน
และไม่มีแผนที่จะเดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศจีน เพราะยังไม่มีใครชักชวน พร้อมปฏิเสธข่าวพรรคพลังชลจะขอสลับเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยยืนยันว่า ยังไม่มีสัญญาณใดๆ อีกทั้งยังไม่มีการยืนยันจากสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ว่าจะเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังชล แต่ยอมรับว่ามีการพูดคุยหารือกันมาโดยตลอด
**ปูปัดตอบปรับ ครม. สิงหานี้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางมายังอาคารัฐสภา ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนส.ค. บอกเพียงว่า ขอแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงให้ประชาชนก่อน
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนคาดว่าไม่น่าจะมีการปรับครม. ในเร็วๆ นี้ เพราะนายกฯ ต้องการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองก่อนปัญหาการเมือง ต้องเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนก่อนที่จะมาพิจารณาว่าจะปรับครม. เมื่อใด ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้บริหารมืออาชีพของนายกฯ ที่เห็นถึงความสำคัญของประชาชนมาก่อนนักการเมือง
**"ยงยุทธ"เป็นกาวใจ“ตู่-ฉลอง”
ที่รัฐสภา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความขัดแย้งของ 2 ส.ส. ภายในพรรคเพื่อไทย ระหว่างนายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า ขณะนี้ ตนได้เป็นกาวใจปิดจนสนิทแล้ว คงไม่ต้องบอกรายละเอียดว่าคุยกันอย่างไร เอาเป็นว่าต่อจากนี้จะไม่มีการพูดเรื่องนี้อีก และตนในฐานะพี่ๆ ของน้องทุกคนในพรรคเพื่อไทยที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ก็พอรู้อยู่ว่าในพรรคเพื่อไทยมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมาตลอด แต่ความเห็นแตกแยกไม่มี เพราะผลสุดท้ายเมื่อพูดจา คุยกัน ก็เข้าใจกันได้ ซึ่งตนก็ทำหน้าที่สำเร็จแล้ว
เมื่อถามว่า หากนายจตุพร ได้นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอีก นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนได้พูดไปแล้ว การที่นายกฯ แต่งตั้ง ก็เพื่อประโยชน์ของประชาชน
เมื่อถามว่า ขณะนี้นายฉลอง ยังถูกท้าทายจากกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่มีหรอก และได้เรียนให้นายกฯ ทราบไปแล้วถึงการประสานความเข้าใจอันดีของทั้ง 2 คน คงไม่มีการคาดโทษแต่อย่างใด
**“อุดมเดช”บอกเจอจะถามให้ชัด
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทุกคนมีความหวังดีกับพรรค แต่อาจจะมองคนละกรณี อย่าเพิ่งไปอะไรมาก และยังไม่ได้คุยกับนายฉลองเลย แต่หากเจอก็จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเห็นจากข่าวแล้วไม่สบายใจ ที่ผ่านมา มีโอกาสคุยกับนายจตุพรอยู่บ้าง ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็มีความอดทนอยู่ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นมีการวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่เป็นวันหยุด พอพูดเสร็จก็หยุดไป ส่วนกรณีที่จ.นนทบุรี มี ส.ส. 7 คน แต่ไม่มีใครได้เป็นรัฐมนตรีเลย ไม่ควรพูดเช่นนั้น ควรขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ ถ้าหากคิดตามโควตา ส.ส. กับตำแหน่งรัฐมนตรี 35 คน คงไม่พอที่จะให้ไปทำหน้าที่
**“เทพไท”เย้ย “ตู่”แค่สะตอนอกฝัก
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งในการปรับครม.ในพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องภายในพรรคที่จะต้องจัดสรรประโยชน์ให้ลงตัวในหมู่สมาชิก ไม่ควรที่จะมาพาดพิงถึงพรรคฝ่ายค้าน โดยกล่าวอ้างว่าการปรับครม. โดยให้นายจตุพร พรหมพันธ์ ดำรงตำแหน่งรมช.มหาดไทย ทำให้พรรคประชาธิปัตย์หวาดกลัวที่จะเสียฐานคะแนนเสียงในภาคใต้ ถือเป็นการสำคัญผิดของพรรคเพื่อไทยว่านายจตุพรจะเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง สามารถเปลี่ยนแปลงแนวความคิดของคนภาคใต้ได้ ซึ่งในข้อเท็จจริงแม้ว่านายจตุพรจะเป็นคนภาคใต้ แต่เป็นคนภาคใต้ที่คนเขาไม่ยอมรับ เพราะเขารู้พฤติกรรม
"ต่อให้พรรคเพื่อไทยแต่งตั้งแกนนำ นปช. ที่เป็นคนใต้ ไม่ว่าจะเป็นนายก่อแก้ว พิกุลทอง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย รวมถึงนายเจ๋ง ดอกจิก ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีครบทุกคน ก็ไม่กระทบกระเทือนต่อฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยแอบอ้างคนภาคใต้มาเป็นเหตุผลเพื่อที่จะให้คนใต้บางคนที่คนใต้ไม่ยอมรับเป็นบันไดไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งรัฐมนตรี"นายเทพไทกล่าว
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของพรรคเพื่อไทยหลังจากที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จะพ้นโทษการถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ในวันที่ 30 พ.ค.2555นี้ และจะสร้างความร้าวลึกให้กับพรรคอย่างมาก
โดยเฉพาะความไม่เป็นเอกภาพขึ้นภายในกลุ่มสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ด้วยกันเอง ทำให้ภายในกลุ่มสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มไปโดยปริยาย คือ 1.กลุ่มที่เข้าร่วมประชุมคณะทำงานชุดต่างๆ และการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายภูมิธรรม เวชยชัย และว่าที่ร.ท.นพ.วัลลภ ยังตรง เป็นต้น 2.กลุ่มที่กลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยได้ไม่นาน อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นต้น และ 3.กลุ่มที่ไม่เคยมาร่วมประชุมกับพรรคเพื่อไทยเลยจนกระทั่งใกล้พ้นโทษแบนจึงออกมาเคลื่อนไหว อาทิ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี นายโภคิน พลกุล และนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล เป็นต้น
**พลังชลยันไม่เคยขอสลับเก้าอี้
นายสนธยา คุณปลื้ม สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และแกนนำพรรคพลังชล กล่าวยืนยันว่า พรรคพลังชลจะไม่ยุบรวมกับพรรคเพื่อไทย แต่ยินดีร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ส่วนการนัดรวมตัวสมาชิกบ้านเลขที่111 ในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ยังไม่ได้รับการประสาน
และไม่มีแผนที่จะเดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศจีน เพราะยังไม่มีใครชักชวน พร้อมปฏิเสธข่าวพรรคพลังชลจะขอสลับเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยยืนยันว่า ยังไม่มีสัญญาณใดๆ อีกทั้งยังไม่มีการยืนยันจากสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ว่าจะเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังชล แต่ยอมรับว่ามีการพูดคุยหารือกันมาโดยตลอด
**ปูปัดตอบปรับ ครม. สิงหานี้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางมายังอาคารัฐสภา ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนส.ค. บอกเพียงว่า ขอแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงให้ประชาชนก่อน
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนคาดว่าไม่น่าจะมีการปรับครม. ในเร็วๆ นี้ เพราะนายกฯ ต้องการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองก่อนปัญหาการเมือง ต้องเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนก่อนที่จะมาพิจารณาว่าจะปรับครม. เมื่อใด ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้บริหารมืออาชีพของนายกฯ ที่เห็นถึงความสำคัญของประชาชนมาก่อนนักการเมือง
**"ยงยุทธ"เป็นกาวใจ“ตู่-ฉลอง”
ที่รัฐสภา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความขัดแย้งของ 2 ส.ส. ภายในพรรคเพื่อไทย ระหว่างนายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า ขณะนี้ ตนได้เป็นกาวใจปิดจนสนิทแล้ว คงไม่ต้องบอกรายละเอียดว่าคุยกันอย่างไร เอาเป็นว่าต่อจากนี้จะไม่มีการพูดเรื่องนี้อีก และตนในฐานะพี่ๆ ของน้องทุกคนในพรรคเพื่อไทยที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ก็พอรู้อยู่ว่าในพรรคเพื่อไทยมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมาตลอด แต่ความเห็นแตกแยกไม่มี เพราะผลสุดท้ายเมื่อพูดจา คุยกัน ก็เข้าใจกันได้ ซึ่งตนก็ทำหน้าที่สำเร็จแล้ว
เมื่อถามว่า หากนายจตุพร ได้นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอีก นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนได้พูดไปแล้ว การที่นายกฯ แต่งตั้ง ก็เพื่อประโยชน์ของประชาชน
เมื่อถามว่า ขณะนี้นายฉลอง ยังถูกท้าทายจากกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่มีหรอก และได้เรียนให้นายกฯ ทราบไปแล้วถึงการประสานความเข้าใจอันดีของทั้ง 2 คน คงไม่มีการคาดโทษแต่อย่างใด
**“อุดมเดช”บอกเจอจะถามให้ชัด
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทุกคนมีความหวังดีกับพรรค แต่อาจจะมองคนละกรณี อย่าเพิ่งไปอะไรมาก และยังไม่ได้คุยกับนายฉลองเลย แต่หากเจอก็จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเห็นจากข่าวแล้วไม่สบายใจ ที่ผ่านมา มีโอกาสคุยกับนายจตุพรอยู่บ้าง ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็มีความอดทนอยู่ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นมีการวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่เป็นวันหยุด พอพูดเสร็จก็หยุดไป ส่วนกรณีที่จ.นนทบุรี มี ส.ส. 7 คน แต่ไม่มีใครได้เป็นรัฐมนตรีเลย ไม่ควรพูดเช่นนั้น ควรขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ ถ้าหากคิดตามโควตา ส.ส. กับตำแหน่งรัฐมนตรี 35 คน คงไม่พอที่จะให้ไปทำหน้าที่
**“เทพไท”เย้ย “ตู่”แค่สะตอนอกฝัก
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งในการปรับครม.ในพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องภายในพรรคที่จะต้องจัดสรรประโยชน์ให้ลงตัวในหมู่สมาชิก ไม่ควรที่จะมาพาดพิงถึงพรรคฝ่ายค้าน โดยกล่าวอ้างว่าการปรับครม. โดยให้นายจตุพร พรหมพันธ์ ดำรงตำแหน่งรมช.มหาดไทย ทำให้พรรคประชาธิปัตย์หวาดกลัวที่จะเสียฐานคะแนนเสียงในภาคใต้ ถือเป็นการสำคัญผิดของพรรคเพื่อไทยว่านายจตุพรจะเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง สามารถเปลี่ยนแปลงแนวความคิดของคนภาคใต้ได้ ซึ่งในข้อเท็จจริงแม้ว่านายจตุพรจะเป็นคนภาคใต้ แต่เป็นคนภาคใต้ที่คนเขาไม่ยอมรับ เพราะเขารู้พฤติกรรม
"ต่อให้พรรคเพื่อไทยแต่งตั้งแกนนำ นปช. ที่เป็นคนใต้ ไม่ว่าจะเป็นนายก่อแก้ว พิกุลทอง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย รวมถึงนายเจ๋ง ดอกจิก ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีครบทุกคน ก็ไม่กระทบกระเทือนต่อฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยแอบอ้างคนภาคใต้มาเป็นเหตุผลเพื่อที่จะให้คนใต้บางคนที่คนใต้ไม่ยอมรับเป็นบันไดไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งรัฐมนตรี"นายเทพไทกล่าว