“ยงยุทธ” หนุนฝ่ายกฎหมาย พท.แจ้งความเอาผิด ปชป.ติดป้ายโจมตี พ.ร.บ.ปรองดอง อ้างเด้ง 2 ผู้กำกับตำรวจไม่เกี่ยวกับป้าย ส่วนการแก้ไข รธน.-พ.ร.บ.ปรองดองเป็นเรื่องของสภา ระบุก๊กแดงชุมนุมค้านคำสั่งศาล รธน.เป็นสิทธิเสรีภาพ สำหรับการปรับ ครม.ยังไม่มีสัญญาณ
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การฟ้องร้องดำเนินคดีกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ติดป้ายโจมตี ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ว่าเป็นกฎหมายขายชาติและหมิ่นสถาบันว่า ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคเขาทำกันอยู่แล้ว พรรคมีเจ้าหน้าที่และมีคนคอยสอดส่องเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว อย่าได้กังวลอะไรที่ไม่ถูกก็มีการดำเนินการไป
“การขึ้นป้ายโจมตีไปทั่วเดี๋ยวสังคมและประชาชนก็เห็นเอง ส่วนรัฐบาลไม่ได้มองเป็นความเสียหายอะไร รัฐบาลก็ทำงานของรัฐบาลไป ส่วนของพรรคก็แยกกันทำงานไป การติดป้ายในพื้นที่ กทม. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.ก็ได้ดำเนินการร้องให้ กทม.รื้อป้ายออก ส่วนที่มีคำสั่งเด้ง ผกก.สน.สำราญราษฎร์ และผกก.สน.ธรรมศาลา คงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องป้ายดังกล่าว คงจะมีเหตุผลของทางผู้บังคับบัญชา”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะยิ่งเติมเชื้อไฟขัดแย้งให้มากขึ้นหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า บ้านเมืองที่เป็นประชาธิปไตยการแสดงออกของความเห็นที่ไม่ตรงกันเป็นธรรมดา ไม่ได้แปลกประหลาดพิสดารอะไร แต่ก็ต้องมีกฎเกณฑ์และกฎหมายของบ้านเมืองเป็นบรรทัดฐานอยู่ ใครทำผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ต้องถูกดำเนินการไป จะเอาความเห็นถูกใจมาเป็นเครื่องพิจารณาไม่ได้ ต้องเอาเรื่องความถูกต้อง ตามที่กฎหมายกำหนดไว้
ทั้งนี้ ใน ครม.ไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับเรื่องร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะงานของ ครม.เป็นเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนงานในสภาฯ เป็นงานของฝ่ายนิติบัญญัติคนละส่วนกัน และในพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้คุยกันเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง เพราะเรื่องอยู่ในสภาฯแล้ว เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดอยู่ในสภาฯ และพรรคเองก็ไม่ได้เป็นคนเสนอ แต่เสนอโดย ส.ส.ของพรรคและพรรคไม่ได้ขัดข้อง ซึ่งจะเลื่อนไปพิจารณาเมื่อไหร่อย่างไรหรือไม่ ให้ฟังจากประธานสภาฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประธานสภาจะเรียกประชุมวันที่ 8 มิ.ย.และในวันที่ 13-14 มิ.ย. มวลชนคนเสื้อแดงเองก็เตรียมจะมาปิดล้อมรัฐสภาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ ส.ส. กังวลจะเกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธปไตยหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า เสรีภาพของประชาชนในแผ่นดินที่เป็นประชาธิปไตยต้องมี ประเด็นอยู่ที่ว่ามีใครทำผิดกฎหมายหรือเปล่า ไม่ได้อยู่ที่ใครจะมาเดินขบวน เจ้าหน้าที่ต้องคอยดูแล และขอให้คิดในแง่ดีบ้างว่าเจ้าหน้าที่จะดูแลได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีแผนเตรียมรับมือและมีการฝึกซ้อมการดูแลการชุมนุม และคงไม่มีการไปปิดกั้นพื้นที่หน้ารัฐสภา เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ ตราบใดที่ทางราชการยังไม่ห้ามทุกคนก็มีสิทธิที่จะไปจะมา
นายยงยุทธยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ครม.มีมติแต่งตั้งอดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เข้ามาดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองหลายตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี มีการปรึกษาหารือบ้างหรือไม่ว่าในช่วยกลางเดือน มิ.ย.จะมีการปรับ ครม.อีกรอบ นายยงยุทธตอบว่า ไม่มี เอาเท่าที่เป็นข่าวก่อน มีมติ ครม.ออกมาอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น อย่าเพิ่งไปถามล่วงหน้าไปสมมติเหตุการณ์ไม่มีใครตอบได้ เมื่อถามว่า หากมีการปรับ ครม.จริง ในใจท่านรู้สึกหวั่นไหวบ้างหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า หากมีขึ้นจริงๆ ตนจะไปหวั่นไหวอะไร ไม่มีเหตุผลที่จะไปหวั่นไหวหรือไม่ ตนก็ทำงานของไป
