xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจค้าน “ปรองดอง” ฉบับแหกตา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย” เผยต้องการปรองดองแต่ไม่ใช่บิดเบือนความผิดทักษิณ ด้าน “คำรณวิทย์” สนองเป็ดเหลิม เด้ง 2 ผกก.เข้ากรุ ฐานปล่อยป้ายโจมตีของปชป.เกลื่อนพื้นที่ "ยิ่งลักษณ์" ชี้ การผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดองหยุดไม่ได้ โยนให้สภาฯ-วิปรัฐบาล ร่วมกันตัดสินใจ ขณะที่ฝ่ายค้านจี้ถอนร่าง กม.ล้างผิดคนโกงทั้ง 4 ฉบับ เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

วานนี้ (5 มิ.ย.) ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1/2555 ลงวันที่ 1 มิ.ย. ระบุว่า ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย คือกลุ่มนักธุรกิจเอกชนที่มีอุดมการณ์รักชาติ และระบอบประชาธิปไตย มีความเชื่อว่านักธุรกิจ และประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมต้องการความสงบและต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริงในแผ่นดิน

จากความพยายามของสมาชิกสภาผู้แทนฯ พรรครัฐบาล ต้องการผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งตามร่างมีเนื้อหาที่เป็นการใช้อำนาจนิติบัญญัติ เหนืออำนาจตุลาการ มีแนวโน้มที่จะใช้เป็นเครื่องมือบิดเบือนความผิดของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นความผิด และอาจนำไปสู่การจ่ายเงินของชาติให้อดีตนายกฯ ทักษิณหลายหมื่นล้านนั้น ชมรมฯ ขอประกาศจุดยืนแสดงความคิดเห็นดังต่อไปนี้

1. ชมรมฯ สนับสนุนความมุ่งหมายให้เกิดความปรองดองในแผ่นดิน แต่ต้องไม่ให้ใช้เป็นข้ออ้างที่ทำให้ผู้กระทำผิดกฎหมาย และผิดรัฐธรรมนูญ (ตั้งแต่ฉบับปี 2540) อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้พ้นความผิดฐานทุจริต โดยการที่สภาผู้แทนราษฎรจะใช้อำนาจโดยมิชอบ

2. ชมรมฯ ขอให้ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ทบทวนและยับยั้งการกระทำของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ด้วยเป็นกระบวนการที่เข้าข่ายความขัดกันของประโยชน์ เนื่องจากมีประโยชน์ทับซ้อนของครอบครัวชินวัตรกับคดียึดทรัพย์ ในฐานะตัวแทนหุ่นเชิด (นอมินี) ถือหุ้นแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อันเป็นความเสี่ยงต่อความผิดในฐานการใช้อำนาจกระทำการ หรือละเว้นกระทำการโดยมิชอบของนายกรัฐมนตรีได้

3. ชมรมฯ ขอให้สังคมได้มองปัญหานี้ด้วยความปรองดอง และด้วยการปกป้องหลักนิติธรรมบ้านเมือง โดยเปิดโอกาสให้ครอบครัวชินวัตร ได้แสดงข้อมูลหลักฐานที่แสดงความบริสุทธิ์ เพื่อให้พ้นผิด โดยไม่สร้างความขัดแย้งและความวุ่นวายในสังคม เพื่อกลบเกลื่อนและลบล้างความผิดโดยมิชอบ

ชมรมฯ ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกหมู่เหล่าให้แสดงออกตามกรอบและวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อรักษาหลักนิติธรรม และจริยธรรมในสังคม เพื่อความสันติสุขอย่างยั่งยืนตลอดไป

*** เด้ง 2 ผกก.เข้ากรุ

วานนี้ (5 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. มีคำสั่งที่ 0015.112/1783 ลงวันที่ 5 มิ.ย. 55 เรื่อง ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ส่งถึง รอง ผบช.น. ผบก.น.6 และ ผบก.น.7 ระบุว่า ด้วย บช.น.มีเหตุผลความจำเป็นบางประการที่จะสั่งให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการภายในสังกัด บช.น. เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ บช.น.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ จึงให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการและรักษาราชการแทน ดังนี้

1.พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ปฏิบัติราชการ สำนักงาน ผบช.น. 2.มอบหมายให้ พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช รอง ผบก.น.6 รักษาราชการแทน ผกก.สน.สำราญราษฎร์ อีกหน้าที่หนึ่ง 3.พ.ต.อ.สินมนูญ์ พุทธิกุล ผกก.สน.ธรรมศาลา ปฏิบัติราชการ สำนักงาน ผบช.น. 4.มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุรพันธ์ ปัทมะทิน รอง ผบก.น.7 รักษาราชการแทน ผกก.สน.ธรรมศาลา อีกหน้าที่หนึ่ง ทั้งนี้ ให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 2 นาย ปฏิบัติราชการ และรักษาราชการแทน มีกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ บช.น.อนุมัติ เป็นต้นไป

รายงานข่าวแจ้งว่าเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายตำรวจ 2 นายถูกสั่งให้มาช่วยราชการในครั้งนี้ เนื่องจากการปล่อยปละละเลยให้มีป้ายโจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงป้ายคัดค้านการเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ของพรรคประชาธิปัตย์ เกลื่อนพื้นที่

*** “ปู”ดื้อต้องปรองดองต่อ

วานนี้ (5 มิ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองว่า ในส่วนของรัฐบาลคงให้ความร่วมมือกับทุกส่วนที่จะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบ และดูและเรื่องความปลอดภัย แต่เนื้อหาทั้งหมดนี้ก็ต้องอยู่ในส่วนของสภาฯและวิปรัฐบาลที่จะร่วมกันตัดสินใจ เราเองคงจะเป็นฝ่ายกำหนดทั้งหมดไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะเป็นผู้นำประเทศ คิดว่าเรื่องนี้ควรจะชะลอไว้ก่อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อะไรที่จะทำให้บรรยากาศที่จะนำไปสู่ความปรองดอง ต้องกลับมาถามคำถามนี้ มีวิธีไหน อย่างน้อยเราอยากเห็นมีทางออกที่เสนอด้วย คือไม่อยากเห็นแค่ทางที่บอกทำไม่ได้แล้วก็หยุด เพราะเกิดไม่มีทางออก อย่างที่เรียน เราไม่รู้จะเดินหน้าประเทศไปอย่างไร ถ้าถามคือ กลับมาคุย และร่วมหาทางออกด้วยกัน แต่จะหาทางออกวิธีไหนมันคงต้องคุยกัน แต่ไม่ใช่บอกว่า ไม่อยากให้มีเลย ถ้าไม่มีเลยแล้วเราจะทำงานกันอย่างไร เราจะเดินหน้าประเทศได้อย่างไร

** ถ้าเป็นร่างของ"เหลิม"เรียบร้อยไปแล้ว

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสการต่อต้าน ร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ 4 ฉบับ ว่า ถ้าเป็นร่างของตนเอง ก็เรียบร้อยไปแล้ว เพราะร่างของตนไม่เหมือนกับ 4 ฉบับที่เสนอกันอยู่ในขณะนี้ และหากเสนอเมื่อไร ก็เหมาะสมกับเวลา ส่วนร่าง 4 ฉบับนี้จะแท้งหรือไม่ ไม่ขอตอบ ไม่อยากแสดงความเห็น เพราะไม่ใช่ร่างของตน

เมื่อถามอีกว่า ประชาชนตั้งคำถามว่า รัฐบาลมีความจำเป็นแค่ไหน ที่จะเร่งทั้งเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง และแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่งบประมาณก็ผ่านไปแล้ว ก็ควรจะบริหารประเทศไปก่อน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รัฐบาลได้ปราศรัยไว้กับประชาชน ก็ต้องทำ และการทำก็ไม่ใช่ว่าจะเสร็จง่ายๆ มีขั้นตอน ดีกว่าการไปออกพระราชกำหนด อย่างนั้นถึงเรียกว่า เผด็จการ แต่นี่เราออกเป็นพ.ร.บ. ยืนยันว่า รัฐบาลนี้จะไม่มีเรื่องการตาย 198 ศพ

** ย้ายผบช.น.ไม่เกี่ยวกับม็อบ

ผู้สื่อข่าวถามถึง การมีคำสั่งโยกย้าย พล.ต.อ.วินัย ทองสอง พ้นจาก ผบช.น. ให้ ไปช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเวลา 30 วัน และมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.วิชัย สังขประไพ จากรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ไปช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเวลา 30 วัน การโยกย้ายทั้ง 2 คน เกี่ยวข้องกับเรื่องการควบคุมม็อบ หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนคงไปยุ่งเรื่องของเขาไม่ได้ ตนดูแลระดับนโยบาย และเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับการคุมม็อบไม่ดี จนส.ส.เข้าประชุมสภาไม่ได้

**"วิปค้าน"จี้ถอนร่างพ.ร.บ.ล้างผิด 4ฉบับ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเห็นแก่ความปรองดอง และความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง 4 ข้อ คือ

1 . เรียกร้องให้ส.ส.ที่เสนอ ร่าง พ.ร.บ.ล้างผิด ได้ถอนกฎหมายที่เสนอมายังสภาทั้ง 4 ฉบับ โดยให้ถอนออกจากวาระการประชุม

2. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา จะต้องไม่เรียกประชุมสภา ไม่ว่าจะเพื่อให้ลงมติในร่างรัฐธรรมนูญ หรือ พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ล้างผิด ซึ่งก่อนหน้านี้ประธานสภา ได้สั่งงดการประชุมไปทั้งหมดแล้ว

3. ขอเรียกร้องให้นายกฯ และครม. ได้เร่งออกพ.ร.ฎ.ปิดสมัยประชุมโดยเร็วที่สุดโดยปกติจะต้องปิดสมัยประชุมตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา

4 .ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่คุกคามประชาชนในขณะนี้ ทั้งแพงทั้งแผ่นดิน คือสินค้าราคาแพง และ ถูกทั้งแผ่นดิน คือ พืชผลทางการเกษตร ราคาตกต่ำ

** โวยป้ายต้านกม.ล้างผิดคนโกงถูกเก็บ

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ไปร้องให้มีการปลดป้ายต้านกม.ล้างผิดคนโกง ของพรรคประชาธิปัตย์ จนตำรวจนครบาลมาเก็บป้ายดังกล่าว ด้วยเหตุผลว่าจะนำไปสู่ความแตกแยกนั้น อยากถามว่า ใช้อำนาจกฎหมายใดวินิจฉัยว่า ป้ายดังกล่าวนำไปสู่ความแตกแยก เพราะก่อนหน้านี้มีป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงซึ่งทำให้เกิดความแตกแยกติดทั่วประเทศ แต่กลับไม่มีการ ดำเนินการ

ดังนั้นฝ่ายค้านจะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงตัว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นสัญญาณที่รุนแรง

**ปชป.ปัดป้ายต้านล้างผิดไม่เกี่ยวพรรค

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหลังการประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ว่า ที่ประชุมมีการพูดคุยถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ปลดป้ายต้านกฎหมายล้างผิดคนโกง โดยอ้างว่า จะนำไปสู่ความแตกแยกว่า เรื่องนี้มีการสอบถามในพรรคแล้ว ยืนยันว่าป้ายดังกล่าวเป็นการทำขึ้นของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรค ไม่เกี่ยวกับพรรค ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามกฏหมาย หากเห็นว่าผิดพ.ร.บ.ความสะอาด ก็เป็นหน้าที่ของ กทม. ในการจัดเก็บ แต่อยากถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจกฎหมายใด มาวินิจฉัยว่า ป้ายดังกล่าวนำไปสู่ความแตกแยก ทั้งที่มีป้าย หรือสติ๊กเกอร์ติดตามที่ต่างๆ หมิ่นเหม่สถาบันฯ ป้ายหมู่บ้านเสื้อแดง พร้อมข้อความต่างๆ ที่ติดทั่วประเทศ แต่กลับไม่มีการ ดำเนินการแต่อย่างใด

** จี้สอบจริยธรรมส.ส.ป่วนสภา

ด้านนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มส.ว. ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายกุลเดช พัวพัฒนกุล นายอภิชาต สุภาแพ่ง นายพงศ์เวช เวชชาชีวะ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี และน.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม และสร้างความวุ่นวายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน

จึงขอเรียกร้องมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้พิจารณา และสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเป็นพฤติกรรมของ ส.ส.ที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศ ละเมิด และฝ่าฝืนต่อข้อบังคับการประชุมสภา และมาตรฐานทางจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ หรือไม่ และขอให้ตรวจสอบว่า เป็นการกระทำผิดขั้นร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 279 วรรคสาม หรือไม่ หากเป็นการกระทำที่เป็นความผิดขั้นร้ายแรง ขอให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พิจารณาต่อไป

ด้านนายศรีราชา กล่าวว่า เรื่องนี้มีสมาชิกรัฐสภาไปยื่นยังคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบแล้วโดยหลักปฏิบัติหากมีสมาชิกรัฐสภายื่นให้คณะกรรมการจริยธรรม ของสภาฯ ตรวจสอบ ทางผู้ตรวจการฯ ต้องชะลอการดำเนินการ เพื่อรอผลการพิจารณาไว้ก่อน

ดังนั้นในเบื้องต้นก็จะรับเรื่องดังกล่าวไปตรวจสอบควบคู่กันไป หากผลสรุปออกมาไม่ตรงกัน ทางผู้ตรวจการฯ ก็จะเรียกไต่สวนสาธารณะเพิ่มเติม โดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 280 ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น