xs
xsm
sm
md
lg

ศาลปกครองสูงสุด สั่งระงับนายทุนทำถ่านหิน ก่อมลพิษ สมุทรสาคร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศาลปค.สูงสุดยืนตามศาลปค.กลาง คงมาตรการคุ้มครองให้ระงับการประกอบกิจการถ่านหินในจ.สุมทรสาครทุกกรณี เหตุยังพบบริษัทเอกชนละเมิด คำสั่งขนถ่ายถ่านหินแบบไม่ถูกต้อง ก่ออันตรายกับสุขภาพปชช.

วันนี้ ( 11 มิ.ย) ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นที่สั่งให้ระงับการประกอบกิจการถ่านหินทุกกรณี ทั้งการลำเลียง การเก็บกอง การขนถ่าย การขนส่งหรือการดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล หรืออบต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ตามที่นายทองนาค เสวกจินดา อดีตแกนนำคัดค้านการก่อสร้างโรงฟ้าถ่านหิน จ.สมุทรสาครที่เสียชีวิตไปแล้ว และพวกรวม 20 คน ที่ได้รับความเดือนร้อนจากการขนส่งถ่านหินในพื้นที่ ยื่นฟ้อง อบต.ท่าทราย สำนักงานอุตสาหกรรมจ.สมุทรสาคร และสำนักงานขนส่งทางน้ำจ.สมุทรสาคร โดยศาลปกครองสูงสุดยังคงให้ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีแต่ละราย เพื่อควบคุม ตรวจสอบ หรือกำกับให้มีการปฏิบัติตามคำสั่งศาลและคำสั่งของผจว.สมุทรสาครในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้การที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งดังกล่าวก็เนื่องมาจาก บริษัทเทคนิคทีม ประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการขนถ่ายถ่านหินในพื้นที่ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองชั้นต้น ต่อศาลปกครองสูงสุด แต่จากข้อเท็จจริงยังพบว่า แม้ผลการตรวจสอบค่าฝุ่นละอองที่เกิดจากกระบวนการขนถ่าย เก็บกอง ลำเลียง หรือขนส่งถ่านหินที่มีจำนวนมากถึง 1500-2000 ตันต่อวันจะไม่มีฝุ่นละอองฟุ้นกระจายที่มีขนาดเล็กเกินกว่า 2.5 ไมครอน ตามมาตรฐานที่ประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนด แต่เมื่อพิจารณาคำชี้แจงของผู้ฟ้องคดี ประกอบภาพถ่ายท่าเทียบเรือที่ใช้ในการขนถ่ายถ่ายหินขึ้นจากเรือ รวมถึงมีข้อเท็จจริงที่ว่า การขนถ่ายถ่านหินนั้น บริษัทฯใช้รถแบ็คโฮตักใส่รถบรรทุกเพื่อขนส่ง ทำให้ถ่านหินบางส่วนตกลงสู่แม่น้ำ ปลิวกระจายเมื่อลมกระโชก และตกลงตามไหล่ถนนในระหว่างการขนถ่ายลำเลียงหรือขนส่ง ถนนในพื้นที่ที่รถบรรทุกวิ่งผ่านได้รับความเสียหายเป็นหลุมบ่อ และฝุ่นละอองถ่านหินได้ฟุ้งกระจายออกไป ก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ จึงเห็นได้ว่า ระบบปอ้งกันการฟ้องกระจายของละอองถ่านหินขณะขนถ่ายขึ้นจากเรือของบริษัทไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกันการฟ้องกระจายของละอองถ่านหิน เป็นการขนถ่ายและลำเลียงที่ไม่ได้เป็นระบบปิด ไม่มีการใช้ผ้าใบขึงระหว่างเรือกับท่าเพื่อป้องกันการหกหล่นของเศษวัสดุหรือถ่านหินลงสู่แหล่งน้ำ จึงเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามข้อ 2.6 ของเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตก่อหสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การกระทำของบริษัทฯจึงน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำฟ้องจึงมีมูล เมื่อบริษัทฯไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตฯ จึงเป็นการตั้งใจกระทำซ้ำหรือกระทำต่อไป มีเหตุเพียงพอที่ศาลฯจะคงมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาไว้ อีกทั้งการที่บริษัทฯยังคงฝ่าฝืนคำสั่งของผวจ.สุมทรสาครและผู้ถูกฟ้องคดีที่เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลให้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยลักลอบลำเลียง หรือขนส่งถ่านหินในพื้นที่ตามหลักฐานบันทึกการจับกุมคดีที่ 2883/2554และรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีของสถานีตำรวจภูธรเมืองสุมทรสาครเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 54 ซึ่งอบต.ท่าทรายได้สั่งห้ามมิให้ใช้ท่าเทียบเรือที่บริษัทฯก่อสร้าง แสดงให้เห็นว่าคำสั่งของผวจ.สุมทรสาครและผู้ถูกฟ้องคดีที่เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ก่อให้เกิดปัญหาอุปสรรคต่อการบริหารงานของหน่วยงานของรัฐ ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง
กำลังโหลดความคิดเห็น