xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.เตือนสภาดื้อคำสั่งศาลทำต่างชาติไม่เชื่อมั่นไทย - เบรกยัดโหวตปรองดอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา (แฟ้มภาพ)
“ส.ว.ตวง” ชมคำพูดตุลาการ “ถ้าไม่เชื่อศาลจะอยู่อย่างไร” วาทะแห่งปี ฝากประธานรัฐสภาคิดถ้าไม่เชื่อคำสั่งนานาชาติก็จะไม่เชื่อมั่นไทย แนะรอคำวินิจฉัยก่อน ด้าน “ส.ว.สมชาย” ชี้โหวตแก้ รธน.ขัดคำสั่งศาลวอนสมาชิกพิจารณาเอาด้วยหรือไม่ หวั่นนายกฯ ทำระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท สร้างวิกฤตการเมืองเพิ่ม ติงเบรกยัด พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสภา

วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธาน โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา กล่าวว่า คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้รัฐสภาระงับการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ซึ่งในทัศนะของตนถือว่าเป็นวาทะแห่งปีที่น่าจับใจมาก ตนคิดว่าประเด็นดังกล่าวที่พูดว่า “ถ้าไม่เชื่อศาลจะอยู่อย่างไร” เป็นประเด็นใหญ่ ซึ่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้ลุกลามกลายเป็นความเกลียดชังของผู้คนในสังคมโดยเริ่มต้นจากความขัดแย้งของตุลาการ อัยการ และกลับมาที่สภาฯโดยที่สภาก็แตกแยกกัน ถ้าเราไม่เชื่อศาลแปลว่าเราไม่เชื่อต่อกฎหมาย ถ้าไม่เชื่อกฎหมายเราไม่เชื่อต่อรัฐ ไม่เชื่อต่อประเทศ แล้วประเทศก็จะกลายเป็นประเทศที่ล้มเหลวที่ไม่สามารถควบคุมประเทศของตนเองได้และนำไปสู่การยกพวกเข้าห้ำหั่นกันนั่นคือ รัฐแห่งความล้มเหลว

นายตวงกล่าวต่อว่า ตนขอฝากไปยังนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ด้วยว่าจะต้องเปลี่ยนและตัดสินใจให้ได้ว่าถ้าวันนี้ประเทศไทยไม่เชื่อต่อคำสั่งศาล นานาประเทศจะไม่เชื่อมั่นต่อประเทศไทย ประชาคมอาเซียน และประชาคมโลกจะคบค้ากับประเทศไทยอย่างไรในเมื่อประเทศไทยไม่เชื่อมั่นต่อศาลต่อกฎหมาย สิ่งที่ตนพูดมาข้างตนนี้ขอให้ประธานวุฒิสภาได้ไปหารือกับประธานสภาฯ ว่าควรจะต้องรอศาล เมื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินแล้วทุกคนต้องฟัง ถึงจะไม่เห็นด้วยก็ต้องยอมรับ และอย่านำรัฐสภาและวุฒิสภานำไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งของประเทศ

ด้าน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนห่วงว่าถ้ามีการลงมติในการที่จะขัดคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งการที่จะร่วมลงมติคัดค้านคำสั่งศาลนั้นเป็นการละเมิดอำนาจศาลและสมาชิกวุฒิสภาควรจะพิจารณาถึงการเข้าร่วม ซึ่งการประชุมร่วมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) เรื่องรับทราบคำสั่งศาลเป็นวาระที่ 1 และยังอยู่ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าสมาชิกสภาฯ ใดจะหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาเป็นญัตติปากเปล่าเข้าสู่การพิจารณาเพื่อให้โหวตหรือไม่ ซึ่งถ้ามีการโหวตเรื่องดังกล่าวตนและเพื่อนสมาชิกวุฒิสภาก็จะไม่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะถือเป็นการลงมติที่ขัดกับคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญอีกทั้งถ้ายังเดินหน้าต่อไปโดยไม่ฟังคำสั่งศาลซึ่งอาจจะใช้เวลาอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์ถ้ามีการลงมติไปแล้ว นายกรัฐมนตรีก็จะต้องนำความขึ้นกราบบังคมทูลตามมาตรา 150, 151 ภายใน 20 วันเรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่ทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทและจะเป็นการนำร่างรัฐธรรมนูญที่มีปัญหาอยู่ในศาลไปกราบบังคมทูลจะส่งผลให้เกิดปัญหาวิกฤตทางบ้านเมือง

นายสมชายกล่าวต่อว่า ขอฝากไปยังประธานรัฐสภาว่าต้องรับผิดชอบในการตัดสินใจของท่านจะใช้มติของมติของสภาฯขัดคำสั่งศาลแล้วเดินหน้าต่อไปทำไม่ได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการตัดสินใจของประธานสภาฯ แต่เพียงผู้เดียวหรือมีมติรับลองต้องรับผิดในคดีอาญาและพ้นตำแหน่งประธานสภาซึ่งตนเป็นห่วงเรื่องนี้และประธานสภาควรหยุดเรื่องดังกล่าวไว้ก่อนประธานสภาฯรวมทั้งยังมีกระแสข่าวว่า พ.ร.บ.ปรองดองจะเข้าในการประชุมในวันที่ 13 มิ.ย.และ 14 มิ.ย.นั้น ตนขอเสนอให้หยุดเรื่องดังกล่าวไว้ก่อน และประธานวุฒิสภาควรปรึกษาหารือกันว่าควรจะปิดสมัยประชุมแล้วไปเปิดในวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างรัฐธรรมนูญเสร็จพอดี
กำลังโหลดความคิดเห็น