“โฆษกประชาธิปัตย์” แย้มไฮด์ปาร์กต้าน กม.ปรองดองอีกศุกร์นี้ที่มีนบุรี จับตารัฐสภาสอดไส้ลงมติแก้ รธน.หรือไม่ สับ “ปู-ค้อนปลอม” เชื่อถือไม่ได้ แปลกใจ “สุกำพล” พูดทหารเลือกข้าง ยันกองทัพไม่เป็นเครื่องมือนักการเมือง ยุค “มาร์ค” ไม่เคยสั่งจุ้นโกงเลือกตั้ง ระบุพรรคไม่เคยต้องการเป็นรัฐบาลจากการยึดอำนาจ ไล่ไปบอกนายกฯ ปิดประชุมสภา-ให้แดงเลิกด่าศาล-ดูโกงค่าน้ำท่วม จวก “ยิ่งลักษณ์” ทำตัวเป็นพริตตี้กดเพลย์สเตชัน
วันนี้ (11 มิ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชนที่เข้าร่วมเวทีปราศรัย “ผ่าความจริง หยุดกฎหมายล้างผิดคนโกง” ที่วงเวียนใหญ่ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพรรคจะจัดเวทีปราศรัยอย่างต่อเนื่อง และในวันศุกร์นี้จะเปิดปราศรัยที่มีนบุรี โดยจะกำหนดสถานที่อีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับเชิญชวนให้ประชาชนร่วมแสดงออกเพื่อต่อต้านการล้มล้างกฎหมายประเทศ สั่นคลอนตุลาการ
นอกจากนี้ยังต้องจับตาการประชุมรัฐสภาและสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 12-15 มิ.ย. 55 ว่าอาจจะมีการสอดไส้ลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 โดยไม่รอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และอาจนำร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสู่การพิจารณาด้วย จึงอยากให้ประชาชนจับตา ไม่ประมาทกับสิ่งที่รัฐบาลจะดำเนินการ เพราะประธานสภา นายกรัฐมนตรี ไม่น่าจะมีความคิดเป็นตัวของตัวเอง ทำให้เชื่อถือคำพูดไม่ได้ เนื่องจากอาจมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากต่างประเทศให้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ ประชาชนจึงต้องระมัดระวังเรื่องการสอดไส้ให้ประชาชนแสดงสิทธิต่อต้านภายใต้ขอบเขตกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ เพื่อให้รัฐบาลเห็นว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับกระบวนการล้างผิดคืนสิทธิให้คนโกง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุทหารไม่ปฏิวัติและไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์ว่า รู้สึกแปลกใจกับท่าทีดังกล่าวเพราะออกจากปากของคนที่เป็น พลอากาศเอกรับราชการทหารมาตลอดชีวิต กลับพูดว่าทหารเลือกข้างทางการเมือง คำพูดเช่นนี้หมายความว่าการปฏิวัติที่ผ่านมาเป็นการเลือกข้าง จึงอยากฝากถึง พล.อ.อ.สุกำพลว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ ยืนยันได้ว่าไม่เคยเป็นเครื่องมือของนักการเมือง แต่ดำรงความเป็นกลางทางการเมือง ในขณะที่รัฐบาลปชป.ก็ไม่เคยแทรกแซงกองทัพ ไม่เคยสั่งให้กองทัพช่วยโกงเลือกตั้งเหมือนบางพรรค หรือให้ทหารทำร้ายประประชาชน ไม่เคยเข้าไปข้องเกี่ยวกับการดำเนินการของกองทัพ แต่สิ่งที่ พล.อ.อ.สุกำพล พูดสะท้อนความคิดว่า รมว.กลาโหมคิดว่าทหารถูกแทรกแซงได้ไม่ดำรงความเป็นกลาง และการปฏิวัติครั้งที่แล้วเขาไม่ได้ปฏิวัติให้ประชาธิปัตย์ อีกทั้งพรรคก็ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหารไม่มีส่วนได้เสียกับเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549
“ไม่เชื่อให้ไปถาม พล.อ.สนธิ และให้ย้อนประวัติศาสตร์ว่าไม่เคยมีการปฏิวัติครั้งไหนทำเพื่อฝ่ายค้าน พร้อมยืนยันพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยต้องการเป็นรัฐบาลจากการปฏิวัติ ทั้งนี้หาก พล.อ.อ.สุกำพล กลัวการปฏิวัติ ต้องไปบอก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปิดสมัยประชุม อย่าสร้างเงื่อนไขที่จะสร้างความขัดแย้ง เกิดความไม่รู้รักสามัคคี เพราะจะเข้าเงื่อนไขการรัฐประหาร และต้องไปบอกแกนนำเสื้อแดงที่ปลุกระดมโจมตีตุลาการ เพราะเหตุผลในการรัฐประหารที่ผ่านมาข้อสองระบุเรื่องการแทรกแซงองค์กรอิสระ ดังนั้นต้องหยุดโจมตีศาล แนะนำให้ทำคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน หากชี้แจงได้ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร ทำทุกอย่างตามอำนาจหน้าที่ของตัวเอง หรือจะขอให้ศาลวินิจฉัยเร็วขึ้นก็ได้ แต่ถ้ายังยืนกระต่ายขาเดียวปลุกปั่นมวลชน ไม่ทำหน้าที่ แทรกแซงศาล ก็จะเข้่าเงื่อนไขที่เคยใช้ในการปฏิวัติ” นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า การรัฐประหารที่ผ่านมายังอ้างถึงการคอรัปชั่น ซึ่งในขณะนี้ก็มีข่าวเกี่ยวกับการทุจริตเงินเยียวยาน้ำท่วมจำนวนมาก รวมถึงการหักหัวคิวสูงถึง 40 % ซึ่งเป็นเรื่องที่ พล.อ.อ.สุกำพล ต้องไปดูแลคนในรัฐบาลไม่ให้มีการทุจริต เพราะเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการปฏิวัติได้ อีกทั้งเหตุผลสุดท้ายในการรัฐประหารปี 49 คือ เรื่องการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เรื่องนี้ พล.อ.อ.สุกำพล ในฐานะที่เป็นทหารน่าจะทราบดีว่าคดีเหล่านี้มีจำนวนมาก และผู้ต้องหาส่วนใหญ่ก็เป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลทั้งสิ้น ดังนั้นหากไม่อยากให้เกิดรัฐประหารต้องจัดการกับเรื่องเหล่านี้ ดำเนินการกับพวกที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ บิดเบือนความจริงให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบัน ถือเป็นหน้าที่ของทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทหารเสือของพระราชินีต้องดำเนินการ ไม่ต้องเสียเวลาโทรศัพท์หา ผบ.ทบ.เพื่อขอคำยืนยัน เพราะถ้าป้องกัน 4 เหตุผลที่เคยถูกใช้ในการรัฐประหารได้ ก็ไม่มีใครมีความชอบธรรมล้มรัฐบาลได้
นายชวนนท์ ยังฝากถึงนายกรัฐมนตรีที่เตรียมจะลงพื้นที่ปลายน้ำ กลางน้ำ ต้นน้ำ เริ่มจากปทุมธานีจนถึงเขื่อนภูมิพล จ.ตากและเชียงใหม่ ในวันที่ 11 - 14 มิ.ย.นี้ ที่ โดยมีการเตรียมแผนให้นายกรัฐมนตรีเปิดแบบจำลองผ่านระบบคอมพิวเตอร์ จึงฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีว่า ประเทศไทยไม่ใช่เกมเพลย์สเตชั่น ชาวบ้านตายแล้วเล่นใหม่ไม่ได้ เพราะขณะนี้มีอุทกภัยเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ แต่ประชาชนไม่ได้รับการดูแลเลย พื้นที่ที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปไม่ใช่พื้นที่เดือดร้อน จึงถามว่าจะจำลองเหตุการณ์ทำไม ในเมื่อมีพื้นที่จริงกำลังจมน้ำ อยากถามว่านายกฯไม่ทราบใช่หรือไม่ว่ามีประชาชนกว่าแสนคนเดือดร้อนจากน้ำท่วม เพราะยังสนุกกับระบบคอมพิวเตอร์เสมือนว่าได้ทำงานแล้ว แต่คนที่เดือดร้อนจริงยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ทั้งนี้ตนไม่เข้าใจว่า ปัญหาของประเทศเกิดขึ้นในจุดหนึ่งแต่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ในจุดที่ไม่มีปัญหาทำไม และคิดว่าประเทศนี้สิ้นหวังที่มีนายกฯพริตตี้เล่นเกมกดผ่านคอมพิวเตอร์ ไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน