“คำนูณ” เห็นใจตุลาการศาล รธน.ถูกรุมกระหน่ำ วอนนักกฎหมายที่เห็นด้วย ออกมาแถลงข้อเท็จจริงให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะหากปล่อยให้คนทำเพื่อชาติบ้านเมืองต้องโดดเดี่ยว ต่อไปใครจะกล้าทำดี ถามอัยการสูงสุด ถ้าศาล รธน.ไม่รับวินิจฉัยแก้ รธน.จะพิจารณาเสร็จวันนี้หรือไม่ ทั้งที่มีการยื่นเรื่องไปนานแล้ว เชื่อเพื่อไทยยิ่งฮึกเหิมอาจลงมติวาระ 3 พรุ่งนี้เลยก็ได้ พร้อมเป็นห่วงมวลชนแดงรอบสภาหวังผลร้ายแรง พ้อหรือว่าต้องยกบ้านเมืองให้เขา
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา โทรศัพท์เข้าในรายการ “News Hour” ทาง ASTV โดยกล่าวว่า ความรู้สึกวันนี้ไม่เข้าใจสังคมไทย ผู้รู้มากมายหายไปไหนหมด วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญถูกรุม คำแถลงอัยการเหมือนเป็นการหักล้างมุมมองของศาลรัฐธรรมนูญหลายประการ โดยอัยการตีความมาตรา 68 ว่าเมื่อมีผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ให้ยื่นต่ออัยการสูงสุดเพื่อตรวจสอบว่ามีมูลหรือไม่ หากมีมูลให้อัยการสูงสุดยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเห็นว่าไม่มีมูลก็ไม่ต้องทำคำร้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ตีความอย่างศาลรัฐธรรมนูญว่าผู้ทราบการกระทำ สามารถยื่นได้ 2 ทาง
ประการที่สอง ที่ถกเถียงมาตลอด เหมือนที่นักวิชาการฝ่ายคัดค้านศาลรัฐธรรมนูญพูด เห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ไม่ใช่การใช้สิทธิเสรีภาพตามมาตรา 68 ฉะนั้นเฉพาะสองประเด็นนี้ ก็เป็นมุมมองที่แตกต่างตรงข้ามกับศาลรัฐธรรมนูญ
รายละเอียดอื่นๆ ก็เป็นเนื้อหาของคำวินิจฉัย หรือการรวบรวมข้อเท็จจริง ที่อัยการเห็นว่ารัฐธรรมนูญแก้ไขมาตรา 291 ไม่ได้มีลักษณะเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือจะได้มาด้วยวิธีการอื่นนอกรัฐธรรมนูญ โดยยกตัวร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ขึ้นมา โดยเฉพาะมาตรา 291/11 วรรค 5 ที่ระบุว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหมวดพระมหากษัตริย์ ฟังได้ว่าการกระทำ ไม่มีเหตุให้ต้องยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำ
นายคำนูณกล่าวต่อว่า โดยตัวหนังสือแล้วการแก้รัฐธรรมนูญก็ทำตามมาตรา 291 เพียงแต่ที่ถกเถียงกันและอัยการไม่ได้พูดถึง ก็คือแก้มาตรา 291 มันไม่ใช่แค่การแก้มาตราเดียว แต่มันคือการยกเลิกรัฐธรรมนูญ 50 ทั้งฉบับ แล้วไปยัง ส.ส.ร.เลยโดยไม่กลับมาที่สภาอีก ท่านไม่ได้พูดถึงว่ามันถูกต้องตามเจตนารมณ์หรือเปล่า เพียงแต่บอกว่าเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นในการแก้ไขมาตรา 211 ของรัฐธรรมนูญปี 2534 เมื่อปี 2538-2539 แต่บริบททางการเมืองเมื่อปี 2538-2539 กับตอนนี้มันต่างกัน ตอนรัฐธรรมนูญปี 2534 ไม่มีมาตรา 68 ไม่มีศาลรัฐธรรมนูญ
ส.ว.สรรหากล่าวอีกว่า เท่าที่อัยการสูงสุดพูดมาทำให้เกิดผลใหญ่หลวง ผลทางกฎหมายก็ต้องดูต่อไป เพราะไม่ว่าอัยการสูงสุดจะวินิจฉัยว่ามีมูลหรือไม่ในวันนี้ ก็ไม่เป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญต้องเห็นตาม อย่าลืม ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่เห็นด้วยว่ามีการกระทำความผิดตามร้องจริง ท่านเพียงแต่เห็นว่ามาตรา 68 ตราไว้เพื่อป้องกันการล้มรัฐธรรมนูญด้วยวิถีทางที่ไม่ถูกต้อง จึงต้องตีความมาตรา 68 อย่างกว้าง ถ้าศาลไม่ดำเนินการอย่างทันท่วงที จะป้องกันตามมาตรา 68 ไม่ได้ แล้วเรื่องใหญ่ขนาดนี้จะมอบให้อัยการเป็นผู้วินิจฉัยฝ่ายเดียวได้อย่างไร
ที่สำคัญ สมมติศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง 5 สำนวน เมื่อ 1 มิ.ย. แล้วสั่งมายังเลขาฯ สภาผู้แทนราษฎร ถามว่าแล้วอัยการสูงสุดจะวินิจฉัยเสร็จวันนี้หรือไม่ แล้วอย่าลืมตามกำหนดเดิม วันนี้เป็นวันนัดลงมติแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 แล้วถ้าอัยการทำงานโดยที่ไม่ได้มองเงื่อนเวลาที่เกิดขึ้น แล้วมาวินิจฉัยวันนี้ ป่านนี้เขาก็ลงมติวาระ 3 ไปแล้วเรียบร้อยในตอนเช้า
ที่อัยการต้องทำให้เสร็จในวันนี้ เพราะสังคมกำลังตั้งข้อสงสัยหรือไม่ ว่าคนร้องมาตั้งแต่มีนาคม-เมษายน แล้ว อัยการไม่สามารถตอบคำถามผู้ยื่นคำร้องได้ทันกับเวลาที่สภาจะลงมติ ก็ต้องตั้งคำถาม ซึ่งอัยการก็คงตอบไม่ได้ ถ้าศาลไม่ทำ อัยการจะทำคำร้องเสร็จเมื่อไหร่ มาตรา 68 ก็ไม่ใช่มีไว่เพื่อป้องกันสิ เพราะทำเสร็จหลังลงมติเสร็จ
นายคำนูณกล่าวต่อว่า ผลที่เกิดขึ้นมันใหญ่หลวง ผลทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น คือ ตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญถูกรุมกระหน่ำ มีรัฐมนตรีไล่ให้ไปตาย ผู้ชุมนุมเอาชื่อที่อยู่ของท่านและลูกเมียมาอ่านบนเวที แล้วเมื่ออัยการแถลงเย็นนี้ พรุ่งนี้จะมีการประชุมร่วมรัฐสภา ในวาระแรกแจ้งเพื่อทราบ ถึงอัยการยังไม่วินิจฉัยมา สมาชิกพรรคเพื่อไทยก็คงตั้งเป้าถล่มศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แล้วมีคำแถลงอัยการออกมาแบบนี้ พรุ่งนี้ในสภาจะเกิดอะไรขึ้น และมวลชนนอกสภาที่เตรียมกันมาเต็มที่ ที่บอกว่าจะเลิก 2 ยามคืนนี้ ถ้าไม่เลิกจะเกิดอะไรขึ้น
แล้วสถานการณ์กำลังร้อนขนาดนี้ ไม่มีนักกฎหมายน้อยใหญ่ทั้งหลายแหล่ที่จะออกมาวิเคราะห์ แถลงเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่เพื่อช่วยศาลรัฐธรรมนูญ แต่แถลงในมุมมองทางกฎหมาย แต่ภาพที่เกิดขึ้นวันนี้ อดีตประธานรัฐสภา 2 คน อดีตประธานวุฒิสภา 1 คน แม้เป็นพวกทักษิณ แต่ภาพที่ออกมาคนที่เป็นถึงอดีตประธานสภาไฟเขียวให้สภาเดินหน้า ชาวบ้านดูมันน่าเชื่อถือ มีแต่ข่าวแบบนี้เต็มไปหมด
“เห็นใจศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าคนทำความดีทำเพื่อบ้านเมืองแล้วต้องโดดเดี่ยวแบบนี้ อีกหน่อยคงไม่มีใครกล้าทำ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นมนุษย์ เป็นผู้พิพากษาธรรมดา ไม่มีตำรวจติดตาม ไม่มีคนอารักขา แล้วสถานการณ์ที่เจอวันนี้ อีกหน่อยใครกล้าทำความดีบ้าง
สิ่งที่เกิดขึ้นพรุ่งนี้ พรรคเพื่อไทยอาจยกระดับเพิ่ม จากไม่คิดจะเสนอญัตติให้ลงมติ แต่พอเจอแบบนี้อาจเสนอญัตติให้ลงมติกันในสัปดาห์หน้า วันที่ 12 เลย หรือลงมติแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 พรุ่งนี้เลยหรือไม่ แล้ววันนี้บรรยากาศหน้าสภาไม่ดีเลย ไม่มีตำรวจ เต็มไปด้วยเสื้อแดง แล้วภาพที่เห็นในสวนสัตว์อีก หรือว่าต้องยกบ้านเมืองให้เขา” นายคำนูณกล่าว
