โฆษกรัฐบาลพุ่งเป้าย้อนถาม “มาร์ค” แสดงความรับผิดพฤติกรรมลูกพรรคสุดถ่อย ทำสภาฯ เสื่อมเสียเกียรติอายพม่า อ้างความเป็นประชาธิปไตยในสภาฯ ล้วนมาจากเสียงส่วนใหญ่ จึงต้องเคารพเสียงประชาชน
วันนี้ (31 พ.ค.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึ กรณีเหตุการณ์ความวุ่นวายในสภาฯ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมว่า อยากจะขอเรียนถามไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรว่า การบุกขึ้นไปบนบัลลังก์เพื่อยื้อยุดฉุดกระชาก นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ให้ออกจากการประชุม การเข้าแย่งเก้าอี้ประธาน การล้อมกรอบข่มขู่หมายทำร้าย กิริยาที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นพรรคเก่าแก่และอ้างตลอดเวลาว่าเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา ไม่คิดว่าสิ่งที่เคยเห็นเกิดขึ้นกับรัฐสภาไต้หวัน จะมาเกิดกับรัฐสภาไทย นายอภิสิทธิ์จะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร เพราะประวัติศาสตร์การเมืองไทยจะจารึกไว้ว่าในยุคผู้นำฝ่ายค้านชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ทำให้เกียรติยศศักดิ์ศรีของรัฐสภาไทยถอยหลังกลับไป แม้กระทั่งนางอองซาน ซูจี ยังทวีตว่าการเมืองไทยก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พัฒนาการการเมืองประเทศไทยเมื่อวานนี้เหมือนเดินถอยหลังกลับไปจนต้องอายพม่า การทำงานในระบบรัฐสภา หน้าที่หลักคือ งานด้านนิติบัญญัติ ทำหน้าที่ออกกฎหมาย เป็นสถาบันที่ทรงเกียรติ
นายอนุสรณ์กล่าวว่า วันนี้การทำงานของ ส.ส.ฝ่ายค้านทำให้ระบบการทำงานของสภาฯ เสื่อมถอย เพียงเพื่อผลประโยชน์และความสะใจส่วนตน ก่อนหน้านี้ผู้คนสงสัยว่าที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านหลายคนที่ออกมาบอกว่าจะขัดขวาง พ.ร.บ.ปรองดองทุกรูปแบบอย่างเต็มที่ทั้งในและนอกสภาฯ จะเป็นอะไร วันนี้คิดไม่ถึงว่าจะเสื่อมขนาดนี้ ทำให้ภาพการคัดค้านนอกสภาฯ ดูดีขึ้นมา และก้าวหน้ากว่าฝ่ายค้านไปอีกขั้น
นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ที่สุดแล้วประชาชนก็จะเห็นเองว่า ส.ส.ฝ่ายค้านในสภาฯ นั้นไม่ได้ทำงานอย่างจริงจังเพื่อเป็นตัวแทนที่ดีของประชาชนที่เลือกเข้ามา หากแต่มุ่งเน้นในการทำงานเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น เช่น นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ที่แสดงการขัดขืนเชิงสัญลักษณ์โดยการแสดงท่าไฮ ฮิตเลอร์ การแย่งเก้าอี้ประธานสภาฯ ของนางสาวรังสิมา รอดรัศมี ก็เป็นเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งในที่สุดแล้วประชาชนก็จะร่วมกันประเมินและพิพากษาพรรคฝ่ายค้านในยุคนี้ว่าเป็นพรรคการเมืองเชิงสัญลักษณ์ของความเสื่อม
“อยากจะเรียกร้องว่า หน้าที่หลักของ ส.ส.ก็คือการเสนอกฎหมายอยู่แล้ว ถ้าพรรคฝ่ายค้านไม่อยากเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองขึ้นมาประกบก็เสนอ พ.ร.บ.แตกแยกขึ้นมาแข่ง หรืออีกหลายๆฉบับก็ได้ วันนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 500 คนประชาชนเขาเลือกมา จะประชาชนเสื้อแดง เสื้อฟ้า จะหลากสีหรือจะสีไหน ประชาชนก็เป็นผู้เลือกมา ควรต้องทำหน้าที่ของตนเองและเคารพประชาชนให้มาก” นายอนุสรณ์กล่าว
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ความจริงงาน World Economic Forum on East Asia ครั้งที่ 21 ที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพ เราควรจะภูมิใจร่วมกันมากๆ เป็นงานที่เปิดโอกาสให้รัฐบาลและนักธุรกิจชั้นนำได้พบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และกำหนดแผนยุทธศาสตร์ใหม่ๆ เพื่อบริหารจัดการกับความท้าทายในภูมิภาค รัฐบาลไทยใช้เวทีนี้ในการบอกว่าเราพยายามกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และได้กลับมาฟื้นฟูอย่างแข็งแกร่งภายหลังอุทกภัย ทำให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้เติบโตสูงถึงร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา และคาดว่าการเติบโตในปีนี้ทั้งปีอาจอยู่ที่ร้อยละ 5.5-6.5 รัฐบาลได้มุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศมีความยืดหยุ่นต่อภัยพิบัติต่างๆ โดยได้จัดสรรงบประมาณถึง 11.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งเร่งเดินหน้าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ เช่น รถไฟความเร็วสูง โทรคมนาคม และท่อส่งน้ำมัน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 74 พันล้านเหรียญสหรัฐ รัฐบาลมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่ไทยมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งตลาดที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนในตลาดโลกที่หลากหลายและยืดหยุ่น การตั้งอยู่บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานและการบริการที่หลากหลาย แรงงานที่มีคุณภาพและทุ่มเท