xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” จ้อสื่อนอก การเมืองไทยมั่นคง ความขัดแย้งเป็นไปตามระบอบ ปชต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” จ้อสื่อนอก การเมืองไทยยังมั่นคง ส่วนความขัดแย้งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย มั่นใจเศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ชี้การเมืองมีเสถียรภาพอยู่บนหลักนิติรัฐ เคารพความแตกต่าง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบข้อสักถามของนายปีเตอร์ ฮอร์ร็อก ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวบีบีซี ระหว่างการประชุม World Economic Forum on East Asia ณ โรงแรม Shangri-la เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองไทยว่า การเมืองในขณะนี้มีความมั่นคง ถึงแม้จะมีความขัดแย้งอยู่บ้าง แต่ก็เป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภา รัฐบาลจะเดินหน้าอย่างเต็มที่และมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนโดยรวม

ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ร่วมกิจกรรม CNBC Power Breakfast พร้อมกล่าวสุนทรพจน์แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ Asia’s New Reality : Growth vs. Inflation ณ ห้อง Angelini โรงแรมแชงกรีลา นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลภูมิใจที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน World Economic Forum on East Asia ครั้งที่ 21 เปิดโอกาสให้รัฐบาลและนักธุรกิจชั้นนำได้พบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และกำหนดแผนยุทธศาสตร์ใหม่ๆ เพื่อบริหารจัดการกับความท้าทายในภูมิภาคหัวข้ออธิปรายเช้านี้ คือ “Asia’s New Reality : Growth vs. Inflation ” สอดคล้องกับสถานการณ์ของภูมิภาคเอเชียในปัจจุบัน เพราะขณะที่รัฐบาลพยายามกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ก็คำนึงแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อเช่นกันสำหรับประเทศไทย รัฐบาลได้พยายามรักษาความสมดุลระหว่างการกระตุ้นการเติบโตและเสถียรภาพทางราคาเศรษฐกิจไทยได้กลับมาฟื้นฟูอย่างแข็งแกร่งภายหลังอุทกภัย ทำให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้ เติบโตสูงถึงร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา และคาดว่าการเติบโตในปีนี้ทั้งปี อาจอยู่ที่ร้อยละ 5.5 -6.5

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อยังคงอยู่ในช่วงร้อยละ 3.5 เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 5 สืบเนื่องจากสถานการณ์ด้านตลาดและราคาน้ำมันโลก ที่เป็นสาเหตุหลักของภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ความกดดันดังกล่าวได้คลี่คลาย ส่งผลให้ภาวะเงินเฟ้อในเดือนที่ผ่านมาปรับตัวมาอยู่ที่ ร้อยละ 3.2 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการภาวะเงินเฟ้อ โดยจะทำงานให้หนักขึ้นในการแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งการแสวงหาพลังงานทางเลือกจากพืชเกษตรพลังงาน ทั้งการจัดการกระบวนการผลิต แปรรูป และการตลาด เพื่อจะลดความผันผวนของราคาสินค้าเกษตรภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ และเดินหน้าการลงทุนตามแผนงบประมาณตามเวลาที่กำหนดสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้มุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศมีความยืดหยุ่นต่อภัยพิบัติต่างๆ โดยได้จัดสรรงบประมาณถึง 11.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้ง เร่งเดินหน้า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ เช่น รถไฟความเร็วสูง โทรคมนาคม และท่อส่งน้ำมัน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 74 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า รัฐบาลมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่ไทยมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งตลาดที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนในตลาดโลกที่หลากหลายและยืดหยุ่น การตั้งอยู่บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานและการบริการที่หลากหลาย แรงงานที่มีความคุณภาพและทุ่มเท ขณะเดียวกัน การมีประชาธิปไตยอย่างมีเสถียรภาพบนพื้นฐานหลักนิติธรรม และการเคารพในความแตกต่าง ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้เน้นความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ นอกจากนี้ ไทยยังได้ดำเนินมาตรการเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ ต่างๆ เช่น การปรับค่าแรงขั้นต่ำ และเพิ่มสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อย การเพิ่มผลผลิตของบริษัทต่างๆ มาตรการเหล่านี้ ล้วนถูกออกแบบมาเพื่อ สร้างโอกาสใหม่สำหรับผู้ประกอบการขาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีความแข็งแกร่ง

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกลุ่มสตรีว่า ถ้ามีการพัฒนาคุณภาพชีวิต สามารถหารายได้เพิ่มขึ้น ก็จะดูแลครอบครัวได้มากขึ้น เท่ากับเป็นการเพิ่มรายได้ภายในประเทศสำหรับประชาชนกลุ่มรายหญ้าของไทย สำหรับภูมิภาคเอเชียที่กำลังกลายเป็นเครื่องจักรสำคัญสำหรับเศรษฐกิจโลกนั้น รัฐบาลได้มีความพยายามลดช่องว่างการพัฒนาของประเทศต่างๆ และเพิ่มศักยภาพของการเติบโตโดยรวม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ไทยได้มีความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด เดินหน้าการเชื่อมโยงและแนวระเบียงเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อให้กระจายประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นให้กระจายไปอย่างกว้างขวางในตอนท้าย

“ที่สถานการณ์การเมืองไทยนั้นมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอย่างชัดเจน และมีผู้มาลงคะแนนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ความแข็งแกร่งของพื้นฐานทางเศรษฐกิจและความเป็นประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่ไทยให้ความสำคัญ ในการเดินหน้าพัฒนาและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ทำให้ไทยสามารถเสนอโอกาสใหม่ๆ สำหรับนักธุรกิจไทยและต่างประเทศ เพื่อให้ไทยและภูมิภาคเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น