ASTVผู้จัดการรายวัน - บาฟส์ฟุ้งปีนี้อัตรากำไรสุทธิเกิน 25% หลังตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 4%จากการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้นและเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลงเหลือ 23% ปีหน้าเตรียมลงทุนทำถังเก็บน้ำมันเพิ่มขึ้นที่สุวรรณภูมิใช้เงิน 300 กว่าล้านบาท แจงซื้อหนี้FPT ทำให้มีกระแสเงินสดเข้ามาปีละกว่า 100 ล้านบาทไปใช้หนี้ได้
ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานรวมทั้งสิ้น 4,780 ล้านลิตร เติบโตขึ้น 3.8%เมื่อเทียบจากปีก่อน ส่งผลให้รายได้เติบโตขึ้น 4-5 % จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.4 พันล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin)จะสูงกว่า 25 %ดีกว่าปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 21.9% เนื่องจากอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลงเหลือ 23% ทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปี 2554ที่มีกำไรสุทธิ527 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนที่จะลงทุนสร้างถังเก็บน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้นอีก 1 ถังขนาดบรรจุ 15 ล้านลิตรที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อรองรับความต้องการน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มสูงขึ้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 300 กว่าล้านบาท ก่อสร้าง 16-18 เดือน ทำให้บาฟส์สามารถให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 15 ล้านลิตรส่วนกรณีที่สนามบินสุวรรรภูมิมีแผนจะขยายรันเวย์เพิ่มขึ้นนั้น คงต้องรอทำประชาพิจารณ์และรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมก่อน คงใช้เวลานาน แต่บริษัทฯมีศักยภาพที่จะรองรับความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานอยู่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทฯได้เข้าไปซื้อหนี้บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT)จากกลุ่มเจ้าหนี้ของ FPT ในราคาส่วนลด 57% ทำให้บริษัทมีฐานะเป็นเจ้าหนี้FBT คิดเป็น 95%ของมูลหนี้ทั้งหมด ซึ่งบริษัทฯจะได้ประโยชน์จากการเข้าเป็นเจ้าหนี้FBT คือ บริษัทฯจะมีกระแสเงินสดเข้ามาเพิ่มขึ้นปีละ 100 กว่าล้านบาท จากการชำระหนี้ของFBT และลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักในการส่งน้ำมันทางท่อซึ่งบริษัทฯมั่นใจว่า FBTจะออกจากกระบวนการฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลางได้ในสิ้นปีนี้ และมีฐานะการเงินเข้มแข็งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเล็งเห็นโอกาสที่FBTจะขยายการลงทุนท่อส่งน้ำมันไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอนาคตตามนโยบายของภาครัฐได้ หากมีการเชื่อมต่อท่อขนส่งน้ำมันกับแทปไลน์ที่จุดเชียงรากน้อย ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีรายได้จากการให้บริการน้ำมันทางท่อเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมา FBT มีภาระหนี้สินสูงมาก ทำให้ไม่ได้รับการพูดถึงในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางท่อน้ำมันไปยังภาคเหนือและอีสานหลังเหตุการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯทำให้การขนส่งน้ำมันทางบกเป็นไปได้ลำบาก ซึ่งต้นทุนการขนส่งน้ำมันทางท่อก็ต่ำกว่าการขนส่งทางรถอยู่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทฯได้ซื้อหนี้FBTจากเจ้าหนี้สถาบันการเงินคิดเป็นจำนวนยอดภาระหนี้คงเหลือประมาณ 1,717 ล้านบาท ในราคาประมาณ 738 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนลดเฉลี่ย 57 % ของยอดภาระหนี้คงเหลือ รวมทั้งซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์คิดเป็น 32.33% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ทำให้ปัจจุบันBAFS มีสัดส่วนการถือหุ้นใน FPT จากจำนวน 16.67 %เป็นจำนวน 49 %ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
นายฉัตรธัย พันธัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพจำกัด (มหาชน) กล่าวในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 60 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาระบบเครื่องปั่นไฟที่สนามบินสุวรรณภูมิ 30 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการซ่อมบำรุงตามปกติ
นอกจากนี้ บริษัทยังไม่มีแผนการปรับขึ้นค่าบริการเติมน้ำมัน รวมถึงไม่มีแผนปรับโครงสร้างทางการเงินเพราะต้นทุนทางการเงินอยู่ในระดับที่น่าพอใจอยู่แล้ว
“บริษัทฯมั่นใจว่าเป้าหมายการเติมน้ำมันอากาศยานปีนี้โตแน่ 3.8% หลังจากปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานในช่วงม.ค.-ก.พ.55 อยู่ที่ 809 ล้านลิตร สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.8 % จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าจะไม่เติบโต และปัญหาเศรษฐกิจโลกไม่ได้กระทบมาก เพราะภูมิภาคเอเชียเติบโตดีมาก ทำให้มีจำนวนเที่ยวบินมาก ขณะที่เที่ยวบินจากยุโรปก็ไม่ได้ร้ายแรงกว่าที่เป็นอยู่ และสหรัฐฯเองก็เริ่มฟื้นตัว”นายฉัตรธัย กล่าว
ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานรวมทั้งสิ้น 4,780 ล้านลิตร เติบโตขึ้น 3.8%เมื่อเทียบจากปีก่อน ส่งผลให้รายได้เติบโตขึ้น 4-5 % จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.4 พันล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin)จะสูงกว่า 25 %ดีกว่าปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 21.9% เนื่องจากอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลงเหลือ 23% ทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปี 2554ที่มีกำไรสุทธิ527 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนที่จะลงทุนสร้างถังเก็บน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้นอีก 1 ถังขนาดบรรจุ 15 ล้านลิตรที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อรองรับความต้องการน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มสูงขึ้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 300 กว่าล้านบาท ก่อสร้าง 16-18 เดือน ทำให้บาฟส์สามารถให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 15 ล้านลิตรส่วนกรณีที่สนามบินสุวรรรภูมิมีแผนจะขยายรันเวย์เพิ่มขึ้นนั้น คงต้องรอทำประชาพิจารณ์และรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมก่อน คงใช้เวลานาน แต่บริษัทฯมีศักยภาพที่จะรองรับความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานอยู่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทฯได้เข้าไปซื้อหนี้บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT)จากกลุ่มเจ้าหนี้ของ FPT ในราคาส่วนลด 57% ทำให้บริษัทมีฐานะเป็นเจ้าหนี้FBT คิดเป็น 95%ของมูลหนี้ทั้งหมด ซึ่งบริษัทฯจะได้ประโยชน์จากการเข้าเป็นเจ้าหนี้FBT คือ บริษัทฯจะมีกระแสเงินสดเข้ามาเพิ่มขึ้นปีละ 100 กว่าล้านบาท จากการชำระหนี้ของFBT และลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักในการส่งน้ำมันทางท่อซึ่งบริษัทฯมั่นใจว่า FBTจะออกจากกระบวนการฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลางได้ในสิ้นปีนี้ และมีฐานะการเงินเข้มแข็งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเล็งเห็นโอกาสที่FBTจะขยายการลงทุนท่อส่งน้ำมันไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอนาคตตามนโยบายของภาครัฐได้ หากมีการเชื่อมต่อท่อขนส่งน้ำมันกับแทปไลน์ที่จุดเชียงรากน้อย ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีรายได้จากการให้บริการน้ำมันทางท่อเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมา FBT มีภาระหนี้สินสูงมาก ทำให้ไม่ได้รับการพูดถึงในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางท่อน้ำมันไปยังภาคเหนือและอีสานหลังเหตุการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพฯทำให้การขนส่งน้ำมันทางบกเป็นไปได้ลำบาก ซึ่งต้นทุนการขนส่งน้ำมันทางท่อก็ต่ำกว่าการขนส่งทางรถอยู่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทฯได้ซื้อหนี้FBTจากเจ้าหนี้สถาบันการเงินคิดเป็นจำนวนยอดภาระหนี้คงเหลือประมาณ 1,717 ล้านบาท ในราคาประมาณ 738 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนลดเฉลี่ย 57 % ของยอดภาระหนี้คงเหลือ รวมทั้งซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์คิดเป็น 32.33% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ทำให้ปัจจุบันBAFS มีสัดส่วนการถือหุ้นใน FPT จากจำนวน 16.67 %เป็นจำนวน 49 %ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
นายฉัตรธัย พันธัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพจำกัด (มหาชน) กล่าวในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 60 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาระบบเครื่องปั่นไฟที่สนามบินสุวรรณภูมิ 30 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการซ่อมบำรุงตามปกติ
นอกจากนี้ บริษัทยังไม่มีแผนการปรับขึ้นค่าบริการเติมน้ำมัน รวมถึงไม่มีแผนปรับโครงสร้างทางการเงินเพราะต้นทุนทางการเงินอยู่ในระดับที่น่าพอใจอยู่แล้ว
“บริษัทฯมั่นใจว่าเป้าหมายการเติมน้ำมันอากาศยานปีนี้โตแน่ 3.8% หลังจากปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานในช่วงม.ค.-ก.พ.55 อยู่ที่ 809 ล้านลิตร สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.8 % จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าจะไม่เติบโต และปัญหาเศรษฐกิจโลกไม่ได้กระทบมาก เพราะภูมิภาคเอเชียเติบโตดีมาก ทำให้มีจำนวนเที่ยวบินมาก ขณะที่เที่ยวบินจากยุโรปก็ไม่ได้ร้ายแรงกว่าที่เป็นอยู่ และสหรัฐฯเองก็เริ่มฟื้นตัว”นายฉัตรธัย กล่าว