xs
xsm
sm
md
lg

“ค้อนปลอม” จัดให้! มติเห็นชอบเลื่อนปรองดองถกวาระแรกพรุ่งนี้ “วรงค์” สุดแม่นปาแฟ้มโดนหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มติที่ประชุม 35 กมธ.สภา เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ไม่เกี่ยวข้องกฎหมายการเงิน 22 ต่อ 1 เสียง ด้าน “บัง-เต้น-สามารถ” ประสานเสียงเว้นแค่โทษความขัดแย้งทางการเมือง อ้างบางคดีนำกลับมาขึ้นศาลใหม่ได้ ด้าน “ค้อนปลอม” โร่ขึ้นนั่งแท่นประธานโหวตทันควัน ก่อนมีมติเห็นชอบเลื่อนวาระมาเป็นอันดับแรก 272 ต่อ 2 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 1 นัดประชุมต่อพรุ่งนี้ 9 โมงครึ่ง “หมอวรงค์” สุดฉุนปาแฟ้มใส่

วันนี้ (31 พ.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมร่วมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติของประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร 35 คณะ มีมติเห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 4 ฉบับไม่เกี่ยวข้องกฎหมายการเงินด้วยเสียง 22 ต่อ 1 โดยนายเชน เทือกสุบรรณ เป็นหนึ่งเสียงที่ไม่เห็นด้วย ประธานสภาฯ จึงสั่งปิดการประชุมที่ดำเนินมาถึง 5 ชั่วโมง ขณะที่บรรยากาศก่อนหน้านี้เป็นไปด้วยความตึงเครียด โดยประธานกรรมาธิการจากฝั่งฝ่ายค้านติดใจในมาตรา 5 ว่าจะเป็นกฎหมายที่ล้มคดีความทั้งหมดเกี่ยวกับผลพวงจากการรัฐประหารตามคำสั่งของ คปค. โดยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งให้นางบุษกร อำพรประภา ผู้อำนวยการสำนักการเป็นผู้ชี้แจงว่า ร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 4 ฉบับไม่มีบทบัญญัติใดให้คืนเงินหรือจ่ายเงินให้ใคร โดยเฉพาะคดียึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นเงินของแผ่นดินแล้ว ซึ่งการฟ้องร้องจะไม่ครอบคลุมการฟ้องร้องรัฐแต่เป็นเรื่องบุคคลต่อบุคคล

ขณะที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายสามารถ แก้วมีชัย ผู้นำเสนอร่างยืนยันว่าร่างดังกล่าวไม่เกี่ยวกับกฎหมายการเงิน และจะเป็นยกเว้นโทษดำเนินคดีจากความขัดแย้งทางการเมืองเท่านั้น ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าจะไปยกเลิกคดีความที่ตัดสินโดยศาลนั้น ตามมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.ปรองดอง ยืนยันว่าบางคดีความสามารถนำกลับมาสู่กระบวนการยุติธรรมได้ โดยประธานกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทยพยายามเสนอให้มีการปิดการประชุม จึงเกิดการโต้เถียงกันในระหว่างการประชุม แต่ทั้งนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีน้ำเสียงที่แข็งกร้าว ในขณะที่ประธานกรรมาธิการในฝั่งพรรคประชาธิปัตย์พยายามโต้แย้งว่า ฝ่ายนิติกร ผอ.สำนักการประชุม ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย ที่จะมาชี้ขาดว่า พ.ร.บ.นี้เกี่ยวกับการเงิน พร้อมย้ำการชี้แจงของผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.และประธานกรรมาธิการเพียงพอแล้วว่าไม่เกี่ยวกับกฎหมายการเงิน โดยก่อนการปิดประชุม ประธานกรรมาธิการพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ พล.อ.สนธิยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะไม่คืนเงินให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดย พล.อ.สนธิยืนยันว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการเงิน

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ในการลงมติครั้งนี้ทางตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ได้วอล์กเอาต์ออกจากที่ประชุมโดยไม่ร่วมลงมติแต่อย่างใด

จากนั้นเมื่อเวลา 17.00 น. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขึ้นทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้เรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อหลังจากที่พักการประชุมตั้งแต่ในช่วงเช้าเพื่อรอผลจากที่ประชุมประธานกรรมาธิการทั้ง 35 คณะ โดยนายสมศักดิ์ได้เสนอที่ประชุมให้มีการลงมติเลื่อนวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ขึ้นมาเป็นอันดับแรก ตามที่ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอ ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างมาก โดยบางส่วนได้เข้ามาล้อมกรอบบัลลังก์ของประธาน ในขณะที่การลงมติดำเนินต่อไปท่ามกลางความวุ่นวาย และมีการสรุปตัวเลขในเวลาไม่กี่วินาที ผลปรากฏว่ามีตัวเลขจำนวนผู้เข้าประชุม 276 เสียง เห็นด้วย 272 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการลงมติได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น โดยส.ส.ฝ่ายค้านได้ปากระดาษใส่ประธานสภา รวมทั้ง น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้โยนแฟ้มเอกสารใส่นายสมศักดิ์ ท่ามกลางตำรวจคุ้มกันกว่า 15 นาย ขณะที่นายสมศักดิ์ก็ได้ประกาศสั่งปิดการประชุมในวันนี้ และนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (1 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. ก่อนที่จะได้เดินออกจากห้องประชุม และขึ้นรถออกจากรัฐสภาไป







กำลังโหลดความคิดเห็น