การชุมนุมของกลุ่มคนพันธมิตรได้ผ่านไปเป็นวันที่สอง ซึ่งยังคงยืนยันจุดเดิมเพื่อร่วมต่อต้าน พ.ร.บ.ปรองดองจอมปลอมของคนขายชาติ ท่ามกลางเสียงเชียร์และแผ่นป้ายบอกความจำนงถึงการคัดค้านกฎหมายฉบับนี้อย่างสุดฤทธิ์ และคึกคักไม่น้อยไปกว่าวันแรก รวมถึงกลุ่มคนบนโซเซียลเน็ตเวิร์กที่คอยส่งกำลังใจผ่านออนไลน์ไปให้อย่างไม่หยุดหย่อน แม้ฝนจะตก...ฟ้าจะร้องคนรักชาติก็ไม่ถอย
"บังเละ" ขายถั่ว
ทันทีที่ "บิ๊กบัง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน" ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ... (พ.ร.บ.ปรองดอง) ต่อสภาผู้แทนราษฎร แม้จะอ้างว่า "กฎหมายนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผม ผมแค่อยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข" แต่แล้วก็มีเสียงวิพากย์อย่างเนืองแน่น ทั้งฟากฝั่งพันธมิตรที่ไปร่วมต้าน พ.ร.บ.ปรองดองจอมปลอม และคนบนโลกออนไลน์ จนตอนนี้กลายเป็น “บังเละ” ที่หลายคนพูดถึงไปเสียแล้ว
ถึงบังเละ “ขายถั่วยังมีศักดิ์ศรีกว่าขายชาติ” กลับไปขายถั่วไป๊!!!
เห็นป้ายเขียนข้อความนี้แล้วเจ็บปวดใจแทนชายชาติทหาร ที่เคยให้สัตยาบรรณว่า “จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง...” ตอนนี้คำว่าศักดิ์ศรีก็เก็บไว้กับตัวไม่ได้เสียแล้ว
“เป็นทหารแต่เพียงชื่อหรอวิญญาณนั้นขายให้นายทุน ศักดิ์ศรีทหารไทยหมดสิ้นแล้ว เงินซื้อได้ทุกสิ่งจริงๆ”
“บังเละ..หมอไม่รับเย็บแน่นอน..ทำตัวเอง จากวีรบุรุษ กลายเป็น สัตว์พันธุ์อะไรก็ไม่รู้ ประเภทลิ้นสองแฉก...”
“ไม่รู้จักหรือไง คนนี้แหละชายชาติทหารที่ชอบเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า” ต่อด้วยคำสบถตบท้าย “โดนใจจัง เขียนรัฐธรรมนูนด้วยมือ ลบด้วยทีน”
“เจอบังเละ ต้องสมนาคุณให้เละ”
“ทำไมจึงเสนอออก พ.ร.บ. "ปรองดอง" มันไม่ใช่ปรองดอง แต่มันเป็น "พ.ร.บ.ยกโทษให้นักโทษที่ศาลตัดสินแล้ว" คนที่ทำให้คนไทยและประเทศไทยวุ่นวายจะฆ่ากันตาย คือ สนธิ บุณยรัตกลิน”
ปรองดองจอมปลอม
การที่คนในชาติจะปรองดองกันได้ ย่อมเป็นสิ่งที่ดี แต่การสร้างกฎหมายมาเพื่ออ้างถึงความปรองดองให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมนั้น ดูเหมือนจะ “จอมปลอม” เสียมากกว่า ถ้าสิ่งนั้นใช้เพื่อเป็นสะพานเปิดทางให้คนขายชาติได้กลับเข้าประเทศ หรือแค่เอื้อประโยชน์ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ไม่แคล้วที่กลุ่มคัดค้าน พ.ร.บ.ปรองดองจอมปลอมจะออกมาลงความเห็นทักท้วงถึงความเป็นมาของกฎหมายดังกล่าว ถ้าใสสะอาดจริงคนบนโลกออนไลน์และคนที่ถือป้ายต่อต้าน คงไม่จำเป็นต้องออกมาพูดให้เหนื่อย และพิมพ์ให้เมื่อยเปล่าๆ
“ไม่เอา พ.ร.บ.ฉบับหน้าด้าน”
“พ.ร.บ.สิ้นคิดเราไม่เป็นมิตรกับโจร”
“นี้มันข่มขืน ไม่ใช่ปรองดอง”
“หยุดกฎหมายปรองดอง อัปรีย์!”
“ปรองดองไม่ล้างผิด ไม่มีสิทธิหนีกฎหมาย หนีชั่วจนตัวตายก็ไม่วายติดโทษทัณฑ์”
นี่เป็นข้อความที่เขียนและพิมพ์ลงบนแผ่นป้ายต่างๆ ของผู้ร่วมคัดค้านที่แสดงถึงความไม่เห็นด้วยกับกฎหมายจอมปลอม
ส่วนคนบนโลกออนไลน์ก็ต่างลงความคิดเห็นถึง พ.ร.บ. ปรองดอง ฉบับนี้ว่า “กด Like ให้พันธมิตรและทุกท่านที่มีหัวใจรักชาติ กด Delete พ.ร.บ. ปรองดอง วัตถุประสงค์เพื่อการฟอกเงิน”
“ขอต้ังชื่อ กฎหมายสัตว์เลื้อยคลาน เพื่อสัตว์นรก”
รวมถึงภาพล้อเลียนผีอีแพง ที่มีรูปหน้าเป็นทักษิณ ก็เรียกเสียงฮาได้ทันยุคทันเหตุการณ์จริงๆ พร้อมข้อความข้างรูป “หยุด พ.ร.บ.ปรองดองเพื่อทักษิณ”
สารพัดคำด่า
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายความคิดเห็นที่แสดงต่อสาธารณชน ของกลุ่มผู้มาคัดค้านพร้อมป้ายบ่งบอกเจตนาอย่างชัดเจน
“ไม่ต้องรักกูให้เหมือนญาติ แค่รักชาติให้เหมือนกู”
“สังคม การเมืองไทยวิปริต เพราะคนทำผิดยังเอาอยู่”
“ทำดี สวรรค์ SURE ทำชั่ว นรกแน่ !”
ตามด้วยข้อความสบถแบบจัดหนักซึ่งเจาะจงชื่อคนถูกด่าไว้อย่างชัดเจน “กูมันแก๊งข้างถนน หนักหัวพ่อมึงเหรอ.! กูไม่รักไอ้ทักษิณ พ่อแม่มึงจะตายมั้ย.!”
“แม้ว! มึงกลับมา ตาย!”
“อยากให้ทักษิณกลับมาติดคุก”
“ไม่ชั่ว ไม่เห้จริง ไม่ใช่ทักษิณโว้ย”
ตบท้ายด้วยความเห็นที่ทำให้เราหยุดคิดกันบ้าง ระหว่างเรื่องเงิน และชาติบ้านเมือง คุณจะเลือกอะไร?
“เงินสามารถทำให้คนขายชาติ ขายแผ่นดิน ขายอุดมการณ์ ทำให้คนหูหนวกตาบอดโดนล้างสมอง แต่เงินจะไม่มีวันทำให้จิตวิญญาณที่รักชาติรักแผ่นดิน หวงแหนสถาบัน ของเราต้องแปรเปลี่ยนไป”
หลากหลายความเห็นทางการเมืองที่หลายคนทำได้แค่เฝ้าหวังว่าจะสะกิดใจนักการเมืองดีๆ บ้าง ถึงจะมีน้อยก็ตามที แต่ก็ดีกว่าไม่ออกมาทำอะไร และปล่อยให้คนชั่วกัดกินบ้านเมือง และแม้ว่าจะเป็นแค่เสียงเล็กๆ แต่ถ้าหลายๆ เสียงรวมกัน ย่อมเกิดเป็นพลังให้เราสู้ต่อไป เพื่อตั้งตารอฟ้าใหม่ที่สดใสกว่าในวันหน้า
