ประธานวิปค้าน โอ่ประชาธิปัตย์ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว แก้ รธน.วาระ 2 ชู กมธ.ยอมแก้ใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว.เลือก ส.ส.ร.แทน รับห่วงเลือกภาควิชาการ 22 คนส่อบล็อกโหวตตามใจรัฐ สับไม่ห้ามลงเล่นการเมือง 5 ปี ส่อต่างตอบแทนใบสั่งชัด แนะชาวบ้านติดตาม เผยประชุมร่าง พ.ร.บ.งบฯ จ่ายปี 56 เริ่ม 21-23 พ.ค.นี้ แย้มใช้ 40 ส.ส.ซัก ชี้จัดสรรส่อการเมืองกินรวบกระทรวงเพื่อไทยคุมงบเพิ่มเพียบ แต่พรรคร่วมลด
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม 15 วันที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศอย่างเต็มที่ แต่มีเพียงประเด็นเดียวที่กรรมาธิการเสียงข้างมากและรัฐบาลยอมแก้ตาม คือ เปลี่ยนกฎหมายจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร.จากกฎหมายท้องถิ่นมาเป็นกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.จึงมีอีก 5 ประเด็นสำคัญที่ฝ่ายค้านเป็นห่วง ได้แก่ 1. การเลือก ส.ส.ร.จากภาควิชาการ 22 คน 2. ให้อำนาจประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นคนของรัฐบาลเป็นผู้กำหนดองค์กรที่จะส่งชื่อ ถือเป็นการล็อกชั้นที่ 1 การล็อกชั้นที่ 2 คือ ให้สมาชิกแต่ละคนลงคะแนนเลือกได้ 22 คน อาจมีการบล็อกโหวตให้เป็นไปตามที่รัฐบาลชี้ว่าจะเลือกใคร รวมถึงการให้อำนาจประธานรัฐสภาเป็นผู้วินิจฉัยว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขัดต่อหลักการปกครองบ้านเมืองในระบอบประชาธิปัตย์ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือไม่
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า 3. เมื่อยกร่างแล้วแทนที่จะนำเข้าสู่รัฐสภาก่อนกลับไปทำประชามติเลย คงกลัวจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ หรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาอันไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลประสงค์ 4. การไม่กล้ากำหนดห้าม ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญจะไปเกี่ยวข้องกับการล้มคดีความที่ได้มีการตัดสินหรือพิพากษาไปแล้วถือว่ามีเจตนาซ่อนเร้น เพื่อจะเอื้อประโยชย์ให้ใครคนใดคนหนึ่ง 5. การไม่ห้าม ส.ส.ร. เล่นการเมืองเป็นเวลา 5 ปีหลังกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นอาจมีเจตนาต่างตอบแทนกัน เพื่อจะให้ ส.ส.ร.เขียนตามใบสั่ง จึงขอให้ประชาชนติดตามการเลือกตั้งหรือการสรรหา ส.ส.ร.ว่าจะมีการบล็อกโหวตหรือล็อกสเปกกันหรือไม่ รวมถึงเนื้อหาการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเปิดทางเพื่อล้มคดีให้ใครหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากการหารือได้ข้อตกลงร่วมกันกับวิปรัฐบาลจะมีการลงมติในวาระ 3 ในวันที่ 5 มิ.ย.
ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวถึงการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ด้วยว่า จากการตกลงเบื้องต้นกับวิปรัฐบาลจะมีการพิจารณารายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 เป็นเวลา 3 วันคือวันที่ 21-23 พ.ค. โดยให้เวลาฝ่ายละ 13 ชั่วโมงไม่รวมเวลาประท้วง ซึ่งในส่วนของพรรคฝ่ายค้านจะแบ่งเวลาให้กับพรรคภูมิใจไทย รักประเทศไทย มาตุภูมิ และพรรคที่มี ส.ส.อยู่ในสภา โดยมีจะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายประมาณ 40 คน มุ่งเน้นไปที่เนื้อหาภาพรวมการจัดงบรายจ่าย ประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ รวมถึงความไม่ชอบมาพากลต่างๆ โดยจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ 63 คน แบ่งเป็นพรรคสัดส่วนครม.15 คน พรรคเพื่อไทย 26 คน ประชาธิปัตย์ 15 ภูมิใจไทย 3 ชาติไทยพัฒนา 2 ชาติพัฒนา 1 พลังชล 1 และพรรคเล็ก 1 ซึ่งในวันนี้ได้เชิญสำนักงบประมาณมาชี้แจง
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า โดยมีข้อสังเกต คือ ภาพรวมในการจัดงบประมาณแต่ละกระทรวงเป็นการจัดงบแบบการเมืองกินรวบ โดยเฉพาะกระทรวงที่พรรคเพื่อไทยดูแล ส่วนใหญ่จะได้รับการปรับงบประมาณเพิ่มขึ้น อาทิ กระทรวงแรงงาน เพิ่มขึ้น 131.9 เปอร์เซ็นต์ กระทรวงไอซีที 108.6 เปอร์เซ็นต์ กระทรวงคมนาคม 4 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สำนักนายกฯ ปรับเพิ่ม 14.7 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะงบฉุกเฉินที่นายกฯ มีอำนาจสั่งจ่ายได้เลย หรือที่เรียกว่างบผีปรับเพิ่ม 11.67 เปอร์เซ็นต์จากเดิม 6.7 หมื่นล้านบาทเป็น 7.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่กระทรวงที่พรรคร่วมรัฐบาลดูแล อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ถูกปรับลด 10.5 เปอร์เซ็นต์ กระทรวงเกษตรฯ ปรับลด 4.8 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่มีปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ อย่างงบน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาทเพิ่งใช้ไปได้เพียง 5.4 หมื่นล้านบาท ยังไม่ถึงครึ่ง หรือเงินที่ได้จาก พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ครม.เพิ่งอนุมัติใช้งบไป 2.6 หมื่นล้านบาท แสดงถึงการใช้จ่ายงบประมาณที่มีปัญหา ดังนั้น ถ้างบประมาณปี 56 ยังมีประสิทธิภาพเพียงเท่านี้จะกระทบต่อประโยชน์ประชาชนแน่นอน