xs
xsm
sm
md
lg

พท.เตรียมยื่น DSI สอบ กทม.ต่อสัญญา BTS ส่อผิดพ.ร.บ.ฮั้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร (แฟ้มภาพ)
เพื่อไทย โวย กทม. ใช้เทคนิคต่อสัญญาให้ BTS โดยใช้ "กรุงเทพธนาคม" บริษัทลูกของ กทม.เป็นนอมินี ส่อผิด พ.ร.บ.ฮั้ว เตรียมยื่น ดีเอสไอ ตรวจสอบ

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กรุงเทพมหานครต่อสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าBTSอย่างรีบเร่ง ว่า กรุงเทพมหานครใช้วิธีการหลบเลี่ยงสัญญา และใช้เทคนิคต่อสัญญาให้ BTS โดยมีบริษัทกรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ กทม. เป็นนอมินี ซึ่งอาจผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว) พ.ศ.2542 มาตรา 4 ที่อาจทำให้กรุงเทพมหานคร เสียผลประโยชน์และคนกรุงเทพอาจจะใช้รถไฟฟ้าในราคาแพง

นายยุทธพงศ์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า กรุงเทพมหานครได้ปิดกั้นไม่ให้บริษัทอื่นๆ มาร่วมประมูลรับช่วงการเดินรถไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทอื่นๆไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้ เพราะ BTSC ยังมีสัญญาถึงปี 2572 แต่กรุงเทพมหานครใช้บริษัทกรุงเทพธนาคมในการหลบเลี่ยงกฎหมายเพื่อให้ BTSC สามารถบริหารงานต่อไปอีก 13 ปีจนถึงปี 2585 และถ้า กรุงเทพมหานครให้มีการประมูลสัมปทานเดินรถใหม่ อำนาจการต่อรองของกรุงเทพมหานครก็จะมีมาก เพราะเมื่อถึงปี 2572 ระบบสัมปทานทั้งหมดจะตกเป็นของกรุงเทพมหานคร ซึ่งหลังจากนั้นกรุงเทพฯจะเปิดประมูลจะทำให้ กทม. มีต้นทุนที่ถูกลง แพราะสามารถกำหนดค่าโดยสารได้เอง

ส่วนการที่กรุงเทพมหานครอ้างว่า รัฐบาลจะฮุบรถไฟฟ้าจากรุงเทพมหานครนั้น นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะกรุงเทพมหานครยังมีสัญญากับ BTSC อีก 17 ปี ซึ่งรัฐบาลอาจเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องได้ จึงยืนยันว่ารัฐบาลไม่สามารถฮุบกิจการได้อยู่แล้ว

นายยุทธพงศ์ ตั้งข้อสังเกตต่อว่า การให้ BTS รับช่วงการเดินรถจากกรุงเทพธนาคมไปอีก 30 ปี จะเห็นได้ว่า BTS มีส่วนแบ่งรายได้ 190,000 ล้านบาทคณะที่กรุงเทพมหานครได้เพียง 110,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่กรุงเทพมหานครลงทุนส่วนต่อขยาย 3 ช่วง โดย BTS ไม่ได้ออกเงินแต่อย่างใด แต่กลับมีส่วนแบ่งมากกว่า กทม.ถึง 80,000 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่า กรุงเทพมหานครมีการวางแผนอย่างแยบยล โดยออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ถึง 6 ฉบับ เพื่อให้สามารถทำงานนี้ได้สำเร็จ ซึ่งจากการตรวจสอบบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ที่รับสัญญาเดินรถจาก กทม. แล้วมาจ้าง BTSC อีกหนึ่งต่อ พบว่ามีประธานกรรมการชื่อ รศ.ประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นญาติของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อีกด้วย

นายยุทธพงศ์ ยังกล่าวว่า หากกรุงเทพมหานครยังเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป ตนจะนำเรื่องความไม่ชอบมาพากลมาเปิดเผยต่อไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะฟ้องประชาชนว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครภายใต้พรรคประชาธิบัตร บริหารงานกันอย่างไร

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการจัดสัมมนาวิชาการเรื่องการต่อสัญญาโดยมิชอบของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนรู้ว่ามีความไม่ชอบมาพากลอย่างไร

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.) ตนจะนำข้อมูลสัญญาของกรุงเทพมหานคร และข้อมูลของคณะทำงานตรวจสอบรถไฟฟ้า BTS ของพรรคเพื่อไทย ไปยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI เนื่องจากอาจเข้าข่ายความผิด กฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว) พ.ศ.2542 มาตรา 4
กำลังโหลดความคิดเห็น