“ประยุทธ์” ชี้โอไอซีลงใต้หาข้อมูลเพิ่ม สั่ง ทภ.4 แจง ย้ำทหารไม่ได้เริ่มก่อน

ผบ.ทบ.เผยรัฐบาลโยน กต.ดูโอไอซีลงพื้นที่ชายแดนใต้หารายละเอียดเพิ่ม สั่งทัพภาค 4 จัดเจ้าหน้าที่ร่วมแจงการปฏิบัติงาน ย้ำทหารไม่ได้เริ่มความรุนแรง รับการรักษาความปลอดภัยยังไม่สำเร็จ 100% พร้อมเพิ่มมาตรการแก้ ระบุรัฐพูดดับใน 3 ปี แค่ความหวัง ลั่นไม่ต้องปรับยุทธศาสตร์แล้ว พร้อมรื้อฟื้นสร้างงาน สร้างอาชีพ

วันนี้ (3 พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โอไอซีจะขอลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เป็นเรื่องของโอไอซีที่เขาจะเข้ามาหาข้อมูลเพิ่ม ซึ่งทางรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) รับผิดชอบว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งตนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาภายในของเรา สามารถแก้เองได้ เพียงแต่จะแก้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็วอย่างไร เพราะมีการบาดเจ็บสูญเสียเป็นจำนวนมากและทุกวัน ซึ่งทางโอไอซีก็ต้องการที่จะมาหารายละเอียดเพิ่มเติม เพราะทุกปีจะมีการนำเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าไปในที่ประชุมโอไอซี และอาจไม่ตรงข้อเท็จจริง จึงถือโอกาสเดินทางเข้ามาดูในพื้นที่เองว่าสถานการณ์จริงเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เราไม่ได้มีอะไรปิดบัง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนได้สั่งกำชับไปยังกองทัพภาคที่ 4 จัดเจ้าหน้าที่ไปร่วมในการชี้แจงถึงข้อเท็จจริงในการปฏิบัติงานกับโอไอซี รวมถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เราต้องบอกเขาให้หมด แต่ต้องย้ำเพียงอย่างเดียวว่าเราไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้นในการใช้ความรุนแรง เพราะนี่คือประเด็นที่สำคัญ เพราะข้อที่จะเข้าไปสู่การพิจารณาโอไอซี คือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในแต่ละศาสนา แต่ขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามเขาทำกับคนทุกพวก ซึ่งเป็นในลักษณะของโจรใจร้าย และเขาไม่ยอมรับกติกาใดๆ ทั้งสิ้น เหมือนกับเขาพยายามรักษาจุดร่วมสงวนจุดต่างในการทำให้เกิดความวุ่นวายต่อไปเรื่อยๆ

เมื่อถามว่าโอไอซีสามารถลงไปดูพื้นที่จุดใดในภาคใต้ได้บ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 เตรียมไว้แล้วถ้าหากต้องลง แต่ถ้าไม่ลงพื้นที่ได้เป็นเรื่องดี แต่เราสามารถนำเสนอได้ทุกพื้นที่ รวมถึงข้อมูลภาพถ่ายคนที่อยู่ในพื้นที่ที่จะเข้ามาชี้แจง ในส่วนของประชาชนก็มีคนที่เข้าใจและสามารถชี้แจงได้เช่นกัน เมื่อถามว่า หากเราชี้แจงข้อสงสัยของโอไอซีได้ ในอนาคตเราจะไม่ถูกจับตามองอีกใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับโอไอซีเพราะเขามีกติกาว่าเกี่ยวข้องกับศาสนา เผ่าพันธุ์หรือไม่ หากไม่เกี่ยวเขาก็ปล่อยให้ประเทศนั้นแก้ไขกันไป

“ทุกวันนี้ทหารเสี่ยงและตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้ก่อเหตุใช้ความรุนแรง ใช้อาวุธ วางระเบิด และเจ้าหน้าที่ก็ต้องป้องกันตัวเอง นี่คืออันตรายเพราะมันคาบเกี่ยวในเรื่องการใช้ความรุนแรงและปฏิบัติตามกฎหมาย เส้นแบ่งใกล้ชิดกันมาก ถึงแม้จะมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่รุนแรงลงพื้นที่ แต่ผมไม่เคยใช้ความรุนแรง และที่สำคัญเขาพยายามสร้างความกังวลให้เกิดขึ้นกับเรา ทั้งความปลอดภัยของประชาชน ครู โรงเรียน สถานที่ราชการ ทำให้เราต้องแบกภาระนี้ไว้ตลอด ถึงแม้พวกเราบางส่วนจะอยู่กรุงเทพฯ แต่จิตใจเราไม่เคยห่างจากใต้ทุกวันทุกคืน สิ่งหนึ่งที่เรายังทำไม่สำเร็จในตอนนี้ก็คือ การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ยังไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ จะตายหรือเจ็บแม้แต่คนเดียวผมก็รับไม่ได้ ซึ่งได้สั่งการเพิ่มเติมกับกองทัพภาคที่ 4 ให้เพิ่มมาตรการทุกอย่างในการคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สำหรับกรณีที่รัฐบาลประกาศจะดับไฟใต้ภายใน 3 ปีนั้น เป็นการตั้งความหวังเอาไว้ ถ้าไม่ตั้งเราก็ไม่มีจุดมุ่งหมาย เพราะการทำงานต้องมุ่งผลสัมฤทธิ์ ต้องมีการกำหนด โดยปีแรกจะต้องไม่ให้มีการบาดเจ็บและสูญเสียของประชาชนให้ได้ก่อน และเรื่องอื่นๆ จะตามมา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ปัญหาภาคใต้ไม่จำเป็นต้องมาแก้ยุทธศาสตร์กันอีกแล้ว รวมถึงแผนการปฏิบัติงานเพราะทุกอย่างรวมอยู่ในแผนงานด้านความมั่นคงและการพัฒนาชีวิต เพียงแต่ต้องให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานให้เต็มที่ และให้สอดคล้องกับงานด้านความมั่นคง ซึ่งในส่วนของกองทัพบกได้ฝึกประชาชนในโครงการทำดีมีอาชีพ ซึ่งตนได้เรียนไปยังรัฐบาลให้กลับมาดูแลคนพวกนี้ ทำอย่างไรเขาจึงมีอาชีพ เราเอาเขามาฝึกแต่พอลงไปในพื้นที่กลับไม่มีงานทำ ตนจึงให้มีการจัดตั้งชมรมทำดีมีอาชีพไปก่อนและนำงบประมาณที่มีอยู่บางส่วนของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) มาใช้ และเราต้องรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่อีก