ผบ.ทบ. รับงานด้านความมั่นคงของประเทศยังไม่ปลอดภัย 100 % กระทุ้งกำลังพลยกมาตรฐาน เร่งพัฒนาคุณภาพ รอบรู้ ทันสมัย คิดเร็วทำเร็ว ปรับตัวให้ทันก่อนเข้าสู่ “ประชาคมอาเซียน” ปลุกจิตสำนึกเป็นทหารของแผ่นดินและประชาชน ชี้เพื่ออนาคตของกองทัพอยากเห็นทหารแบบหมวกเบเรต์-ซีล แย้มเตรียมประเมินผลงาน ผู้บังคับบัญชา-ผู้บังคับหน่วย
วันที่ 23เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานเปิดงาน พิธีประกาศปีแห่งการพัฒนาบุคลากรกองทัพบก ปี 2555 ว่า อยากให้กำลังพลปรับปรุง พัฒนา ให้ทันยุคสมัยและยั้งยืน มีประโยชน์ต่อสังคมโดยร่วม เป็นที่พึ่งกับประชาชนได้ทุกโอกาส มีความจงรักภักดี ตนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในทุกๆหน่วย ทุกเหล่า ต้องเป็นทหารมืออาชีพ มีความรู้ในหน้าที่ รอบรู้ ตนต้องการให้กำลังพลมีประสิทธิภาพและคิดให้เกิน 100 % มีความตั้งใจ เพราะอาจจะถูกบั่นทอนด้วยสิ่งแวดล้อม ข้อจำกัดต่างๆ การพัฒนาจึงต้องเริ่มที่คนก่อน การจะเป็นทหารอาชีพนั้นนอกจากจะรู้งานในหน้าที่แล้ว ต้องรู้งานของคนอื่นด้วย แต่ไม่ใช่รู้เพื่อไปก้าวก่าย แต่ให้รู้เพื่อจะช่วยเหลือเขาอย่างไร และสามารถคุยกับเขาได้รู้เรื่อง ในทุกระทรวง ทบวง กรม เพราะวันนี้ทหารเกี่ยวข้องหลายส่วนด้วยกัน ทั้ง กอ.รมน. การช่วยเหลือภัยพิบัติ การรักษาป่าไม้ ต้องรู้จักเสนอแนะ พูดคุยในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทหารมีระเบียบวินัย ข้อบังคับ กฎกติกา ไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ทำ อยากจะถืออาวุธไปไหนก็ไป อยากจะใช้อาวุธกับใครก็ได้ ซึ่งไม่ใช่ ดังนั้นนอกจากเราจะเรียนรู้คนอื่น ต้องให้คนอื่นเรียนรู้เราด้วย ให้รู้จักว่าทหารคืออะไร สิ่งที่ตนสร้างในวันนี้เพื่อให้กำลังพลสามารถไปเผชิญหน้ากับสังคมภายนอกด้วยความมั่นใจ ภาคภูมิใจ ต้องคิดให้รอบคอบทุกเรื่อง มีเหตุมีผล รวมถึงความรู้ในความทันสมัยต่อสิ่งต่างๆที่จะเข้ามา ปี 2558 เราก็จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน กฎหมาย กติกา บางอย่างก็ต้องยกเลิก มีการเข้าออกได้ง่ายขึ้น ทุกวันนี้ในเรื่องความมั่นคงและความปลอดภัยของเรายังไม่ 100 % ถ้าไม่รีบเตรียมความพร้อมภายใน 3 ปี เปิดประเทศเมื่อไหร่จะเดือดร้อน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต่อไปนี้ทุกหน่วยต้องมีหน่วยทหารที่มีความพิเศษ เข้มแข็ง เช่น ทหารหมวกเบเรต์ ทหารแบบซีล ที่มีความเข้มแข็ง อยากให้หน่วยคัดออกมาและดูแล เพราะคนพวกนี้จะเป็นอนาคตของกองทัพบก เพราะต่อไปอีก 5-10 ปีข้างหน้า หน่วยทหารก็ต้องเล็กลง และเพิ่มเทคโนโลยีทดแทน คนที่อยู่ในราชการก็จะไม่ถึง 60 ปี อาจจะแค่ 45-55 ปี ดังนั้นทุกหน่วยต้องมี หากตนไปเยี่ยมหน่วยไหนก็ต้องมีคนพวกนี้ มาแสดงถึงความเก่ง ความสามารถในการปฎิบัติงานในหน้าที่ได้ และต้องรู้ทุกเรื่อง และที่สำคัญเรื่องความจงรักภักดี ซึ่งเป็นสิ่งมงคล เคารพเทิดทูล เราเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นทหารของแผ่นดินและประชาชน และในฐานะที่ตนเป็นผู้นำกองทัพบก จะมีการประเมินหน่วยทหารทุกหน่วย ผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับหน่วยทุกระดับ โดยเริ่มจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อน
“ ผมอยากให้กำลังพลในกองทัพบก คิดให้เร็ว ทำให้เร็ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำเพื่อผมแต่เพื่อกองทัพ ผมไม่ได้ต้องการอำนาจหรือผลประโยชน์ หรืออะไรอีกแล้ว แต่สิ่งที่ต้องการคือให้กองทัพบกเดินไปข้างหน้าได้และพร้อมที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 และกองทัพบกน่าจะเป็นหน่วยงานแรกที่มีความพร้อม เพราะทุกวันนี้ก็พร้อมอยู่แล้วในการร่วมมือในอาเซียนทั้งหมด เนื่องจากมีผู้ช่วยทูตทหารอยู่ทุกประเทศ และมีการฝึกหัดพิเศษร่วมกัน การเยี่ยมเยียนระหว่างผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ซึ่งวันหน้าเราอาจจะเป็นแกนนำที่ต้องเชื่อมโยงต่างกับหน่วยงานอื่นด้วย เช่น กระทรวงต่างประเทศ ก็จะเข้ามาประสานกับกองทัพบก ว่าจะให้ความมั่นคงก้าวไปพร้อมกับนโยบายต่างประเทศอย่างไร “ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว