พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า การที่องค์การการประชุมอิสลาม หรือ โอไอซี (OIC) จะลงพื้นที่ภาคใต้ ทางทหารพร้อมส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ข้อมูลข้อเท็จจริง และปัญหาข้อผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่กับคณะโอไอศั และยืนยันว่า ไม่มีการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุโจมตีเจ้าหน้าที่ก่อน เป็นโจรใจร้าย ซึ่งเชื่อว่าทางโอไอซีจะเข้าใจ
ทั้งนี้ การทำหน้าที่ของโอไอซีต้องลงพื้นที่ต่างๆ เพื่อนำข้อมูลไปรายงานต่อที่ประชุมใหญ่ อีกทั้งมีกติกาและเงื่อนไข ส่วนเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งเป้าให้เห็นความคืบหน้าใน 3 ปีนั้น ก็เป็นความพยายามของรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่ ได้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ยังคงขาดการประสานงาน และการใช้อุปกรณ์และการขับเคลื่อนต่างๆ ซึ่งหลังจากนี้ กระทรวงต่างๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ต้องประสานงานใช้งบประมาณในโครงการต่างๆ ให้สอดคล้องกัน พร้อมเชื่อว่า ยุทธศาสตร์ภาพรวมการทำงานในภาคใต้มีทิศทางอยู่แล้ว อยู่ที่ความร่วมมือของทุกฝ่ายและประชาชนในพื้นที่
ส่วนกรณีที่นายพลนะคะมวย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองกำลังโกะทูบลอ ที่ขู่จะปิดด่านชายแดนไทย-พม่า ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 3 โดยเฉพาะกองกำลังนเรศวร ให้ดูแลความเรียบร้อยและทำความเข้าใจกับประชาชนพื้นที่บริเวณชายแดน ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 3 รายงานว่า สถานการณ์ขณะนี้เป็นปกติ แต่ต้องแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง พร้อมย้ำว่า กองทัพต้องดูแลประชาชนตามแนวชายแดนให้ปลอดภัย ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องยาเสพติด ต้องเป็นไปตามกฎหมาย การตอบโต้กันไปมาจะไม่ส่งผลดี
นอกจากนี้ เห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหา คือ ทำอย่างไรไม่ให้คนไทยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเฉพาะการเสพ ซึ่งถือว่าพรรครัฐบาลมุ่งเรื่องการปราบปรามยาเสพติดอยู่แล้ว
ทั้งนี้ การทำหน้าที่ของโอไอซีต้องลงพื้นที่ต่างๆ เพื่อนำข้อมูลไปรายงานต่อที่ประชุมใหญ่ อีกทั้งมีกติกาและเงื่อนไข ส่วนเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งเป้าให้เห็นความคืบหน้าใน 3 ปีนั้น ก็เป็นความพยายามของรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่ ได้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ยังคงขาดการประสานงาน และการใช้อุปกรณ์และการขับเคลื่อนต่างๆ ซึ่งหลังจากนี้ กระทรวงต่างๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ต้องประสานงานใช้งบประมาณในโครงการต่างๆ ให้สอดคล้องกัน พร้อมเชื่อว่า ยุทธศาสตร์ภาพรวมการทำงานในภาคใต้มีทิศทางอยู่แล้ว อยู่ที่ความร่วมมือของทุกฝ่ายและประชาชนในพื้นที่
ส่วนกรณีที่นายพลนะคะมวย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองกำลังโกะทูบลอ ที่ขู่จะปิดด่านชายแดนไทย-พม่า ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 3 โดยเฉพาะกองกำลังนเรศวร ให้ดูแลความเรียบร้อยและทำความเข้าใจกับประชาชนพื้นที่บริเวณชายแดน ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 3 รายงานว่า สถานการณ์ขณะนี้เป็นปกติ แต่ต้องแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวัง พร้อมย้ำว่า กองทัพต้องดูแลประชาชนตามแนวชายแดนให้ปลอดภัย ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องยาเสพติด ต้องเป็นไปตามกฎหมาย การตอบโต้กันไปมาจะไม่ส่งผลดี
นอกจากนี้ เห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหา คือ ทำอย่างไรไม่ให้คนไทยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเฉพาะการเสพ ซึ่งถือว่าพรรครัฐบาลมุ่งเรื่องการปราบปรามยาเสพติดอยู่แล้ว