“ทูตสุรพงษ์” แนะ “ฝ่ายค้าน-ภาคประชาชน” ต้องเคลื่อนไหวชัดเจนเพื่อต้านรัฐบาลช่วย “แม้ว” กลับไทย ชี้หากเงียบ ต่างชาติจะมองว่าคนไทยยอมรับแล้ว ส่งผลให้เปิดทาง “ทักษิณ” เข้าออกประเทศโน้นนี้อย่างสบาย เพื่อมาโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ พร้อมระบุสลายชุมนุมแดงไม่เข้าข่ายขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศได้ ทางกลับกันฆ่าตัดตอนยาเสพติดต่างหาก ชัดเจนว่าก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
วันที่ 2 พ.ค. นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต 5 ประเทศ กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปในหลายประเทศเพื่อหวังใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ เวลาพูดโลกล้อมประเทศอย่าตกใจว่าคือทุกประเทศในโลกนี้ จะมีก็แค่ประเทศที่มีผลประโยชน์ในไทย ถ้ามีส่วนได้ส่วนเสียแน่นอนเขาก็ย่อมที่จะดำเนินการทั้งในทางเปิดเผยและทางลับ เพื่อหาทางเข้ามามีอิทธิพลทั้งในทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้ทิศทางการเมืองไทยสอดคล้องไปกับผลประโยชน์ของเขา อันนี้เป็นเรื่องธรรมดา เราจะไปโทษประเทศที่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าไม่ได้ เพราะเขาก็ถือว่ารัฐบาลไทยซึ่งมาจากการเลือกตั้งไม่ได้คัดค้านอะไร
ถ้าไทยเป็นคู่กรณีสงครามกับอังกฤษ อังกฤษอาจจะต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างดี เพื่อให้ตังรัฐบาลพลัดถิ่น แต่นี่ไม่มีปัญหาบาดหมางกัน ไม่ได้มองว่าไทยเป็นศัตรู ไม่ว่ารัฐบาลใดขึ้นมา ก็เคารพในสิ่งที่ประชาชนเลือกมา ส่วนจะคอร์รัปชันโกงกิน ต่างชาติเขามองว่าไม่ใช่หน้าที่ ตอนประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล สามารถทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องออกจากอังกฤษ เพราะตอนนั้นประชาธิปัตย์ได้มีหนังสือไปทั่วโลกว่าคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณโดนจำคุก เป็นคดีอาญา ไม่ใช่คดีการเมือง การที่ประเทศเหล่านี้ยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ ไม่ใช่ตีความว่าเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ผิดแล้ว แต่เพราะรัฐบาลไทยไม่ขัดข้อง และไม่ได้หมายความว่าไม่มีความผิด แต่ถือว่าเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมในไทย ไม่ใช่เป็นประเด็นที่เขาต้องมาพิจารณา เขาไม่ได้พิจารณาบนพื้นฐานว่าไม่ผิด ที่สุดแล้วก็เป็นเรื่องของผลประโยชน์แต่ละประเทศ ประชาธิปัตย์ควรแสดงจุดยืน ออกเป็นแถลงการณ์ของพรรคว่ายังคงมีจุดยืนแบบเดิม
นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณพยายามเข้าอเมริกามานานแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้า ซึ่งหากทำได้ ทางจิตวิทยาการเมืองมีผลสูงมากสำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะสหรัฐฯ ถือเป็นหัวหน้าใหญ่สุดของประชาธิปไตย เขาต้องเอามาคุยแน่นอน อันนี้ก็จะมีผลต่อการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศด้วย ทั้งในเรื่องนิรโทษกรรม เรื่องปรองดอง
ฉะนั้น ถ้ากระบวนการภายในประเทศ ทั้งฝ่ายค้านและภาคประชาชนไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวกันเมื่อมีเหตุการณ์ เช่น เคลื่อนไหวแก้รัฐธรรมนูญ การตั้งสสร. ต้องอ่านสถานการณ์ให้ดี ถ้าไม่มีเลย ต่างชาติจะมองว่าคนในประเทศถอดใจกันหมดแล้ว ซึ่งสำคัญมาก เพราะรัฐบาลทุกประเทศจะมองว่าคนไทยนิ่งเงียบ ไม่มีปฏิกิริยา เท่ากับว่าคนไทยยอมรับแล้ว
ส่วนกรณีเสื้อแดงหวังใช้ธรรมนูญกรุงโรม หรือศาลอาญาระหว่างประเทศ เล่นงานคนที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมเสื้อแดงนั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่า การสลายการชุมนุมไม่เข้าข่ายเลย เนื่องจากศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) มีอำนาจพิจารณาเฉพาะ 4 คดี เท่านั้น คือ 1. ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 2. ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ 3. อาชญากรรมสงคราม 4. การกำจัดชาติพันธุ์
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติก็มีตีความแล้วว่าคือเป็นนโยบายของรัฏฐะ กำจัดฝ่ายที่มองว่าเป็นศัตรู อย่างเป็นระบบ โดยอาศัยเหตุผลทางด้านศาสนา ชาติพันธุ์ เผ่าพันธุ์
ในทางกลับกัน การฆ่าตัดตอนยาเสพติดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างหากที่เข้าข่าย เพราะรายงานของนายคณิต ณ นคร ลงความเห็นตอนท้ายว่า เป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ แต่โชคดี ประเทศไทยไม่ได้ลงสัตยาบัน จึงไม่ผูกมัดเรา แล้วคนที่ปฏิเสธในการให้สัตยาบันก็คือรัฐบาลไทยรักไทย โดยอ้างว่าอาจกระทบกับประมุขของรัฐ