ยะลา - รองนายกรัฐมนตรี-ผู้บัญชาการทหารบก ประชุมหน่วยงานแก้ปัญหาความไม่สงบ เผยคืบหน้าคาร์บอมบ์ 2 จังหวัด ส่วน ผบ.ทบ. ระบุยังไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะยังมีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบ
วันนี้ (19 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานีว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ในครั้งนี้ได้ลงมาประชุมเพื่อรับฟังสถานการณ์ในพื้นที่ รวมทั้งรับฟังสรุปสถานการณ์หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 31 มี.ค 55 ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปอย่างไรบ้าง แต่ละหน่วยได้ทำอะไรบ้างในช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และในอนาคตแนวโน้มของเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร
นอกจากนั้น ก็ได้มอบนโยบายให้มีความเข้มงวด ระวังป้องกันให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดพื้นที่เขตปลอดภัย หรือเซฟตี้โซนให้ประชาชน การตั้งด่าน การตรวจยานพาหนะ ขณะเดียวกัน ในการดำเนินการเชิงรุกก็ขอให้หน่วยใน กอ.รมน. ดำเนินการกดดัน และมีการปฎิบัติอย่างเดิมไม่ให้ลดหย่อนลง เพราะถ้าหากลดหย่อนลง ก็จะเกิดเหตุขึ้น โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุมักจะใช้ประชาชนเป็นเป้าหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ต้องหาวิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้ ส่วนด้านอื่นๆ ก็มีการพูดคุยในเรื่องการพัฒนา การอำนวยความเป็นธรรม การศึกษา รวมทั้งให้ทุกหน่วยได้เตรียมการเกี่ยวกับ คณะ OIC ที่จะเดินทางมาประชุมในประเทศไทย
รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ด้านกรณีเหตุการณ์ระเบิดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.55 นั้น ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานให้ทราบว่า มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยไปแล้ว และได้มีการสืบสวนสอบสวน โดยผู้ไม่เกี่ยวข้องก็ได้ปล่อยตัวไป ส่วนผู้เกี่ยวข้องมีหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินคดีต่อไป ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องสงสัย 3 คน ได้ปล่อยตัวไปแล้ว 2 คน
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อมาฟังผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ของ กอ.รมน.ในพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ทุกภาคส่วนให้ความสนใจในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้เร็วยิ่งขึ้น ตนเองในฐานะรอง ผอ.รมน. ก็ได้ลงพื้นที่มาเพื่อบูรณาการการทำงาน เพื่อให้ทุกส่วนขับเคลื่อนไปด้วยกัน การแก้ปัญหาภาคใต้ ไม่สามารถแก้ปัญหาในมิติเดียว ไม่ได้แก้ด้วยการใช้อาวุธเพียงอย่างเดียว จะต้องแก้ในหลายมิติ
ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบว่ากำลังสู้รบกับใครมาตลอด และก็มีการจับกุมมาโดยตลอด โดยใช้กฎหมายที่มีอยู่ รวมทั้งต้องระมัดระวังกฎหมายระหว่างประเทศด้วย ที่รู้ว่ามีการเคลื่อนไหวของขบวนการแยกดินแดน ที่เป็นภายในประเทศไม่ได้มีสากลเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ที่ผ่านมา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า วันนี้ก็มาปรับการแก้ปัญหาทางยุทธวิธีว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยในเชิงป้องกัน ไม่ใช่แก้ไข ต้องป้องกันในเชิงรุกตามยุทธวิธีต่างๆ ที่ขณะนี้ระบบดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์ เพราะต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะดำเนินการให้กระทบกับพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุด ในการสร้างความปลอดภัยในพื้นที่
สำหรับภาพรวมในการทำงานแก้ปัญหาของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ขณะนี้ ตนเองยังไม่พอใจ ตราบใดที่ยังมีการบาดเจ็บล้มตาย ก็ยังไม่มีคำว่าพอใจ เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องทำให้ไม่มีคนบาดเจ็บและล้มตาย ตนจึงต้องลงพื้นที่มาสอบถามว่าปัญหาคืออะไร ทำอย่างไรจะลดต่ำลงกว่านี้ ที่ผ่านมาสถิติลดน้อยลงแต่ความรุนแรงมากขึ้น น้อยครั้งแต่ตายมากขึ้น จะเป็นเช่นนั้นไม่ได้ จะต้องไปหาว่าจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร เจ้าหน้าที่ไม่มีใครคิดว่าต้องการให้มีเหตุการณ์เพื่อที่จะได้ทำงาน เพื่อให้มีงบประมาณ ตนเองอยากให้จบพรุ่งนี้ด้วยซ้ำไป ลูกน้องก็จะได้กลับบ้าน กลับไปดูแลครอบครัวกัน จะมาอยู่ที่นี่กันเพื่ออะไร เอาประเทศชาติมาเสี่ยงทำไม จะเอาชีวิตคนใต้มาเสี่ยงทำไม ทำให้บ้านเมืองสงบดีที่สุด